27 สิงหาคม 2560

ทำไมต้องเคปทาวน์

บทความนี้มาจากใจนะ อย่าหมั่นไส้ อย่าหาว่าผมเฟ้อฝัน เพราะทุกคนก็มีฝัน ต่างกันที่ใครจะลงมือทำ
ทำไมต้องเคปทาวน์ ผมคิดว่าสิ่งที่ทุกคนคิดเมื่อพูดถึงเคปทาวน์คือ ภูเขารูปโต๊ะ แหลมกู๊ดโฮป ชายหาดและสันเขา นกเพนกวิน การลงดำน้ำกับปลาฉลามขาวยักษ์ แน่นอนครับ สิ่งต่างๆเหล่านี้คือความมหัศจรรย์จนถือเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ในโลกยุคใหม่
ธรรมชาติจะสอนเราว่า เราตัวเล็กและอ่อนด้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับพลังแห่งธรรมชาติ กรุณาอย่าท้าทายธรรมชาติและจงอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
แต่สำหรับผม เคปทาวน์ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มหัศจรรย์เมืองหนึ่ง ที่ผู้คนจากหลายหลายชาติและสายพันธุ์มาอยู่ด้วยกันแบบไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งๆที่พื้นฐานของแต่ละชาติพันธุ์ต่างกัน เขาเคยมีสงคราม มีการเหยียดหยัน มีการกีดกัน แต่เกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ ทุกวันนี้ทำไมอยู่ร่วมกัน เคารพกัน ในทุกๆชาติพันธุ์ ภาษาและศาสนา
ก่อนเดินทางมาที่นี่ แน่นอนครับ ผมอ่านเรื่องราวของความเป็นมาชนชาติแอฟริกาใต้ ตั้งแต่ชาวโปรตุเกสเดินเรือมาพบ การเข้ามาของชาวดัตช์ การเข้าครอบครองของจักรวรรดิอังกฤษ การหลั่งไหลเข้ามาเนื่องจากเป็นเมืองท่า
การทวงสิทธิแห่งเจ้าของพื้นที่ ชาวบุชแมนหรือ ครอยคร๊อย ในภาษาท้องถิ่น (เผ่าของนิเชาแห่งเทวดาท่าจะบ๊องส์นั่นเอง)
การค้าทาส การเข้าสู่สงคราม การแบ่งพื้นที่สีผิว ความรุนแรงแห่งการแบ่งแยก การเข้ามาของแนวคิดใหม่ของ เนลสัน แมนเดลา จนกระทั่งทุกวันนี้
ถนนทุกสายที่เดิน มีประวัติและเรื่องเล่า รอยเลือดที่จางหายไปแต่วิญญาณแห่งถนนยังคงอยู่ ป้อมปราการเก่าที่แม้ปัจจุบันจะซ่อมสร้างปรับปรุง แต่ที่ที่ผมไปยืน คือที่คุมขังนักโทษผู้เรียกร้องอิสรภาพ อันเกิดจากการกดขี่ที่ไม่เป็นธรรม
สิ่งที่พิพิธภัณฑ์จัดแสดง (พิพิธภัณฑ์ที่นี่ยอดมาก จัดทางเดินและการจัดแสดงแบบอยู่ในยุคนั้นจริงๆ) บอกเล่าสิ่งของและเรื่องราวของคนที่เคยอยู่ เคยถูกปล้นที่กินที่นอนโดยรัฐบาลที่เหยียดผิวของเขาเอง
ตึกรามและป้อมปราการที่เหลืออยู่ริมอ่าว สายลมที่พัดกระทบใบหน้า เป็นสายลมเดียวกันกับที่พาเรือจากยุโรปเข้ามาที่อ่าวแห่งนี้ ป้อมปราการนี้เคยกระหน่ำยิงเรือที่มารุกรานมากมาย
อาคารที่อยู่ ห้องที่ยังคงรักษาสภาพเดิมเมื่อกว่าร้อยปีก่อน คือ ที่ที่คุมขังทาสกว่าร้อยคน หลายคนจากไปในที่แห่งนี้
ถนนสายนี้ ..กองทัพแห่งพระราชินีอังกฤษ ได้ยาตราทัพเข้ามายึดทุกสิ่งไปจากชาวพื้นเมือง
สิ่งต่างๆเหล่านี้ มีเขียนเพียงเล็กน้อยในหนังสือไกด์บุ๊ค แทบจะไม่มีในโปรแกรมทัวร์ที่จัดขายเพราะมันไม่ตื่นตาตื่นใจ และถ้าหากคุณไม่รู้ คุณก็จะเดินผ่านมันไปโดยไม่รู้อะไรเลย โชคดีที่ผมสามารถหาเรื่องราวต่างๆนี้ได้ ข้อมูลจากบรรณารักษ์ ภัณฑารักษ์ ไกด์อาสาชาวเมือง คนขับแท๊กซี่ บริกรเสริฟอาหาร เป็นข้อมูลที่มหัศจรรย์เช่นกัน ได้รู้เรื่องที่ไกด์บุ๊กไม่เขียน
เราจึงได้เข้าใจความเป็นมาของความหลากหลายชาติพันธุ์ที่ต้องต่อสู้ร่วมกัน จนมาถึงวันนี้วันที่เคปทาวน์ไม่มีความขัดแย้ง มีแต่รอยยิ้มและความช่วยเหลือ มาที่นี่ผมได้เข้าใจถึงสิ่งหนึ่งดีขึ้นและมากขึ้นคือ...
"กรุณาเคารพศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์"
แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น