เมื่อวานเราพูดถึง biography ของคุณฮิบโปเรียบร้อยแล้ว จริงต้องขอขอบคุณคุณหมอ Sorenus of Ephesus สูตินรีแพทย์ชาวกรีกเมื่อ 1800 ปีก่อนที่สนใจเรื่องราวนี้เหมือนกับผมและได้รวบรวมเขียนเป็นหลักฐานเอาไว้ เอ..หรือชาติก่อนเราเป็นหมอสูติ วันนี้จะมาพูดถึงสิ่งต่างๆที่คุณฮิบโปทำและยังส่งผลต่อการแพทย์ยุคปัจจุบัน
ก่อนจะไปถึงตรงนั้นเรามาต่อกันอีกสักนิดในเรื่องของ Hippocratic medicine คือแนวทางการรักษาของฮิบโปนั้นจะเน้นไปทางด้านการประคับประคองในร่างกายรักษาเยียวยาตัวเอง โดยการสร้างสมดุลดีๆให้ร่างกายครับ ภาษาลาตินสมัยนั้นเรียก “vis medicatrix naturae” ที่เป็นการรักษาที่สุภาพอ่อนโยน ละมุนละม่อม ดังนั้นผมคิดว่าถ้าน้องๆหมออยากเป็นอมตะเหมือนคุณฮิบโปนั้นควรจะลอกเลียนแบบคุณฮิบโปด้านนี้คือ มีmanner ที่ดีสุภาพ ละมุนละม่อมครับ พิสูจน์มา 2000 ปีแล้วนะครับ และคุณฮิบโปจะไตร่ตรองเอามากๆและคุยกับคนไข้ถ้ามีการรักษาหรือการให้ยาที่อาจมีผลเสียแก่คนไข้ เขาคิดเสมอว่าการรักษาของเขาต้องไม่ทำให้คนไข้เจ็บปวดทรมานมากขึ้น ที่เป็นคติพจน์ของการรักษาและเป็นหนึ่งในคำปฏิญาณของแพทย์คือ --- Do no harm ---
เรื่องราวและมรดกแห่งฮิบโปเครตีสที่น่าสนใจครับ
1.เวลากระดูกหัก คุณฮิบโปจะสอนให้วางแนวกระดูกให้คงที่ แล้วดามเอาไว้ ในบันทึกจะมีเตียงที่ใช้ดามขาเรียกว่า “Hippocratic bench” ให้อยู่นิ่งแล้วจะติดเอง ซึ่งอาจติดไม่ตรงนะครับหรือบางรายก็ไม่ติด แต่เขาได้วางรากฐานการรักษาที่สำคัญคือ rest and immobilization
2.การรักษาบาดแผล คุณฮิบโปจะสอนให้ล้างแผลให้สะอาดและทำให้แห้ง ไม่อับชื้น ซึ่งบางส่วนก็ยังจริงจนปัจจุบันโดยเฉพาะหลักการการปลอดเชื้อ วิสัยทัศน์ไกลมาก จนการแพทย์แผนปัจจุบันโดย โจเซฟ ลิสเตอร์และ อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง (ไม่รู้ว่าเป็นญาติกันคนแต่งเรื่องเจมส์ บอนด์หรือเปล่า) คิดค้นการใช้ยาฆ่าเชื้อได้สำเร็จ
3.คุณหมอฮิบโป เมื่อตั้งโรงเรียนแพทย์ได้กำหนดกฎเกณฑ์แห่งวิชาชีพไว้เคร่งครัดมาก จนกลายเป็น medical professionalism ทั้งมารยาท การวางตัวของแพทย์ เช่น ก่อนเข้าผ่าตัด คุณหมอจะวัดความยาวเล็บให้สั้นเท่ากันทุกครั้ง น่าจะเป็นเหตุผลเรื่องการติดเชื้อและการใช้เครื่องมือ คุณหมอฮิบโปอธิบายวิธีการการจัดท่า การจัดแสง การเข้าหาผู้ป่วย ตำแหน่งที่หมอจะยืน
4.การบันทึก คุณหมอฮิบโปจะบันทึกทุกอย่างอย่างละเอียด ทั้งอาการ สัญญาณชีพ สารคัดหลั่ง ปริมาณปัสสาวะ ความปวด เป็นลักษณะที่ดีที่หมอทุกยุคสมัยต้องทำนะครับ ปัจจุบันนี้คือการบันทึกเวชระเบียนที่ดี และการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของอาการที่ใช้หลักการ SOAP (subjective-objective-assessment-plan of treatment) ใช้จนทุกวันนี้เลยนะครับ มาใช่แค่บันทึกอย่างเดียวนะ สังเกตและแปลความจากการสังเกตและบันทึกด้วย เห็นความคลาสสิกไหมครับ ถ้าหมอคนไหนอยากยิ่งใหญ่ ประสบความสำเร็จ ผมว่าฮิบโปเครติสนี่แหละเป็นหนทางได้
5.Hippocratic fingers คุณฮิบโปได้บรรยายลักษณะของนิ้วที่มีความผิดปกติ (นิ้วปุ้ม) เป็นคนแรกนะครับปัจจุบันรู้จักในชื่อ clubbing of fingers บอกว่าเป็นลักษณะของโรคปอดเรื้อรังและโรคหัวใจ ยังมีอื่นๆอีกนะครับเช่น
a.การจัดกลุ่มโรคเป็น เฉียบพลัน เรื้อรัง ติดต่อ ไม่ติดต่อ
b.ใช้คำศัพท์ต่างๆเหล่านี้เป็นคนแรก exacerbation (กำเริบ), relapse (เป็นซ้ำ), crisis (จุดวิกฤต), convalescent (ช่วงแห่งการหาย)
c.อธิบายอาการ อาการแสดง สาเหตุการเกิด การรักษา และการพยากรณ์โรค empyema thoracis หรือมีหนองในโพรงปอด เป็นคนแรกและยังถูกต้องแม่นยำตั้งแต่สมัยนั้นมาจนถึงปัจจุบัน
d.ใส่ท่อระบายหนองจากทรวงอก tube thoracostomy เป็นคนแรก
e.รักษาริดสีดวงทวาร โดยการใส่กล้องไปดู มัดริดสีดวง จี้ด้วยความร้อน เป็น cautery and ligation ในปัจจุบัน
6.คุณหมอฮิบโปเป็นคนแรกที่ใช้การรักษาแบบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่น การออกกำลังกาย การกินอาหารไม่หวาน และเป็นคนคิดคำพูด “Walking is the Man’s best medicine” การออกกำลังกายเป็นยาอายุวัฒนะ
คุณหมอฮิบโปได้เริ่มสิ่งที่เรียกว่าการพยากรณ์โรค (prognosis) เพื่อจัดกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องให้การรักษาและการบริหารทรัพยากรเพื่อการรักษาอย่างคุ้มค่า ยกตัวอย่างในปัจจุบันเช่น การจัดการพยากรณ์โรคมะเร็งเม็ดเลือด ว่าถ้าการพยากรณ์โรคดี ใช้ยาแบบนี้ หรือการพยากรณ์โรคไม่ดีมากๆก็ประคับประคอง เป็นหนึ่งในวิชาแพทย์ Koan ที่โรงเรียนแพทย์ฮิบโปเครตีส สอนกับลูกศิษย์ โดยตำราและบันทึกของเขายังเป็นหลักฐานที่ห้องสมุดเกาะคอสและห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย คือตำราของคุณฮิบโปนี่ เป็นตำราทางการแพทย์และมีส่วนที่คนทั่วไปอ่านเข้าใจด้วยนะครับ เหมือนเพจ “อายุรศาสตร์ ง่ายนิดเดียว” นี่แหละครับ
มรดกที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของคุณหมอฮิบโปคือ Hippocratic Oath หรือคำปฏิญาณของฮิบโปเครตีส ที่บอกถึงจริยธรรมของแพทย์ การปฏิบัติต่อคนไข้ในฐานะเพื่อนมนุษย์ การศึกษาทางการแพทย์และการปรับเปลี่ยนความรู้ตามกาลเวลา การสอนแพทย์แบบรุ่นต่อรุ่น ต้นฉบับเดิมเป็นภาษาละตินแต่ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนเป็น modern Hippocratic Oath ตามยุคสมัยแต่ยังคงเนื้อหาและเจตนารมณ์เดิมของคุณหมอฮิบโปเอาไว้ครับ
จากที่เล่ามาทั้งหมดเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความยิ่งใหญ่ของฮิบโปเครตีส และถ้าแฟนๆอ่านมาตั้งแต่ฉบับเมื่อวานและ “อิน” กับเนื้อหาก็จะเข้าใจว่าทำไมบุคคลนี้จึงมีความเป็นอมตะและรับการยกย่องเป็น “บิดาแห่งการแพทย์ยุคปัจจุบัน”
ขอให้มีความสุขมากๆในปีใหม่ที่จะถึงนี้นะครับจาก – อายุรศาสตร์ ง่ายนิดเดียว --
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น