26 สิงหาคม 2560

Sweet's syndrome

ภาพปรากฏในวารสาร NEJM..Sweet's syndrome
ในเมื่อชื่อเป็นตัวอักษรตัวใหญ่มีอะโพสโทรฟี่เอส นั่นคือ เป็นชื่อเฉพาะ ในชื่อโรคต่างๆส่วนมากก็คือชื่อคนค้นพบครับ สำหรับภาวะนี้ค้นพบโดยคุณหมอ โรเบิร์ต ดักลาส สวีต แพทย์โรคผิวหนังชาวอังกฤษ (ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว) ตั้งแต่ปี 1964 คุณหมอทำงานเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์โทมัส
--ห้ามเรียก ภาวะหวาน เด็ดขาดนะครับ--
ในเมื่อสิ่งนี้เป็นภาวะไม่ใช่เป็นโรค เมื่อใดที่พบภาวะนี้ก็ต้องคิดสองประการ ประการแรก จะพบโรคร่วมโรคใดร่วมด้วย ประการที่สอง หรือนี่เป็นอาการนำของโรคใด จริงๆแล้วก็ไม่ง่ายนัก
สำหรับข้อแรก โรคที่พบร่วมด้วยมีมากมาย ไม่เฉพาะเจาะจงด้วย แต่ที่แบ่งง่ายๆก็ โรคมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน มะเร็งอื่นๆก็พบได้นะครับ เช่นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม
ต่อมาคือเรื่องภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ เช่นโรครูมาตอยด์ โรคเอสแอลอี เชื่อว่ามีการกระตุ้นสารหลายอย่างที่ใช้ควบคุมภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะ G-CSF
อาจจะเกี่ยวพันกับการติดเชื้อ ตามรายงานของ british asssociations of dermatology พบการติดเชื้อร่วมหลายอย่าง แต่ที่พบบ่อยคือ ปอดอักเสบติดเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตคอคคัส การติดเชื้ออื่นๆที่พบได้คือติดเชื้อวัณโรคหรือ มัยโคแบคทีเรียอื่นๆ
จากยาเช่น ยาลิเธียมในการรักษาอารมณ์แปรปรวน ยาไฮดราลาซีนในการรักษาความดันโลหิตสูง และอีกที่เหลือเกิดเองก็มี
สิ่งที่พบก็จะเป็นผื่นเป็นจุดหรือเป็นปื้น นูน แดง กดเจ็บเล็กน้อย ขอบเขตชัดเจน กดแล้วไม่จาง ขึ้นได้ทุกบริเวณ สีจะแดงๆตามภาพ ไม่มีสะเก็ด แน่นอนการวินิจฉัยนั้น นอกจากประวัติเร็ว ไข้ผื่น ตรวจร่างกายและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ข้อสำคัญคือต้องตัดชื้นเนื้อ
การตัดชิ้นเนื้อจะพบเซลเม็ดเลือดขาว นิวโตรฟิล จับกลุ่มรวมกันชั้นหนังแท้ (เป็นที่มาของชื่อ neutrophillic dermatosis) ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับหลอดเลือด อาจมีอักเสบเล็กน้อย บวมๆ แต่ลักษณะที่จะไปยุ่งกับหลอดเลือด postcapillary venule ที่เป็นลักษณะสำคัญของผื่นหลอดเลือดอักเสบ
อย่างในภาพก็เป็นสุภาพสตรีอายุ 52 ปีที่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์มานาน วันหนึ่งก็มีผื่นขึ้น มีไข้ เฉียบพลัน ตัดชิ้นเนื้อได้อย่างที่บอกไปตอนต้น ก็สอดคล้องกับชื่อ acute febrile neutrophillic dermatosis ( acute เฉียบพลัน febrile ไข้ neutrophillic dermatosis มีเซลนิวโตรฟิลมาสะสมที่ผิวหนัง)
ไม่ติดต่อ และหายง่าย ไม่มีรอยแผลเป็นด้วย โดยใช้สารสเตียรอยด์ขนาดสูงและค่อยๆปรับลดขนาดลง ผื่นก็จะยุบไป
อย่าลืมมองดูโรคร่วม และ อาจเป็นอาการที่บ่งชี้ถึงโรคอื่นๆได้นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น