01 พฤษภาคม 2561

ทางการแพทย์ใช้ยาลดน้ำหนักไหม

โพสต์นี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ เขียนสดๆ เลย
ทางการแพทย์ใช้ยาลดน้ำหนักไหม ... ปัจจุบันนี้หลักฐานชัดเจนแล้วว่า ถ้าเป็นโรคอ้วนนั้นให้รีดน้ำหนักด้วยการควบคุม "พลังงาน" ให้ได้สมดุลเป็นลบ หรือ ใช้มากกว่าที่กิน ปกติร่างกายเราใช้พลังงานพื้นฐานอยู่แล้ว เรากินเพื่ออยู่ แต่หากเราใช้พลังงานมากขึ้น เช่น ทำงานออกแรง เล่นกีฬา เราก็ต้องกินมากขึ้น
ห้ามคิดกลับกันว่า กินมากขึ้น ก็ไปออกกำลังกายออกให้หมด (เพราะมันไม่หมดหรอก ถ้าคุณไม่ใช่นักกีฬาอาชีพแบบโมฮัมเหม็ด ซาล่าห์)
ถ้าจะลดน้ำหนัก อสมการพื้นฐาน กินน้อยกว่าที่ใช้ หรือใช้ให้มากกว่าที่กิน จบ
เอาล่ะ ถ้าควบคุมเต็มที่แล้ว อย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี อย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอต่อเนื่อง ด้วยอาหารสูตรใดก็ได้ น้ำหนักจะลดลง 5-6 กิโลกรัมต่อปี เราจะไม่ลดมากกว่านี้เพราะคุณจะทนไม่ได้ ตบะแตก บางคนแตกตั้งแต่สามวันแรก ของพวกนี้ห้ามใจเร็วด่วนได้ จีบสาวยังต้องใช้เวลาตั้งหลายปี ลดน้ำหนักจะเร็วได้อย่างไร
น้ำหนักคนเราจะลงแบบขั้นบันได เมื่อเราปฏิบัติต่อเนื่อง มันจะต้องเข้าสมดุลสักพักหนึ่งก่อนที่จะลดลงต่อไป ดังนั้นอย่าเพิ่งท้อหากยังไม่ลดในระยะแรกๆ หรือ ลดลงแล้วคงที่
ในกรณีไม่ได้อันนี้ก็ใช้ยา ยาส่วนมากเป็นยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและระบบประสาทส่วนกลางทั้งสิ้น ผมจะไม่พูดรายละเอียดเพราะการใช้ต้องอยู่ในความควบคุมใกล้ชิด การศึกษาทั้งหลายที่ทำแล้วสำเร็จคือ ต้องอ้วนจริง ดัชนีมวลกายสูงทั้งนั้น 30-35 เป็นต้น พวกที่ผอมแล้วอยากผอมอีก หรือ แค่อวบๆ พอกอดเต็มมือ ใช้ยาไม่ได้หรอกครับ
การใช้ยาต้องใช้เป็นระยะเวลาหนึ่ง และต้องผ่านการคุมอาหารมาก่อนรวมทั้ง ควบคุมอาหารและออกกำลังกายต่อเนื่องตลอดเวลาที่กิน
ยาตัวใหม่ล่าสุด ยาฉีดเบาหวานตัวหนึ่งที่มีผลลดน้ำหนัก มีการศึกษาในคนไม่เป็นเบาหวานที่อ้วนมากๆๆ ยมกสิบตัว รีดน้ำหนักขั้นสุดยอดมาแล้ว และต้องทำต่อไป เมื่อใช้ยาเข้าไปอีกก็จะเห็นผลน้ำหนักลดลง
ดังนั้น ถ้าจะมาเดินฉุยฉาย ฉีดยาจึ๊กนึง หรือกินยาชุดนึ่ง แล้วไปกินหมูกะทะ บุฟเฟ่ต์ข้าวเหนียวมะม่วง หรือ เดินเกี่ยวทุเรียนกินในสวนแบบไม่อั้น ไม่มีทางนะครับ จะหยิบยาลดน้ำหนักตัวไหนมาใช้ ก็ต้องพิจารณาว่าในการศึกษาของเขาในการรับรองยานั้นเขามีกรรมวิธีอย่างไร เราจะแค่หยิบผลมาใช้อย่างเดียวไม่ได้
อีกหนึ่งวิธีที่ปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นการรักษาหลักในโรคอ้วนคือ การผ่าตัดแก้ไข ไม่ใช่เอาไขมันออกนะครับ แต่เป็นการผ่าตัดกระเพาะเช่น ตัดบางส่วน ทำให้ลีบลง ตัดต่อลำไส้ ใส่บอลลูน ตัดเส้นประสาท แต่ละวิธีคือต้องผ่าตัดต้องเสี่ยงทั้งสิ้น ดังนั้นต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนจะทำ
แน่นอนว่าก่อนจะถึงขั้นผ่าตัด ก็ต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอย่างหนัก รีดเค้นเต็มที่ ใช้ยา แล้วยังอ้วนอีก หรือ อ้วนแบบอันตรายเป็นโรคร่วมอื่นๆ อันนี้ก็พิจารณาผ่าเร็วขึ้น โดยทั่วไปก็น้ำหนัก 120-150 กิโลกรัม ดัชนีมวลกาย 40 ขึ้นไปทั้งนั้น ถ้าคิดว่าเราคนไทยสูง 170 เซนติเมตร ก็น้ำหนัก 115 กิโลกรัมขึ้น
ก่อนผ่าตัดต้องกินอาหารให้เป็นก่อนเพราะถ้ากินไม่เป็น ผ่าเสร็จก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้การผ่าตัดก็จะทำให้สมดุลอินซูลินและน้ำตาลดีขึ้นด้วยหากเป็นเบาหวานจะควบคุมดีขึ้น
ผมมีคาถาลดน้ำหนักมาแจกนะครับ ทำตามแล้วรับรองลดแน่ๆ
ฉันทะ...มีความยินยอม มีความสมัครใจ เห็นดีงามในเหตุผล ไม่ใช่เชื่อใครเขา
วิริยะ....อดทน ไม่ย่อท้อ ไม่ตบะแตก แม้ใครจะมายั่วอย่างไร
จิตตะ...เอาใจใส่ จดจ่อ หาความรู้ที่ถูกมาปรับใช้ ทบทวนการปฏิบัติแล้วแก้ไขในสิ่งผิด
วิมังสา...มีสติปัญญาไตร่ตรอง ให้ใช้วิธีที่ถูกต้อง ไม่หลงในอบายมุข
คนที่ลดน้ำหนักได้ หุ่นดีต่อเนื่อง อย่างน้อยก็พิสูจน์ความดีในความตั้งใจได้ ดังนั้น ผมจึงชอบสาวๆหุ่นดีไงครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น