11 พฤศจิกายน 2559

การกินวิตามินเสริม มันช่วยป้องกันโรคได้จริงไหม

การกินวิตามินเสริม มันช่วยป้องกันโรคได้จริงไหม ..

   เป็นประเด็นที่มีทั้งคนทีเห็นด้วยและเห็นต่างนะครับ สัปดาห์นี้ วารสาร Annal of Internal Medicine วารสารของวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งอเมริกา ได้ลงตีพิมพ์ เรื่อง ผลของวิตามินเสริมในการป้องกันโรค (โรคหัวใจและหลอดเลือดและมะเร็ง) และบทบรรณาธิการเกี่ยวกับวิตามินเสริมครับ น่าสนใจมาก เอามาสรุปและคุยให้ฟังครับ (เราพูดในแง่วิชาการและการแพทย์นะครับ ไม่ได้อ้างอิงถึงใครหรือผลิตภัณฑ์ใด)

  การศึกษาที่ตีพิมพ์นี้ เป็นการศึกษาที่รวบรวมเอาการศึกษาต่างๆเกี่ยวกับการใช้วิตามินเสริม ในคนที่ไม่ได้ขาดวิตามิน ไม่มีโรคใดๆ ว่าการกินวิตามินทั้งเม็ดรวมและเม็ดแยกต่างๆ ป้องกันโรคได้จริงไหม จริงๆแล้วมีการศึกษาแบบนี้มามากแล้ว ทำในทุกกลุ่มคน ทุกอาชีพ ทุกกลุ่มอายุ ผลออกมาเรียกว่าส่วนมากเป็นกลางคือ ไม่เกิดประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นโทษโดยตรง ยกเวันบางอย่าง แล้วจะกล่าวต่อไปนะครับ และอีกประการคือ เสียเงินครับ
   ข้อจำกัดของการศึกษานี้คือ มีการศึกษาที่เรียกว่าเป็นการทดลองดีๆทางการแพทย์น้อย และใช้เวลาในการติดตามผลค่อนข้างสั้น ทำให้อาจไม่เห็นผลประโยชน์ เช่นบางครั้งกินวิตามินเสริมไปเฉลี่ย 15-20 ปีถึงเกิดประโยชน์ แต่การศึกษาทำแค่ 2-3 ปี ก็จะยังไม่เห็นเกิดประโยชน์ชัดๆ

   มาที่ผลการศึกษากันดีกว่า รายละเอียดเรื่องระเบียบวิธีวิจัย ตัวเลขทางสถิติ ให้ไปอ่านเองนะครับ ผมทำลิงค์มาให้แล้วด้านล่าง ก็จะสรุปว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ใดๆนะครับ ที่แสดงให้เห็นว่าการกินวิตามินเสริม ในคนที่ร่างกายปกติสุขดีนั้น ไม่ได้ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดเลย และไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเลย ทั้งวิตามินรวมและวิตามินแบบแยกชนิด
   คือตรงนี้ต้องแยกนะครับ ถ้าเราขาดวิตามิน การกินเพื่อรักษามีประโยชน์ การกินเพื่อป้องกันเกิดประโยชน์ แต่ในคนที่ไม่มีโรค ไม่มีประโยชน์นะครับ แถมผลการศึกษาอันก่อนๆยังพบ ความสัมพันธ์ของการกิน เบต้าแคโรทีนเพื่อเสริมอาหารในคนที่ไม่ได้ขาด พบว่าสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนที่สูบบุหรี่ --เบต้าแคโรทีนเม็ดนะครับ ไม่ใช่สารเบต้าแคโรทีนในอาหาร--

  ผลการศึกษานี้ก็ยังสอดคล้องกับการศึกษาแบบนี้ที่มีมาโดยตลอด คือ ยังไม่พบประโยชน์ใดๆเลยในการกินเพื่อป้องกัน เราจึงควรฉุกคิดนะครับก่อนที่จะใช้วิตามินเสริมเหล่านี้ และแม้กระทั่งผลการศึกษาชัดเจนและสอดคล้องกันมาตลอด องค์กรสุขภาพต่างๆที่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ก็ประกาศนอกมาอย่างชัดเจนว่า "insufficient" ทั้งการใช้ หรือ การห้าม (ยกเว้น เบต้าแคโรทีนแบบเม็ดที่มีคำแนะนำชัดเจน) ตัวเลขการใช้วิตามินในอเมริกา ทั้งวิตามินรวมและวิตามินแยก พุ่งขึ้นสูงมากขึ้นๆ ทางการสหรัฐอเมริกาประมาณว่ามูลค่าต่อปีของวิตามิน ที่กินเพื่อหวังผลป้องกันโรคอยู่ที่ 11800 ล้านดอลล่าร์ อยากรู้แค่ไหน เอา 35 คูณ..สูสีกับงบประมาณแผ่นดินบ้านเราเลยนะครับ
   ถึงอย่างนั้นก็ดีในทางโภชนศาสตร์คลินิก เรามีค่าที่เรียกว่า TOLERABLE UPPER INTAKE LEVEL คือปริมาณการกินสารอาหารมากที่สุดเท่าที่จะไม่เกิดพิษ ซึ่งวิตามินต่างๆนี้มี  TOLERABLE UPPER INTAKE LEVEL หมดทุกตัวนะครับ ทำลิงค์มาให้ด้วย ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดว่ามันคือวิตามิน กินมากๆจะปลอดภัยนะครับ ในส่วนตัวพบการกินวิตามินดีเกินขนาดมากๆเลยครับ สุดท้ายคนไช้ก็มีอาการเกลือแร่แคลเซียมในเลือดสูงเกินปกติ (วิตามินดีช่วยในการดูดแคลเซียมมาอยู่ในกระแสเลือด)

  ดังนั้นการใช้วิตามินควรใช้เมื่อจำเป็น ท่านที่ใช้อยู่ก็ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์และอ่านตามฉลากยาอย่างเคร่งครัด ไม่กินมากเกินไปโดยเฉพาะกับผลิตภัณฑ์ที่อัดเม็ดครับ ส่วนการกินอาหารจากธรรมชาตินั้นก็จะต้องกินอย่างมากๆๆ จึงจะเกินครับ

#เดินทางสายกลางด้วยสตินะครับ#

Nutr Cancer. 2009;61(6):767-74

http://annals.org/aim/article/1789253/enough-enough-stop-wasting-money-vitamin-mineral-supplements
http://annals.org/aim/article/1767855/vitamin-mineral-supplements-primary-prevention-cardiovascular-disease-cancer-updated-systematic

http://www.efsa.europa.eu/sites/default/files/efsa_rep/blobserver_assets/ndatolerableuil.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น