29 มกราคม 2561

staff of asclepius

ตกลงสัญลักษณ์ทางการแพทย์มันเป็นอันไหน มีที่มาอย่างไร (เรื่องยาว โปรดหาเก้าอี้นุ่มๆ กาแฟอุ่นๆ คุ๊กกี้เนยสด เปิดเพลงคู่คอง แล้วอ่าน)

  หลายท่านอาจเห็นสัญลักษณ์ทางการแพทย์เป็นงูพันเสา งูพันปีก ตกลงมันคืออะไร ใครของจริง ใครเลียนแบบใครวันนี้เราจะมา ฟันธง !! เริ่มต้นอันแรกก่อนเป็นสัญลักษณ์ที่เราพบเห็นบ่อยที่สุด คือมีไม้คทาหัวไม้กลม..ที่บ้านเราเรียกไม้ตะพด..มีปีกหนึ่งคู่ มีงูสองตัวพันกันแบบฟีเจอริ่งกันอยู่ ม้วนตามแนวไม้จากล่างขึ้นบน เราเรียกสัญลักษณ์นี้ว่า caduceus
  caduceus นี้ไม่ใช่เทพแต่เป็นแอคเซสซอรี่ของเทพ เทพนั้นคือ เฮอมีส เทพแห่งการติดต่อสื่อสาร ค้าขาย เฮอมีสนี่มีปีกทั่วตัว หมวกก็มีปีก รองเท้าก็มีปีก ไม่เท้าก็มีปีก เทพเฮอมีสนี้เลื่อนที่เร็วดุจสายลมเปรียบดังคนนำสารของเทวดา ภาษาบ้านเราเรียก เมสเสนเจอร์บอย ครับ

  ไม้เท้า caduceus นี้เป็นเครื่องลางของพ่อค้าเร่ที่ต้องเดินทางรอนแรมไกล พวกโจรป่าห้าร้อยก็นับถือ นอกจากนี้ไม้เท้าคาดูเซียสนี้ยังสัญลักษณ์ของการเจรจาที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ด้วย  ดูๆมันช่างห่างไกลจากสัญลักษณ์ทางการแพทย์มากแล้วมันมาได้ไง ??

  คือในปี 1902 กองทัพสหรัฐได้เอาไม้เท้าคาดูเซียสมาใช้เป็นสัญลักษณ์ติดเสื้อว่านี่เป็นหน่วยแพทย์ทหารนะ เพราะอะไร ?? เพราะเคลื่อนที่เร็วหรือเพื่อโชคลางหรือเปล่า ไม่ใช่ทั้งนั้น เพราะความเข้าใจผิดต่างหาก
   ไม่รู้ว่าแผนกเสื้อผ้าเขาเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ไปหยิบตราผิดมา ตราที่ควรจะเป็นสัญลักษณ์ทางการแพทย์คือ ไม้เท้าของ Asclepius ต่างหาก แต่อย่างว่าใช้แล้วนี่ ใช้ต่อไป คนอื่นๆก็เห็นกองทัพใช้คราวนี้ใช้กันใหญ่เลย ผิดกันต่อมาเรื่อยๆ ผิดกันจนกว้างขวาง ผิดกันจนเข้าใจว่านี่เป็นของจริง แต่เราลองมาอ่านเรื่องราวของ asclepius ที่เป็นต้นกำเนิดไม้เท้างูกัน

   ไม้เท้า asclepius เป็นท่อนไม้ที่แสนจะธรรมดา มีงูตัวหนึ่งตัวเดียวเท่านั้นนะม้วนเลื้อยพันเป็นเกลียวจากล่างขึ้นบน เอ๊ะ..ทำไมต้องงู เพราะในอดีตนั้นทั้งอียิปต์ กรีก เมโสโปเตเมีย เชื่อว่างูเป็นสัญลักษณ์ของการหายจากการป่วย สัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ ก็เพราะมัน...ลอกคราบ..ได้นั่นเอง
   ดีนะที่เกิดสมัยนั้น มาเกิดที่สารขันธ์แลนด์อาจจะมีไม้เท้าติด 18 มงกุฏเพราะชอบลอกคราบเหมือนกัน

   ความเชื่อที่งูเป็นสัญลักษณ์แห่งการหาย ก็มีปรากฏในเรื่องราวของโมเสสที่ได้รับคำสั่งจากพระเจ้าให้ทำรูปงูด้วยทองแดงติดบนไม้เท้า ระหว่าที่ชาวอิสราเอลของโมเสสเดินออกจากอียิปต์หากไปพบสัตว์ร้ายใดกัด ก็ให้มองไปที่งูทองแดงบนไม้เท้านั้น ก็จะหายได้ด้วย ชื่อไม้เท้านั้นคือ Nehustan

   แต่ไม่ได้สำคัญที่ไม้เท้า มันสำคัญที่ตัว asclepius ต่างหาก asclepius คือใครและทำไมเขาจึงมีความสำคัญ

   asclepius เป็นลูกครึ่ง สมัยกรีกลูกครึ่งหมายถึงครึ่งคนครึ่งเทพ มีอำนาจดั่งเทพแต่ตายได้เหมือนคน คุณพ่อของ asclepius คือเทพอพอลโล่ เทพที่มีอำนาจในการรักษา จึงคิดได้ว่า พันธุกรรมแบบยีนเด่นของอพอลโลน่าจะถูกผ่องถ่ายมาที่ asclepius เช่นกัน ส่วนแม่ของเขาเป็นหญิงสาวเมืองมนุษย์ชื่อ coronis (แล้วไปเจอกันได้ไงเนอะ)
   ตำนานกล่าวไว้ว่า เมื่อโคโรนิสตั้งครรภ์ เธอไปแอบชอบพอกับหนุ่มมนุษย์โลกด้วยกัน ดูเรื่องราวมันช่างซับซ้อนยิ่งนัก และไม่น่าเชื่อเท่าไร แต่ก็นะเขาเขียนมาแบบนั้น อพอลโลนี่ไม่ได้รู้ระแคะระคายอะไรเลย พอมาทราบเข้าก็อารมณ์โมโหเข้าใส่ ธาตุไฟเข้าแทรก ทำการสังหารคู้ชู้รักโดยไม่ทราบว่าโคโรนิสอุ้มท้องลูกของตัวเองอยู่..

  พอสังหารเสร็จก็เห็นว่าโคโรนิสตั้งครรภ์ ...อิ๋บอ๋ายแล้ว..อพอลโลคิด ทำอย่างไรดี อย่ากระนั้นเลยจำเราจะต้องนำเด็กไปฝากกับพระเจ้าตา อพลอลโลคิดได้ดังนั้นก็ตัดสินใจทำผ่าตัดคลอด cesarean delivery ที่ถือว่าเป็นการผ่าตัดคลอดครั้งแรกในประวัติศาสตร์เทพปรณัม และที่บอกว่าไปฝากกับพระเจ้าตาก็เป็นเช่นนั้นจริงๆนะ คุณอพอลโลนำ asclepius ไปฝากให้ Chiron มนุษย์ครึ่งคนครึ่งม้า เซนทอร์เฒ่าที่เชี่ยวชาญเรื่องการรักษาเช่นกัน
  เรียกว่าพ่อแท้ๆก็มีพลังในการรักษา พ่อบุญธรรมก็เชี่ยวชาญเรื่องการรักษา จึงไม่แปลกที่ asclepius จะชอบการแพทย์มาตั้งแต่เด็ก เติบโตขึ้นมาเจ้าหนู asclepius ก็ได้ทำการรักษาคนด้วยวิธีที่ไครอนสอน ไม่ว่าจะในหมู่บ้าน ในป่า ในเมือง สนามรบ (สมรภูมิเมืองทรอยเจ้าหนูนี่ก็ไป) รักษาหายหมดโดยที่ asclepius ไม่รู้เลยว่าเป็นพลังอำนาจของอพอลโลพ่อของเขา

  นอกจากนี้ เทวีอธีนา อาสาวของ asclepius ก็ยังให้พรโดยให้ใช้เลือดของเมดูซ่าในการรักษาคนได้ เลือดจากศีรษะด้านซ้ายนั้นเป็นยาพิษ แต่เลือดจากศีรษะด้านขวากลับเป็นยาวิเศษราคา 30 บาท รักษาได้ทุกโรค

   วันเวลาผ่านไป ชื่อเสียงโด่งดังผู้คนเรียกหาและความสามารถเพิ่มพูน asclepius สามารถพาคนกลับมาจากความตายได้อีก คราวนี้ชื่อเสียงสะท้านโลกเข้าใกล้เทพเจ้าไปทุกที แน่นอนเทพเจ้าย่อมไม่พอใจ
  สองพี่น้องซุสและเฮเดส ได้รับผลกระทบโดยตรง สำหรับซูสนั้นผู้คนก็เสื่อมความนับถือ ที่ร้ายกว่านั้นศัตรูเก่าๆที่เขากำจัดไปแล้วก็กลับมาด้วย !!! เจ้าหนี้ กิ๊ก อริ กลับมาหมด ซุสไม่พอใจ  เท่านั้นไม่พอ
  เฮเดส น้องชายซุส ก็รู้สึกว่าพลเมืองนรกภูมิของเขาลดลง แรงงานเริ่มขาดแคลน เมื่อคนไม่กลัวเฮเดส คุณเฮเดสจะอ่อนแอลง

  เรียกว่ากลุ่มอำนาจเก่ายอมไม่ได้ จำต้องหาทางกำจัดเสี้ยนหนามไม่ให้เติบใหญ่ไปเบื้องหน้า ซุสก็สังหารเขา แต่เนื่องจากเป็นลูกเทพก็ต้องใช้อาวุธสังหารที่เทพพอกัน คือ สายฟ้าของซูส โดยเหตุผลของซูสช่างคล้ายเหตุผลแถวๆนี้เหลือเกิน ...หากปล่อยพลังอำนาจนี้เอาไว้สักวันหนึ่งอาจตกอยู่ในอุ้งมือคนชั่ว โลกที่จะเดือดร้อนแสนสาหัส จำเราต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม...

   ครับ..มันก็เลยไม่ใช่การลอบสังหาร มันเลยกลายเป็นการประหาร  พล่าผลาญหัวใจผู้ป่วยทั่วโลก แล้วซุสกับเฮเดสก็เดินไม่รู้ไม่ชี้กลับวิหารไป ชาวโลกจึงได้บูชา asclepius ต่อไป สร้างเป็นรูปเทพที่รูปงามมาก กล้ามเป็นมัด ซิกส์แพ็ค ไหล่ตัน เหงื่อระยับ หน้าคมเข้ม เส้นขนหน้าอกไรๆ อ่าห์..ซี้ดดส์
   พร้อมด้วยไม้เท้าที่เขาถือตลอด และเจ้างูน้อยที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการหายป่วย พันไม้เท้านั้นไว้ ในหนังสือเขาจะเรียกงูว่า serpent เป็นศัพท์ในเชิงสัญลักษณ์ของงู ความมีอำนาจแห่งงู ส่วนคำว่า snake จะเป็นศัพท์ที่หมายถึงเจ้าตัวงูเอง  เชื่อว่างูมันคงรู้ว่าใครดีหรือไม่ดี ถ้าคนไม่ดี งูมักจะไปขึ้นไปอยู่บนหัว

  และนี่คือที่มาของ staff of asclepius สัญลักษณ์ทางการแพทย์ หาใช่ caduceus ที่เข้าใจผิดกันมานานไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น