20 มิถุนายน 2564

การรับวัคซีนมีผลต่อประสิทธิภาพการสืบพันธุ์หรือไม่

 ช่วงนี้ผมจะห่างหายไปสักหน่อยครับ ฟุตบอลยูโรสนุกเสียเหลือเกิน วันอาทิตย์สบาย ๆ แบบนี้จึงขอมาอัพเดตข่าวเบาเกี่ยวกับวัคซีนโควิดกันสักหน่อย

ต้องยอมรับว่า วัคซีนโควิดเป็นสิ่งใหม่ การอนุมัติใช้ก็เป็นแบบฉุกเฉิน เราจึงต้องติดตามสิ่งที่จะเกิดกันตลอด แถมก็เกิดขึ้นจริง ทำให้หลายคนเกิดความลังเลที่จะรับวัคซีนเนื่องจาก 'ความใหม่' ของมันนี่แหละครับ

ที่ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา : หน่วยศัลยศาสตร์ยูโรวิทยาของมหาวิทยาลัยไมอามี่ได้ทำการศึกษาผลอันหนึ่งที่เกิดจากการรับวัคซีนชนิด mRNA ทั้งของไฟเซอร์และโมเดอนา ว่าการรับวัคซีนมีผลต่อประสิทธิภาพการสืบพันธุ์หรือไม่

แล้วเขาวัดอย่างไร : เขาวัดผลทางอ้อมนะครับ โดยวัดจาก ปริมาณน้ำอสุจิ, ความหนาแน่นของตัวอสุจิ, การเคลื่อนที่ของตัวอสุจิ และการตรวจนับตัวอสุจิที่พร้อมเคลื่อนที่ ตัวชี้วัดเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดที่ใข้กันทั่วไปเกี่ยวกับสมรรถนะการสืบพันธุ์เพศชาย โดยวัดก่อนฉีดวัคซีนและหลังฉีดวัคซีน

ทำการศึกษาอยู่หนึ่งเดือน มีสุภาพบุรุษเข้าร่วมวิจัย 45 คน อายุเฉลี่ยที่ 28 ปี และไม่นับคนที่มีน้ำอสุจิน้อยตามธรรมชาติมาศึกษา โดยรับวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอนาอย่างละครึ่ง ผลตรวจก่อนการฉีดวัคซีนของทุกคน อยู่ในเกณฑ์ไม่บกพร่อง เรียกว่าพ่อพันธุ์เลยล่ะ ผลที่ออกมาคือ

หลังฉีดวัคซีนครบสองเข็ม พบว่าในทุกมิติของตัวชี้วัดสมรรถนะการสืบพันธุ์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับก่อนฉีด OMG !!! ก็น่าจะพอบอกได้ว่าการฉีดวัคซีนคงไม่ส่งผลต่อสมรรถนะการสืบพันธุ์ แต่ก็เป็นเพียงการศึกษาเล็ก ๆ ที่เดียวนะครับ แถมต้องบอกว่าเป็นวัคซีน mRNA อีกด้วย

หนึ่งในคำอธิบายบอกว่า การที่สมรรถนะเพิ่มขึ้นอาจไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่อาจจะเกิดจากการ 'เว้นระยะห่าง' นานไปหน่อย มันเลยเข้มข้นและท้นท่วมอย่างที่เห็น (ถึงขั้นมีนัยสำคัญทางสถิติเลยนะ แค่ 21 วัน) แต่ผมก็ไม่เห็นการแจกแจงในงานวิจัยนะครับ ว่าได้แบ่งกลุ่มย่อยคิดคำนวณ (pre-specified group) ในแง่ความสม่ำเสมอของการปฏิบัติงาน ถี่บ่อย มากน้อย จะมีผลต่อตัวชี้วัดอสุจิหรือไม่

งานวิจัยนี้นอกจากลงใน JAMA เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ออกมาใน CNN อีกด้วย ก็เรียกว่าสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นสนั่นเตียงล่ะครับ

"โดนวัคซีน สมรรถภาพ เหลือกิน
โดนแอดมิน สมรรถภาพ เหลือบรรยาย"

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น