06 กันยายน 2563

วิธีพักเบรก

 เวลาที่ต้องเรียนติดต่อต่อเนื่องกันนาน ๆ อ่านตำราเป็นตั้ง ๆ เตรียมสอบแบบไฟลน เราจะมีวิธีพักเบรกแบบใดบ้าง ลุงหมอมีคำแนะนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

จัดตารางเอง..
ถ้าเราจัดตารางเองได้ ให้เราจัดตารางการเข้าเรียนหรืออ่านหนังสือแบบสลับ หมายถึงสลับเรื่องที่ตั้งใจสุด ๆ กับเรื่องที่เราอ่านมาแล้วหรือพบรู้แล้วแต่แค่ฟังทบทวน เราจะได้พักสมอง เช่น เราเรียนเรื่องแนวทางการรักษาผู้ป่วยเสร็จแล้วเราก็สลับไป expert discussion เพื่อฟังผู้เชี่ยวชาญคุยกันสลับฉากและเปลี่ยนอารมณ์ มันจะได้ไม่ตึงไป

อย่าเมินเวลาพักเบรก..
สมองคนเราโฟกัสเรื่องราวหนัก ๆ ได้ไม่นานหรอกครับ มันจะอ่อนล้า เวลานักเรียนเรียนหนังสือยังมีเวลาพักเลย เวลาเราอ่านหนังสือหรือไปอบรม อย่าละเลยเวลาพักแบบนี้นะครับ ลุกไปยืนเดิน คุยกับเพื่อน หรือจะไปเข้าห้องน้ำ เปลี่ยนอิริยาบทจะเพิ่มความพร้อมความสดใส หรืออ่านหนังสือเองที่บ้าน พอครบชั่วโมงก็ลุกไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อย

งีบสั้น ๆ..
ใครทำได้ถือว่าได้กำไรครับ หากสามารถพักสายตาสัก 10-20 นาที ช่วงเบรก ช่วงกลางวัน หรืออ่านหนังสือมาสองสามชั่วโมง การได้งีบสักหน่อยจะรีเฟรชสมองได้เป็นอย่างดี แต่หากไม่ง่วงหรือไม่สามารถงีบได้ก็อย่าฝืนนะครับ อาจใส่หูฟัง แล้วเปิดเพลงที่ชอบสักสองสามเพลงก็ได้ ส่วนตัวผมมีเพลย์ลิสต์เฉพาะการพักระหว่างวิชาหรืออ่านหนักนะครับ ผมฟังบรรเลงเปียโน หรือเครื่องสายไทย จังหวะเย็น ๆ ผ่อนคลาย ก็ช่วยได้

กินดื่ม..
ขอกล่าวก่อนว่า อย่ากินมากดื่มมาก มันจะง่วง หรือกินไปฟังไป มันขาดสมาธิครับ กินดื่มให้เรียบร้อยไปเลย ผมลองมาหลายสูตรแล้ว สูตรที่คิดว่าได้ผลโดยส่วนตัวคือ เครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอมครับ ชามะลิแบบอุ่น ๆ หรือกาแฟร้อน ทั้งอุณหภูมิ รสชาติ กลิ่น มันจะช่วยให้เราตื่นขึ้นและพร้อมเรียน ส่วนของว่างที่แนะนำ ผมแนะนำผลไม้นะครับ สุดยอดของผมคือแก้วมังกรแช่เย็นสักสองชิ้น หรือไปนอกสถานที่ก็เป็นกีวีอบแห้งสักหน่อย กับเครื่องดื่มอุ่น ๆ สักถ้วยก็พอ

อ่านนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์..
ให้อ่านเรื่องสั้น ๆ ในนิตยสารสักหน้าสองหน้า หรือหนังสือพิมพ์ก็ได้ครับ เปลี่ยนสวิตช์เรื่องที่เรารับรู้ พักสมองส่วนเรียนรู้ หรือใครจะอ่านข่าวทางอินเตอร์เน็ตก็ได้ แต่ผมไม่แนะนำอ่านโซเชียลมีเดียนะครับ มันจะดึงความสนใจมากเกินไป ส่วนตัว ผมอ่านข่าวสั้นสักสองเรื่องครับ แนะนำเรื่องกีฬาหรือบันเทิงนะครับ

รู้ขีดจำกัดของตัวเอง..
อันนี้สำคัญมาก แต่ละคนมีวิธีเรียน มีความอึด มีการรับรู้ต่างกัน ไม่ใช่ทุกคนจะฟังบรรยายได้ทั้งวัน หลายคนก็ชอบฟังดีเบต หรือชอบดูมีเดีย เดินถกเถียงกับเพื่อน ควรมีตารางเรียนหลายอย่าง อย่าให้เบื่อครับ และปรับสัดส่วนการเรียนให้เหมาะสม เรียนในวิธีที่ถนัดและแบ่งสัดส่วนไปเรียนรู้วิธีใหม่ ๆ ด้วย เช่น ใครชอบฟังบรรยาย ก็ฟังสัก 70% ที่เหลือไปฟังการดีเบต การถกเถียง หรือถามตอบบ้าง จะได้เปิดวิธีใหม่ ๆ ให้ตัวเอง

และเหนือสิ่งอื่นใด คือ ความล้าจะแปรผกผันกับความสด ผมเห็นน้อง ๆ หลายคนตั้งใจเรียนในคาบเช้า แต่ไปเที่ยวดึกในคืนนี้ แม้จะทำได้แต่มันก็ไม่ดีที่สุด ถ้าจะต้องมาเรียน มาอบรมเอาเรื่อง หรืออยากรู้เรื่องจริง ผมแนะนำนอนหลับอย่างน้อย 6 ชั่วโมงเลยครับ ตื่นมากายบริหารสักหน่อย อาบน้ำร้อน สบู่หอม ๆ ..และน้ำสุดท้ายให้ใช้น้ำเย็น อันนี้สุดยอดมาก ทั้งสดชื่น ตื่นตัว พร้อมดาวน์โหลดข้อมูลลงสมองแน่นอนครับ

ในภาพอาจจะมี ผู้คนกำลังนั่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น