19 มิถุนายน 2558

การให้ยาละลายลิ่มเลือดในอัมพาตเฉียบพลัน

การให้ยาละลายลิ่มเลือดในอัมพาตเฉียบพลัน

วันนี้อยากมาเล่าเรื่องเศร้าให้ฟังครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประเทศของเรา คือ การขาดความเข้าใจของประชาชน และ การขาดการประชาสัมพันธ์อย่างเห็นผลของภาครัฐ ว่าแล้วก็มาเข้าเรื่องกันเลยครับ

   มีคุณลุงอายุประมาณ 60 ปี มารับการตรวจที่ห้องตรวจของผม ในตอนเช้าเป็นผู้ป่วยรายแรกของวัน คุณลุงบอกว่าเมื่อคืนนี้หลังกินข้าวเย็น อยู่ๆก็มีอาการเซ มือซ้ายยกไม่ขึ้น พอจะลุกก็ลุกไม่ได้ขาซ้ายอ่อนแรง พูดไม่ค่อยชัด จนถึงตอนเช้าอาการก็ไม่ดีขึ้น ก็เลยมาหาหมอ ผมก็ถามว่า ทำไมไม่รีบมาล่ะครับ มาโรงพยาบาลไม่สะดวกหรือครับ คุณลุงตอบว่าที่บ้านก็มีรถ ลูกก็อยู่ แต่ที่บ้านบอกว่าเหมือนอัมพาตนะ รอดูอาการก่อนถ้าตอนเช้าไม่ดีขึ้นให้มาหาหมอ ผมฟังเรื่องนี้แล้ว ตะเตือนไต เลยครับ อันนี้เข้าใจผิดมากเลยครับ ความจริงแล้วในปัจจุบัน ถ้าผู้ป่วยอัมพาต หลอดเลือดแดงในสมองตีบตัน อาการเข้าได้ ผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองไม่มีเลือดออก และ ผู้ป่วยไม่มีข้อห้ามในการให้ยา เรามียาละลายลิ่มเลือดเพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาหายได้นะครับ แต่ว่าต้องมาถึงโรงพยาบาลเร็วๆนะครับ ภายใน 4ชั่วโมงครึ่ง หรือถ้าจะให้ดีจริงๆ ควรมาถึงใน 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุ ถ้าเราให้ยาอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยสามารถกลับคืนสภาพเดิมได้เกือบ 50 % ( หมายถึง ร้อยคน หายดีประมาณ 50 คน) และหายดี แต่อาจหลงเหลือความพิการเล็กน้อย ถึง 70 % ดูดีมากนะครับ ไม่ต้องเป็นผู้พิการ ไม่เป็นภาระ ไม่ต้องดูแลภาวะแทรกซ้อน ไม่เปลืองสตางค์ในระยะยาว

   ผลข้างเคียงนั้น อาจเกิดเลือดออกที่สำคัญได้ 6-10 % แต่ก็ไม่ตายนะครับโอกาสเสียชิวิตกจากเลือดออกนั้นแค่ 2-3% เท่านั้น บวกลบคูณหารทั้งราคายา และโอกาสเกิดผลเสีย อย่างไรก็คุ้มครับ เพราะถ้าไม่ทำอะไร ก็เป็นอัมพาตแน่ๆ เป็นภาระแน่ๆครับ

    ที่ผมว่าสามหรือสี่ชั่วโมงครึ่งข้างต้นนั้น หมายความว่าท่านไปถึงโรงพยาบาลที่มียาให้นะครับ ถ้าโรงพยาบาลที่ท่านไปไม่มียารักษา หรือต้องส่งต่อ ท่านก็จะต้องทดเวลาด้วยนะครับ หรือว่ากันจริงแล้วคือ มีอาการเมื่อไร รีบซิ่งไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเลยครับ อย่าเสียเวลา แม้แต่นิดเดียวครับ ถ้าหารถราได้ ไปโรงพยาบาลเลยครับ ถ้าจะรอรถโรงพยาบาลหรือรถฉุกเฉินต่างๆ ท่านก็จะเสียเวลารอรถเพิ่มขึ้นครับ

ท่านที่กังวลค่าใช้จ่าย ท่านไม่ต้องกังวลเลยครับ นี่คือโรคฉุกเฉินมากๆ ที่ทางรัฐให้สิทธิฉุกเฉินครับ ทั้งรัฐบาล เอกชน โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลทหาร สิทธิบัตรทอง ประกันสังคม ราชการ อันนี้ เท่าเทียมกันหมดครับ เอกชนบางแห่งอาจมีค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองต่างๆเพิ่มเติม แต่ว่าก็เล็กน้อยเท่านั้น เทียบกับเวลาที่ประหยัดไปได้คุ้มค่ามากๆครับ และเกือบทุกโรงพยาบาลมีมาตรการการรับมือโรคนี้อย่างชัดเจนแล้วครับ ไม่ต้องกลัวว่าไปโรงพยาบาลรัฐบาลจะช้าแต่อย่างใดครับ เพื่อท่านและคนที่ท่านรัก จะได้ไม่ต้องเป็นภาระ แล้วก็ไม่ใช่ว่ารักษาหาย แต่ขายนาจนหมดตัว ส่วนตัวผมคิดว่า นี่คือสุดยอดนโยบายสาธารณสุขของประเทศเราอันหนึ่งเลยครับ


อย่าลืมนะครับ อาการเข้าข่ายอัมพาตเมื่อไร อ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้น ไป รพ.ทันที  เวลา คือ ชีวิต 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น