14 สิงหาคม 2564

growth hormone deficiency:GHD

 ลิโอเนล เมสซี่... นักเตะผู้ชนะฟ้าลิขิต ชนะชีวิตด้วยตัวเอง

ข่าวใหญ่ระดับโลกกับการย้ายทีมของยอดนักเตะแห่งยุค ลิโอเนล เมสซี่ ที่ตอนแรกลือหึ่งว่าจะมาเป็นพลพรรคหงส์แดง (ใครลือฟระ) แต่สุดท้ายเมสซี่ก็เลือกไปดินแดนแห่งแฟชั่นและแชมป์ฟุตบอลโลกที่ปารีส

ผมว่าต่อให้คนที่ไม่ดู ไม่สนฟุตบอล ก็ยากที่จะไม่รู้จักเมสซี่ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาที่ฟัดเหวี่ยงมากับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผลัดกันครองความเป็นหนึ่งแบบที่สามค้อนไม่หายไปหลายคน แต่ทุกคนรู้ดีว่าทั้งเจ๊ตโด้และเมสซี่ ไม่ได้ขึ้นครองตำแหน่งแบบง่าย ๆ เพราะพวงสวรร..เอ้ย พรสวรรค์ที่ได้มาจาก DNA แต่เป็นเพราะเขาทั้งคู่ทำงานหนักกว่าใครในโลก จึงได้มาอยู่จุดนี้ โรนัลโด้เกิดจากครอบครัวยากจน ต้องซ้อมหนัก มีวินัยขั้นสุด เมสซี่ก็ลำบากไม่แพ้กัน และหนึ่งความลำบากนั้นเกิดจากโรคที่เมสซี่เป็นแต่เด็กคือ ขาดฮอร์โมนที่ใข้ในการเจริญเติบโต (growth hormone deficiency:GHD)

Growth Hormone เป็นฮอร์โมนสำคัญในการเจริญเติบโตของเด็กและวัยรุ่น หากขาดไปจะทำให้ตัวเล็ก การเจริญเติบโตน้อยกว่าที่ควร ส่วนในผู้ใหญ่จะทำให้เกิดอาการได้น้อยกว่า เพราะผู้ใหญ่ไม่เจริญเติบโตแล้ว แต่จะหนักไปทางควบคุมการทำงานของร่างกายไม่ได้ดีนัก เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึม การจัดการไขมันไม่ดี โดยเฉพาะอ้วนลงพุงและไขมันในเลือดสูง

สาเหตุการเกิดในเด็กมีมากมาย ส่วนใหญ่ก็เกิดเอง มีความผิดปกติทางพันธุกรรม อาการจะเริ่มเห็นชัดในวัยเด็กโตสักหน่อย เริ่มไม่สูง กล้ามเนื้อเล็ก อย่างเมสซี่ก็เริ่มมีปัญหานี้ตั้งแต่อายุ 9 ปีและวินิจฉัยได้ชัดเจนตอนอายุ 11 ปี

การวินิจฉัยนั้น อาศัยอาการไม่โต เช่นตัวเล็ก กล้ามเนื้อเล็ก จู๋เล็ก (salikahappymen สะดุ้งเฮือก) อาการไม่โตนี้ต้องแยกหลายโรคนะครับ ทั้งตัวเล็กจากพันธุกรรม ขาดสารอาหาร ป่วยเรื้อรัง แต่ในโรค GHD จะมีการตรวจอย่างหนึ่ง ที่ค่อนข้างบ่งชี้คือตรวจพบ IGF-1 ในระดับต่ำ (growth hormone ทำงานผ่าน IGF-1) แต่ถ้า IGF-1 ปกติก็อาจเป็นโรคนี้ได้นะครับ

ด้วยเหตุว่าฮอร์โมน growth นี้ หลั่งจากต่อมใต้สมองเป็นระลอก (pulsation) และอยู่ในกระแสเลือดไม่นาน การตรวจวัดตรง ๆ นอกจากวัดยากแล้วยังความไวไม่มากอีกด้วย เราจึงใช้วิธีการวัดด้วยวิธี provocative test จัดสถานการณ์ว่าร่างกายจะต้องหลั่ง growth hormone ออกมาแน่ ๆ แล้ววัดค่าตอนนั้น ถ้าค่าต่ำกว่าเกณฑ์แสดงว่าไม่สามารถสร้างได้แน่นอน

การทำ provocative test มีหลายวิธี วิธีที่ใช้เดิมคือ insulin induced hypoglycemic test คือให้อินซูลินจนระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ร่างกายจะตอบสนองโดยการเพิ่มการหลั่ง growth hormone เราก็วัดค่าเลย แต่วิธีนี้จะเสี่ยงมากเพราะถ้าน้ำตาลต่ำจนแก้ไม่ทัน อาจชัก อาจอันตรายต่อหัวใจ

ปัจจุบันนิยมทำ stimulation test คือให้สารที่ไปกระตุ้นการหลั่งของ growth hormone แล้ววัดค่าว่าเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ เจาะเลือดเป็นชุด ๆ ต่อเนื่องกันหลังให้สารกระตุ้น วิธีนี้จะดูปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็อาจจะต้องระมัดระวังการแปลผลพลาดในคนที่น้ำหนักตัวมาก ไขมันใต้ผิวหนังมาก อายุมาก

สารกระตุ้นตามธรรมชาติคือ GHRH (growth hormone-releasing hormone) ที่หลั่งมาจากสมองส่วนไฮโปทาลามัส เราสามารถใช้สารนี้มาทดสอบได้เหมือนกัน แต่ราคาสูงและหายาก ปัจจุบันสามารถใช้สารอื่นที่ราคาไม่แพงและมีขั้นตอนการตรวจอันเป็นที่ยอมรับเช่น ยาฉีด glucogon, ยากิน macomorelin การตรวจลักษณะแบบนี้ใช้เวลาไม่นาน ปลอดภัย และเชื่อถือได้

หากพบว่ามีการขาดฮอร์โมนจริง ก็ต้องมาหาสาเหตุ
ในผู้ใหญ่คงต้องมาตรวจหาเนื้องอกต่อมใต้สมอง เซลล์ที่มาแทรกตัวที่ต่อมใต้สมองหรือก้านของต่อมใต้สมอง (ส่วนใหญ่จะกระทบฮอร์โมนหลายชนิด) และรักษาตามเหตุ พร้อมกับชดเชยฮอร์โมน

การชดเชยฮอร์โมนในเด็กมีความสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโต แต่ในผู้ใหญ่นั้นเราไม่ได้ชดเชยทุกรายครับ ทำเป็นกรณีไป การชดเชยทำได้โดยฉีดฮอร์โมนเข้าใต้ผิวหนังสัปดาห์ละสามครั้งหรือมากกว่านั้น ปรับยาจนได้ขนาดรักษา และฉีดต่อเนื่องจนถึงขีดสุดของการเจริญเติบโต ในกรณีของเมสซี่ เขาต้องฉีดยาตัวนี้ตั้งแต่อายุ 12 ปี และฝึกฝนตัวเองตลอดเพื่อให้พัฒนาการของกล้ามเนื้อและกระดูกไม่แย่ลง

ยาที่ใช้ส่วนมากจะเป็น recombinant hormone คือสร้างขึ้นจากพันธุวิศวกรรมที่ราคาสูง และต้องใช้ไปตลอดจนโตเต็มที่ สำหรับเด็กน้อยเมสซี่ตอนนั้นถือว่าเป็นภาระหนักทีเดียว ครอบครัวก็ไม่ได้มีรายได้สูงนัก ถึงแม้ตัวเขาเองจะได้รายได้จากสโมสรนีเวลล์โอลด์ส'บอย จากการเป็นนักเตะ ก็ยังไม่พอ ตอนนั้นแม้สโมสรนีเวลล์จะเห็นแววรุ่งของเขามากแค่ไหน แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องสนับสนุนฮอร์โมนกว่า 60,000 บาทต่อเดือนในสมัยนั้น แถมประเทศอาร์เจนตินายุคนั้นก็อยู่ในช่วงระยะเวลายากลำบาก ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง เศรษฐกิจแย่ การจัดหายามาให้เมสซี่ก็ไม่ง่ายนัก จึงไม่ต่อสัญญา

เมสซี่และคุณพ่อของเขา จึงตัดสินใจไปตายดาบหน้า ควักเงินสะสมก้อนสุดท้าย ลัดฟ้าไปเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เพื่อลงคัดเลือกตัวที่ลามาเซีย ศูนย์ฝึกเยาวชนที่ดีที่สุดในโลก ที่นั่นเมสซี่ได้ทำให้สตาฟฟ์โค้ชของบาร์เซโลน่าถึงกับตะลึง ถึงแม้จะต้องสนับสนุนเงินค่า growth hormone พร้อมกับค่าเหนื่อยก็ตาม แต่ทางสโมสรบาร์เซโลน่าคิดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า กับเด็กตัวเล็ก ๆ ที่มีโรคประจำตัวจากอาร์เจนตินาคนนี้

นั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งตำนาน ยอดนักเตะที่เกือบได้มาเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่แห่งแอนฟิลด์

อาจเป็นรูปภาพของ หนึ่งคนขึ้นไป และข้อความ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น