06 สิงหาคม 2561

กลิ่นและรส มีผลต่อการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

กลิ่นและรส มีผลต่อการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
ก่อนหน้ายุคบุหรี่ไฟฟ้าที่สามารถใส่กลิ่นสีรสได้ บุหรี่มวนก็มีรสเช่นกัน รสที่ได้รับความนิยมและใช้มาตลอดคือรส เมนทอล อิทธิพลของเมนทอลทำให้ติดง่ายเลิกยากมากขึ้น ความพยายามของหลายองค์กรที่จะควบคุมการสูบบุหรี่คือ ห้ามการใช้รสเมนทอล ผลปรากฎว่าก็ช่วยลดปริมาณการสูบลง แต่ไม่ได้ทำให้อัตราการเลิกบุหรี่มากขึ้น
เมื่อมาถึงยุคของบุหรี่ไฟฟ้า การใช้นิโคตินเหลวมาเผาไหม้ผ่านวงจรไฟฟ้า ผู้ใช้และผู้ผลิตสามารถปรับแต่งกลิ่นและรสของนิโคตินเหลวได้ มีความกังวลจากฝ่ายรณรงค์เลิกบุหรี่ว่า สีกลิ่นรสเหล่านี้จะดึงดูดเยาวชนให้มาใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น (ทั้งไม่เคยใช้มาก่อนและเปลี่ยนจากบุหรี่มวนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า) เพราะความรู้สึกปลอดภัยกว่ากลิ่นรสของบุหรี่ธรรมดา
และบางครั้งบางชนิด มาตรฐานของน้ำยานิโคตินที่ผสมกลิ่นรส หรือการปรับปรุงกลิ่นรสโดยใช้สารที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือมาตรฐานจากการผสมอาหารแต่ยังไม่ได้รับรองในแง่การใช้จากการเผาไหม้ ทั้งสองประเด็นนี้ทำให้นิโคตินเหลวที่เผาไหม้เข้าไปในร่างกายอาจมีพิษจากสารปรุงแต่งกลิ่นและรสได้
มาถึงยุคปัจจุบัน ท่านคงจำ JUUL บุหรี่ไฟฟ้าชนิดใหม่ที่เป็นแท่งเล็กๆพกง่ายคล้ายแท่ง USB drive สามารถชาร์จผ่านพอร์ตยูเอสบีได้ มีนิโคตินเหลวที่บรรจุเสร็จ ใส่เข้าไปเหมือนแท่งรีฟิล ไม่สามารถปรับแต่งได้ มีความเข้มข้นนิโคตินที่ต่างกันและมีหลากหลายรสชาติ
เจ้า JUUL นี้กำลังได้รับความนิยมสูงมากในอเมริกา กว่า 70% ของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าถูก JUUL เข้ายึดครองตลาด โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน
ทางองค์การอาหารและยาสหรัฐได้พยายามศึกษาและควบคุม JUUL โดยเฉพาะประเด็นสีและกลิ่นที่ชวนใช้ เช่น White Ice Mint, Fruit Chill, Cinnamon Surge, Spearmint Burst, and Mint มีอิทธิพลต่อการใช้ JUUL มากกว่ากลิ่นรสธรรมดา หรือ ไม่มีกลิ่นรส
ตอนนี้เริ่มมีการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะกลุ่มเยาวชน ซึ่งไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของบุหรี่ไฟฟ้า กลับหันมาใช้มากขึ้น ทั้งไม่เคยใช้มาก่อน และเปลี่ยนมาจากบุหรี่มวน ถึงแม้การเปลี่ยนจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นบุหรี่มวน จะเกิดในอัตราส่วนที่ไม่สูง แต่ถ้าเรามาคำนวณตัวเลขจริงที่ไม่ใช่สัดส่วนจะพบว่าปริมาณเพิ่มสูงจากอดีตมาก เพราะปริมาณผู้ใช้ JUUL มากขึ้นนั่นเอง
ทบทวนเรื่องราวของ JUUL บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น