18 กันยายน 2559

สอบโควต้าแพทย์ศิริราช

ต่อจากเอ็นทรานซ์เมื่อวาน ยังติดลมอยู่

หลายๆท่านอาจจะงง ผมเลือกเรียนนิติศาสตร์ มธ.ตอนเอ็นทรานซ์ เพราะผมศรัทธาในแนวคิดของอาจารย์ปรีดี ผมอ่านหนังสือสังคมและการเมืองสมัยมัธยมจนมีอิทธิพลมาก แต่จับพลัดจับผลูมาเรียนแพทย์ได้อย่างไร
   ยุคสมัยยี่สิบกว่าปีก่อนนั้น การสอบเข้าทำได้ครั้งเดียว เด็กนักเรียนสมัยนั้นต้องดิ้นรนหาหนทางทั้งทางหลักและสำรองเพื่อให้ตัวเองได้เข้าเรียน การสอบนอกรอบ การสอบโควต้า จึงเป็นหนทางทีดี ผมเองก็เป็นเด็กหลังห้องเล่นฟุตบอล ดีดกีต้าร์ไปวันๆ จึงต้องขวนขวายหาหนทางด้วย

  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ตัดสอบโควต้ารับตรงของตัวเอง รับนักเรียนมาครึ่งหนึ่งของที่รับได้ อีกครึ่งจะรับโดยเอ็นทรานซ์ เพื่อคัดเลือกเอง โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ที่จะมีสิทธิสอบในปีนั้นๆต้องเข้ารับการฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาลจนครบกำหนดก่อน แล้วเอาหลักฐานตรงนั้นประกอบการสมัครสอบ
   ตอนนั้นก็ไม่ได้ทราบเหตุผลว่าทำไมนะครับ เขาจัดให้ทำก็ทำ ไปเดินดูพี่ๆหมอเขาทำงานอยู่ตึกผู้ป่วยศัลยกรรม เดินราวน์ ตรวจคนไข้ ทำแผล ดูพี่ๆพยาบาลทำการพยาบาล ก็ไม่ได้นึกไม่ชอบ หรือชอบ เป็นพิเศษ  จนเมื่อจบออกมาแล้วจึงทราบว่าวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติงานนั้น เพื่อให้ทราบชีวิตความเป็นอยู่ของคนในโรงพยาบาล เขาทำอะไร เจออะไร ถ้าวันหนึ่งเรามาเป็นหมอ เราก็เจอแบบนี้ เราจะรับได้ไหม
  ผมว่าเป็นแนวคิดที่ดีนะครับ ให้ได้รู้ว่าเราจะเจออะไรแล้วตัดสินใจเลือกเอง ไม่งั้นก็จะคิดในสิ่งที่เราจินตนาการดีๆ ไม่เคยได้มาเห็นจริงๆ

   เมื่อได้สิทธิในการสมัครสอบก็เข้าสอบหกวิชาเหมือนกันนี่แหละครับ ข้อสอบก็คล้ายๆกับข้อสอบเอ็นทรานซ์ ช่วงนั้นยังไงก็อ่านข้อสอบเตรียมเอ็นทรานซ์อยู่แล้ว ไม่ได้ต้องเตรียมพิเศษมากมายนัก หลังจากประกาศผลสอบ มีประกาศเฉพาะข้อเขียนก่อน  หลังจากนั้นคนที่สอบข้อเขียนผ่าน ก็จะต้องเข้าฝึกอบรมทักษะ การฟังพูดอ่านเขียน เพื่อเตรียมการเรียน การสรุปความ การอ่านเอาเรื่อง อีกสามวัน หลังจากนั้นก็สอบรอบสองและสัมภาษณ์
   ขั้นตอนนี้จะมีคนพลาดหวังอีก 10-20 คนครับ การสอบรอบสองนี่เรียกว่าเครียดมาก มากกว่าข้อเขียนหลายเท่า มันเป็นวิชาใหม่ กับคนใหม่ๆ กับอาจารย์แพทย์ รายล้อมด้วยพวกครีมของประเทศ และเราทุกคนก็รู้ด้วยว่าจะต้องมีคนสอบตกอีกประมาณ 10% ในกลุ่มพวกเรานี่แหละ

   หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ถึงวันประกาศผล ที่ศาลาศิริราช 100 ปี ผมไม่กล้าไปครับ คิดว่าจะไม่ไป..กลัวมาก กลัวต้องเริ่มสอบใหม่อีก แอบไปดูตอนหกโมงเย็นกว่าๆ จำได้เลยครับว่าเสียงเพลงชาติดังขึ้น ตอนผมอยู่ที่ท่าน้ำวังหลัง เดินไปที่นั่น ไม่มีใครอยู่อีกมีแต่บอร์ด กับกระดาษ บอร์ดแรกติดรายชื่อผู้เข้าสอบ บอร์ดสองติดคำแนะนำการรายงานตัว ผมเดินไปแล้วอ่านรายชื่อจากลำดับท้ายขึ้นมาครับ.!!!
   ไม่เคยคิดว่าจะสอบได้ที่หนึ่งแต่อย่างใด คิดว่าไล่จากอันดับหนึ่งคงเสียเวลา เลยไล่จากท้ายขึ้นมา กะว่าถ้าผ่านไปจาก สำรอง ผ่านจากลำดับที่115 มาที่ลำดับ 100 ถ้าไม่เจอก็กลับบ้านแล้ว ท้ายบอร์ดเขียนว่า ถ้าคุณสอบผ่านและเลือกจะมารายงานตัวที่นี่ ..คุณไม่มีสิทธิสอบเอ็นทรานซ์..

   นี่คือเหตุผลที่ผมไม่ได้สอบเอ็นทรานซ์ ไม่ได้ไปเป็นศิษย์ มธ. แต่ได้มาเป็นศิษย์สมเด็จพระราชบิดา ชีวิตเปลี่ยนไปตั้งแต่เย็นวันนั้น แต่ผมไม่ขอบอกว่า
..
..ผมสอบได้ลำดับที่เท่าไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น