30 เมษายน 2560

ใจเขาใจเรา

ใจเขา..ใจเรา

บรืนนน ..เอี๊ยดด..รถกระบะคันหนึ่งเล่นเข้ามาจอดที่อู่ซ่อมสีแห่งหนึ่ง เจ้าของรถเดินหน้ายุ่งๆ เศร้าๆ ออกมาเดินไปหาเจ้าของอู่ ...เฮีย ผมถอยรถไปครูดเสาไฟมา ช่วยดูให้หน่อยสิ
เจ้าของอู่เดินออกมาสำรวจความเสียหายรอบคัน แล้วก็เดินไปตบไหล่เจ้าของรถที่แสนเศร้าคนนั้น  เฮ่ย..นิดเดียว ซ่อมสองวันก็เหมือนเดิมแล้ว ว่าแต่ว่า เมื่ออาทิตย์ก่อนก็เพิ่งฉลองกันชนหน้ามานี่ ทำไมหมู่นี้ล่องลอยนักล่ะ ...??

   "เฮ้อ..เครียดน่ะเฮีย ป่วยไม่หายสักที เจ็บหน้าอกแปลบๆ หายใจไม่อิ่มเลย เป็นมาเกือบเดือนแล้ว ไปหาหมอมาหลายที่แล้ว ไม่ดีขึ้น หมอก็ว่าไม่เป็นไรๆ ทำไมไม่หายสักที" ...เจ้าของรถทรุดตัวนั่งยองๆ มือกุมขมับ เฮียเดินมาบอกว่า อ้าว ก็หมอเขาตรวจแล้วว่าไม่เป็นไร ทำไมยังเครียดอีกล่ะ

     "เฮีย..ก็พ่อกับลุงผม ก็หัวใจวายเฉียบพลันตายทั้งคู่เลยนะ อาการก็แบบนี้ ผมก็กลัวดิ ผมเป็นอะไรไป ลูกเมียจะทำอย่างไร นี่ก็เพิ่งกู้เงินมาเปิดร้าน แม่ก็เจ็บออดๆแอดๆ รู้ว่าเป็นอะไร รักษาเนิ่นๆ ไม่แพง เกิดรุนแรงโป๊ะเช๊ะ ตายก็เดือดร้อน เจ็บหนักก็เดือดร้อน"
   เฮียได้ยินแบบนั้นก็ปลอบว่า อย่าคิดมากชีวิตมันไม่แน่นอน   แล้วก็ถามถึงผลการตรวจที่เพิ่งไปตรวจมา
   "ไม่ชัดเจนเลยเฮีย หมอก็พูดไม่เคลียร์ ตกลงใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้ จ่ายยาแก้ปวด กรดไหลย้งไหลย้อนอะไรนั่นแหละ ออกมาเมียก็บ่นว่า ไม่เห็นเป็นไรนี่ ทำไมต้องรบเร้าให้มาด้วย ต้องไปรับลูกสายอีกนะ บ่นกันทุกวัน"....

  เฮียกับเจ้าของรถคุยกันอยู่ ไอ้เปี๊ยกก็มุดออกมาจากใต้ท้องรถเบนซ์ที่จอดซ่อมอยู่ ...เฮียจืด คุณติ๋ม อย่าหาว่าผมสอดเลย ไอ้แบบนี้ผมเคยเจอแล้ว  คุณติ๋มเคยบอกเรื่องความกังวลของคุณติ๋มให้หมอทราบไหมล่ะ หมอหลายคนเขาก็ไม่ได้ถามครบถ้วนนะ บางทีก็ไม่รู้ คนไข้ก็มาก ยิ่งเรื่องที่คุณติ๋มมีพ่อกับลุง เป็นโรคหัวใจวายนี่น่ะ

เฮียจืดกับคุณติ๋ม..มองหน้ากัน แล้วพูดพร้อมกัน ..จริงเหรอวะ ไอ้เปี๊ยก

  ไอ้เปี๊ยกยกกระติกน้ำขึ้นซดโฮก แล้วตอบว่า ใช่สิเฮีย เวลาคนเราป่วย มันป่วยกันทั้งบ้าน ตอนที่ผมเป็นแบบคุณติ๋ม ผมไปหาหมอคนนึง แกถามเรื่องคนในครอบครัวนี่แหละ ผมก็เล่าให้ฟังแล้วบอกว่า ไม่รู้สักทีว่าเป็นอะไร ทำงานก็ลำบาก เมียก็กังวล   เฮียเชื่อไหม พอหมอเขารู้ เขาก็อธิบายอยู่สักพัก เอากระดาษมาเขียนเลยนะ ว่าผมเป็นอะไร และถ้ากลัวจะหัวใจวายต้องทำยังไง เกิดอาการเฉียบพลันทำไง แค่นั่นไม่พอ ยังบอกว่าถ้าเมียไม่เข้าใจให้มาคุยกับหมอได้ด้วย

คุณติ๋มถาม..แล้วหลังจากนั้นเป็นไงวะ
ไอ้เปี๊ยกยิ้มกริ่ม...ดีเลยคุณ ผมก็เข้าใจ ครอบครัวก็เข้าใจ หมอก็ดีใจที่เราไม่ทุกข์ มีสมาธิทำงาน ไม่ทะเลาะกับเมียอีก หมอบอกว่า บางทีแค่อธิบายให้เข้าใจ แก้ไขจุดที่คนไข้เป็นปัญหา แค่นี้ก็ช่วยทั้งคนไข้ทั้งลูกทั้งเมีย คุณติ๋ม ผมนี่กราบหมอคนนั้นเลยนะ

เฮียถามว่า หมอเขาทำงานอยู่ไหน  ไอ้เปี๊ยกบอกว่า แกมาทำพาร์ทไทม์ หน้าตาแกดูแก่ๆนะ แต่เสียงยังหนุ่มอยู่เลย ใส่แว่นสองอันสลับกัน ผมว่าแกคงแก่แล้ว สายตายาว ไม่รู้จักื่อเหมือนกัน ... แต่ไม่สำคัญหรอกเฮีย หมอคนไหน คนไข้คนไหน ถ้าเปิดใจ มันไม่ยากหรอก
....ไปล่ะเฮีย เอารถไปลองนะ

   ไอ้เปี๊ยกเดินไปลองรถที่เพิ่งซ่อมเสร็จ ท้ายอู่ เป็นรถนิสสันมาร์ชเก่าๆสีขาว ขับรถช้าๆออกไป   เฮียกับติ๋ม มองตามแล้วคุณติ๋มก็บอกว่า เฮียไปได้ช่างคนนี้มาจากไหน มือดี แถมคุยก็ดี    ...เฮียบอกว่า มันเพิ่งมาสองวันนี้แหละ เห็นว่าอยากมาใช้ชีวิตใหม่ที่เมืองนี้
.....
....
  ในรถนิสสันมาร์ชคันนั้น ไอ้เปี๊ยกหยิบผ้ามาเช็ดหน้า ดึงวิกผมออก ถอดคอนแทคเลนส์หยิบแว่นมาใส่ เป็นชายหนุ่มคมเข้มหน้าตาดี ยิ้มมีเสน่ห์ เขาปรับกระจกมองหลังเล็กน้อย เผยภาพในกระจกสะท้อนตัวอักษรสีน้ำเงินบนอกเสื้อยืดสีขาว ..."อายุรศาสตร์ ง่ายนิดเดียว"

เครดิตภาพ : kevinMD.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น