21 กรกฎาคม 2562

ควรเก่งด้านกว้างคู่กับด้านลึก

ถ้าคุณอยากจะก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ให้ลองศึกษาหนทางอื่นด้วย
หลายวันก่อนมีเพื่อนเก่าแก่สมัยมัธยม ส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊ก ว่าไม่ได้เจอกันนาน วันนี้เรามีอะไรดี ๆ มานำเสนอ สุขภาพนายยังดีอยู่ไหม เรามีตัวช่วยนะ แล้วก็มาจบที่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดหนึ่ง แนะนำให้ใช้ก่อนแล้วลองมาทำธุรกิจด้วยกัน ผมให้เขาส่งข้อมูลมาทางอีเมล์ อยากอ่านเพิ่ม (อะไรประมาณนี้) แล้วก็ได้เอกสารมาสักแปดฉบับได้ ตบท้ายด้วยถ้านายสนใจ เราจะพาไปหาอาจารย์หมอนะ เขาเก่งมากเลย เขาจะได้แนะนำได้
ผมไม่ได้ตอบตกลงอะไรหรอกครับ บอกว่า เงินไม่ค่อยมี ภาระเยอะ รถ บ้าน คอนโด ..ก็ว่าไป
คุณเพื่อนก็ไม่ได้มาตอแยมากนัก ผมเองมานั่งนึก ๆ ดูว่าเราเองศึกษาใน modern, westenize, evidence-based, scientific based medicine มาตลอด หรือเราไม่รู้ในเรื่องอื่นเลย เวลาถามคนไข้ก็พบว่าเกือบ 90% ใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งนั้น หรือการแพทย์แบบที่ผมเรียนมามันไม่ตอบโจทย์เขา(วะ)
หรือมันเป็นเรื่องของการสื่อสาร propaganda ที่การแพทย์ยุคนี้ไม่ตอบโจทย์ แล้วเราจะทำอย่างไร
ส่วนตัวผมเป็นคนไม่ปิดกั้นข้อมูล ไม่เลือกข้าง ชอบที่จะรับฟังและศึกษาวิธีคิดที่ต่างจากเรา นิสัยเสียของเราคือเรามักจะชอบเรียกสิ่งที่ต่างจากที่เราคิดว่า นอกระบบ ทางเลือก เพียงเพราะเขาคิดและเชื่อด้วยระบบอื่น
จึงเลือกที่จะศึกษา อ่าน ค้นด้วยความจริงว่ามันจริงหรือไม่ หลายครั้งก็พบว่าเป็นแนวคิดที่ดีแต่ยังพิสูจน์ไม่ชัด ข้อมูลไม่พอ บางทีก็พบว่าความจริงนิดเดียวแต่พูดเหาะเหินเกินลงกาไปถึงมิถิลาเลยทีเดียว
วันนี้เลยมาลองค้น ลองอ่านที่คนอื่นเขาอ่านกันซิ เขาเขียนอย่างไร เขาพูดอะไร เพื่อจะได้รู้ทัน รู้บ้าง เวลาที่เราไม่รู้ เรามักจะชอบปฏิเสธมันไว้ก่อน
อย่าเพิ่งเข้าใจว่าผมจะย้ายข้าง ถูกดูด อะไรแบบนักการเมือง เพียงแต่อยากรู้อีกด้านหนึ่ง ว่าเขาคิดอะไร ทำอะไร และสิ่งที่คุณต้องใช้เวลาศึกษาศาสตร์อีกแขนงหนึ่งคือ ..อุเบกขา
ผมเชื่อว่าคนเราควรเก่งด้านกว้างคู่กับด้านลึก เรียนรู้และฟังความคิดต่างอย่างสร้างสรรค์ สังคมจะเจริญขึ้นครับ คนเราอยู่กันได้ เห็นต่าง ทำสงครามความคิดได้แต่ต้องมีมิตรภาพและจริยธรรมกำกับเสมอ
"เห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดาดี แต่ทูฮันเดรดแอนด์ฟิฟตี้มันยังไง ๆ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น