21 มิถุนายน 2562

ยา canagliflozin กับ knock your socks off

สำนวนอังกฤษ กับ อายุรศาสตร์ง่ายนิดเดียว
เว็บไซต์ medscape หนึ่งในเว็บไซต์ทางการแพทย์พาดหัวข่าวว่า ยา canagliflozin สามารถลดการเกิดโรคไตและโรคหัวใจได้อย่าง "knock your socks off"
สำนวน knock your socks off ความหมายตามพจนานุกรมคือ to impress them ในความหมายว่าสร้างความประทับใจแบบสุดสุด หรือทำให้ทึ่ง อีกหนึ่งความหมายคือ to defeat someone or something completely ผมแปลว่าแบบหมดจดแล้วกัน
แล้วยาตัวนี้มันทำให้ทึ่งแบบนั้นจริงหรือ อ้างอิงไปถึงการศึกษาที่ชื่อ CREDENCE นำเสนอในงานประชุมโรคไตนานาชาติและสมาคมเบาหวานอเมริกาล่าสุด เรามองดูกัน
การศึกษานี้ทำในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สอง ชนิดที่เราคุ้นเคยกัน โดยผู้ที่จะเข้าร่วมต้องมีโรคไตเสื่อมเรื้อรังร่วมด้วย มีทั้งค่าการกรองของไตที่ลดลงและโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานและไตเสื่อมนั้นโดยทั่วไปจะได้รับยากลุ่ม ACEI หรือ ARB เพื่อชลอความเสื่อมของไตอยู่แล้ว คนที่จะเข้าร่วมการศึกษานี้จะต้องได้รับยานี้จนได้ขนาดคงที่มาก่อน เรียกว่านำคนไข้เบาหวานที่ไตเสื่อมและได้รับการดูแลอย่างดีมาแล้ว มาทำการศึกษาว่ายาจะเพิ่มประสิทธิภาพอีกหรือไม่ (ค่าการกรอง GFR เฉลี่ยที่ 55 น้ำตาลเฉลี่ยที่ 8.5% เรียกว่าคุมดีทีเดียว)
คนไข้จะมีโรคหัวใจหรือไม่ก็ได้และที่เข้าร่วมการศึกษามีผู้ที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้วครึ่งหนึ่ง และมีผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงร่วมด้วยถึง 96% เรียกว่า นำผู้ป่วยเบาหวานที่เสี่ยงสูงมาทำการศึกษาเลย
แบ่งกลุ่มให้ยา canagliflozin และ ยาหลอก เพื่อวัดผลว่า ไตวายจนต้องรับการรักษาทดแทน ระดับค่าครีอะตีนินเพิ่มสองเท่า (คือไตแย่ลง) การเสียชีวิตจากโรคไต และการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ เป็นการดูผลแบบรวม และเฝ้าดูผลข้างเคียงอันตรายจากยา ต้องตัดเท้า, ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ, เลือดเป็นกรด
ผลออกมาแบบนี้ กลุ่มที่ได้รับยา canagliflozin ได้ผลที่ดีกว่ายาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ (HR 0.70 95% CI 0.59-0.82) โดยผลดีนั้นส่วนมากเกิดจากการปกป้องไตมากกว่าจากโรคหัวใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้โรคหัวใจแย่ลง ผลข้างเคียงที่เกิดไม่ต่างจากยาหลอก
การศึกษาจำเป็นต้องยุติก่อนกำหนดหลังจากเก็บตัวอย่างได้ครบ แต่ยุติก่อนกำหนดคือติดตามได้แค่ 2.6 ปี ปรากฏว่าประโยชน์ที่ได้จากยามันมากกว่ากลุ่มที่ได้ยาหลอกอย่างมากมายจนคณะกรรมการต้องยุติการศึกษาเนื่องจากจะไม่ยุติธรรมกับกลุ่มยาหลอก
ผลที่ออกมาว่ายากลุ่ม SGLT2i ได้ผลปกป้องไตและหัวใจได้มากขึ้น แม้แต่ได้รับการรักษาอย่างดีมาแล้วยังสามารถแสดงให้เห็นประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นมาก การศึกษานี้สอดคล้องกันกับยากลุ่ม SGLT2i อื่น ๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ทั้ง empagliflozin และ dapagliflozin จนถึงขั้นต้องจับตาดูว่า แนวทางการรักษาจะขยับยากลุ่มนี้ขึ้นไปเป็นการรักษาตัวแรกคู่กับ metformin หรือเป็นยาตัวที่สองต่อจาก metformin หรือไม่
knock your socks off ไหมครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น