14 กุมภาพันธ์ 2560

อบรมศิริราช

การอบรมที่ยิ่งใหญ่ของศิริราช ส่งผ่านรุ่นต่อรุ่น ก่อนรับน้องข้ามฝาก

  ไม่กี่วันมานี้ มีการรับน้องข้ามฝากที่ศิริราช ประเพณีที่เก่าแก่ยาวนาน ยังมีมนต์ขลัง ศักดิ์สิทธิ์ มาจนทุกวันนี้ เราอาจจะเคยเห็นภาพการดึงมือจากเรือ การก้าวขึ้นท่า ตามภาพสื่อและข่าวต่างๆ แต่คุณรู้ไหม คืนก่อนหน้านั้น จิตวิญญาณแห่งศิริราชได้สถิตย์อยู่ในใจน้องๆทุกคนเรียบร้อยแล้ว เรามาฟังเหตุการณ์ที่น้อยคนนักจะได้รับรู้…กับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น

   ตอนเย็นวันศุกร์..น้องๆปีสองทุกคนก็ยังเรียนหนังสืออย่างหนักตามปรกติ ทุกคนทราบดีว่าคืนนี้จะเริ่มพิธีรับน้อง พี่ๆปี6 นักศึกษาแพทย์รุ่นพี่ที่เรียกว่า “ซีเนียร์” เตรียมการทุกอย่างมาเป็นแรมเดือน
   เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน น้องๆทุกคนจะยังนั่งอยู่ในห้อง หลังจากนั้นพี่ปีหก จะเข้ามาแนะนำการอบรมที่จะเกิดในคืนนี้ เมื่อแนะนำเสร็จน้องๆก็จะเดินแถวเรียงหนึ่งตามเลขประจำตัว ลำดับที่หนึ่ง…จนสุดท้าย เพื่อไปที่ห้องอบรม  สิ่งแรกที่น้องๆเห็นเมื่อก้าวออกจากห้องเรียน คือ รุ่นพี่ตั้งแต่ปีสาม ปีสี่ ปีห้า เข้าแถวยืนตรงตระหง่าน เรียบร้อย สงบนิ่ง มั่นคง เป็นรั้วป้องกันภัยให้น้องๆและเป็นกรอบที่เข้มแข็งไม่ให้ออกนอกทาง เป็นเส้นทางตั้งแต่ห้องเรียนไปจนถึงห้องอบรม
..
..
   น้องๆปีสอง “เฟรชชี่”  จะได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมที่พี่ๆ คอยปกป้องและชี้ทาง ต่างเดินอย่างสงบเสงี่ยมแต่สง่างามเข้าสู่ห้องอบรม

  ภายในห้องอบรม เก้าอี้ถูกจัดเรียงเป็นแถว ระบุที่และตำแหน่งชัดเจน พี่ปีหก ล้อมเรียงรายอยู่ในห้อง และหน้าห้อง กลางเวทีหน้าห้อง เป็นแท่นประดับเครื่องขยายเสียงและไมโครโฟน บรรยากาศเป็นระเบียบ ขึงขัง ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีการหยอกล้อ และ..ไม่มีความเกลียดชัง
..
..
  เมื่อน้องปีสองเข้าประจำที่จนหมด บรรดาพี่ปีหก ก็จะเริ่มอธิบายว่าสิ่งที่จะเกิดในคืนนี้ เป็นสิ่งที่ปฏิบัติมารุ่นต่อรุ่น เป็นการวัดความเป็นศิริราช ความอดทน ความสมัครสมานสามัคคี น้องๆทุกคนต้องอดทน ฟัง นั่งนิ่ง ไม่ก้มหน้า ไม่อ่อนล้า ไม่ง่วง ไม่นอน เฉกเช่นพี่ๆ ก็ยืนอยู่เคียงข้างน้องๆ ด้วยอุดมการณ์เดียวกัน

  หลังจากนั้น น้องๆก็ได้ได้รับฟัง อบรม เคี่ยวเข็ญ ทั้งจริยธรรม ความเป็นแพทย์ ความสมัครสมานสามัคคี เรื่องราวแห่งน้ำตาของชาวศิริราช คติธรรม การใช้ชีวิต จากบรรดารุ่นพี่ ตั้งแต่รุ่นซีเนียร์ รุ่นเก่ากว่านั้น อาจารย์ชั้นปรีคลินิก อาจารย์ชั้นคลินิก ศาสตราจารย์ที่โด่งดัง อาจารย์ที่มีจริยวัตรดีงาม อาจารย์ที่เกษียณอายุไปแล้ว แพทย์ศิริราชรุ่นก่อนๆ นักวิชาการ นักคิด ผู้มีชื่อเสียงทั้งหลาย ปูชนียบุคคลทั้งหมด ถอดบทบาทและหัวโขนทิ้งไว้ข้างนอก เข้ามาเป็นรุ่นพี่ อบรม สั่งสอน สิ่งที่รุ่นพี่ๆของอาจารย์และแพทย์รุ่นพี่ๆของท่าน ได้ถ่ายทอด ส่งต่อกันมา เพื่อ ส่งต่อกันไป  จิตวิญญาณ ความเป็นศิริราช ปณิธานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศ ปณิธานแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รวมทั้งชื่อเสียง เกียรติยศ แห่งศิริราช
..
..
   ส่งไปยังใจของน้องๆผู้มาใหม่ทุกคน ด้วยความรัก ความห่วงใย และ คาดหวังว่าน้องๆทุกคนจะก้าวขึ้นมาเป็นแพทย์ที่ดี และวันหนึ่งก็จะมายืนบนเวทีนี้ ส่งต่อเจตนารมณ์สู่รุ่นน้องต่อไป

  ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เราจะได้ฟังข้อคิด ประสบการณ์ แนวทาง จากหมอรุ่นต่างๆ ที่พร้อมใจกันมามากมายขนาดนี้ เป็นของขวัญที่เลอค่าอย่างมากให้น้องๆ   การอบรม การปลูกฝังแนวคิด เราจะทำตั้งแต่น้องเริ่มก้าวเข้าสู่วิชาชีพ เพื่อจะได้เข้าใจและ ดำเนินตามแนวทางที่ถูกที่ควรต่อไปในอนาคต

   การอบรมดำเนินไปเรื่อยๆ จากพี่ๆทุกๆรุ่นที่เสียสละเวลามา สลับกับการกระตุ้นถึงความอดทน การปลุกเร้าจากพี่ปีหก ที่คอยดูแลน้องๆตลอดทั้งคืน เรียกว่าหายใจไปพร้อมๆกัน เป็นสิ่งที่น้องๆต้องทำได้ และต้องทำให้ได้ ถ้าใครทำไม่ได้ให้กลับไปอ่านประโยคก่อนหน้านี้ใหม่ คือ ต้องทำได้และต้องทำให้ได้ ..เรียกว่า นี่คือพื้นฐานแห่งความอดทนที่แพทย์ทุกคนจะต้องเจอหนักกว่านี้เมื่อก้าวเข้าสู่วิชาชีพนี้
  การอบรมจบลงประมาณ สามหรือสี่นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น คล้ายกับการปฏิบัติงานของแพทย์เมื่อต้องทำงานจริงๆ และพรุ่งนี้ก็จะเข้าสู่พิธีถวายสักการะพระราชบิดา และ ... ”รับน้องข้ามฝาก” อย่างเต็มตัว

“เมื่อเจ้าก้าวขึ้นท่า เจ้ากับข้า พี่น้องกัน”

ลิงค์เรื่องราวของการข้ามฟาก
http://medicine4layman.blogspot.com/search?q=รับน้องข้ามฟาก

รูปจากเพจ SISO magazine

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น