21 ตุลาคม 2567

วันพยาบาลแห่งชาติ : Mary Seacole

 วันพยาบาลแห่งชาติ : Mary Seacole

วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ถือเป็นวันพยาบาลแห่งชาติ พี่น้องผองเพื่อนพยาบาลก็จะมาทำกิจกรรมรำลึกถึงความสำคัญของงานพยาบาล รำลึกถึงสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ท่านเป็นพยาบาลเช่นกัน รำลึกถึงตะเกียงไนติงเกล ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล นางฟ้าในใจพยาบาลทุกท่าน
วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับพยาบาลอีกหนึ่งคน ที่อดทน ต่อสู้ เพื่อผู้ป่วยและสิทธิของผู้ด้อยโอกาส .. แมรี่ ซีโคล
แมรี่ ซีโคล เป็นพยาบาลผิวสี ดำรงชีวิตอยู่ในช่วงปี 1806-1881 ใช่แล้วช่วงเดียวกับฟลอเรนซ์ ไนติงเกลนั่นเอง แต่หนทางสู่อาชีพพยาบาลต่างจากไนติงเกลลิบลับ ไนติงเกลมีต้นทุนชีวิตที่ค่อนข้างพร้อม เกิดมาในตระกูลที่มีอำนาจและเงิน เป็นชาวยุโรปที่มีโอกาสในการศึกษา สามารถเข้าร่วมและมีบทบาทในกองทัพในสงครามไครเมีย สงครามที่สร้างชื่อให้กับไนติงเกล แต่ต่างจากซีโคล
ซีโคลเกิดที่จาไมก้าในปี 1806 โดยที่คุณแม่ของเธอเป็นทาส ใช่ครับในปี 1806-1807 เป็นปีที่อาณาจักรบริเตนยกเลิกการค้าทาส แล้วแต่อเมริกายังมีทาสอยู่ โดยเฉพาะทาสแรงงานในโซนประเทศอเมริกาตอนใต้ มีทาสจากแอฟริกา อเมริกาใต้
แต่ซีโคลโชคดี ที่แม่ของเธอได้แต่งงานกับนายทหารและหลุดพ้นความเป็นทาสก่อนให้กำเนิดเธอ ถึงกระนั้นชีวิตก็ไม่ง่าย การเหยียดสีผิว สงครามชนชั้น ทำให้ชนผิวสีอย่างเธอขาดโอกาส ทั้งโอกาสในชีวิต โอกาสทางการศึกษา ไม่เพียงแต่สีผิว แต่ความเป็นสตรี ยังถูกกีดกันจากโอกาสทุกอย่างทางสังคม เธอเรียนวิธีการรักษาพยาบาลแบบครูพักลักจำจากกองทหารและชาวพื้นเมือง จนพอทำการรักษาได้
เมื่ออายุ 12 ปี เธอมีโอกาสติดตามญาติของเธอ ย้ายครอบครัวมาที่อังกฤษ แม้ว่ายังมีการเหยียดผิวและเชื้อชาติ แต่ไม่รุนแรงเท่าอเมริกา ที่นี่เธอได้มีโอกาสเรียนการแพทย์แผนปัจจุบันจนชำนาญ และไม่นานเธอก็แต่งงาน แต่ทว่า ฟ้าลิขิตให้เธอเป็นพยาบาล
ตอนที่อาศัยในจาไมก้า เธอรับหน้าที่ดูแลพ่อที่ป่วย หลังจากแต่งงานไม่นาน สามีเธอก็ป่วยและเสียชีวิต ตามมาด้วยแม่ของเธอก็ล้มป่วยและเสียชีวิต ทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีจากพยาบาลผิวสีผู้ซึ่งผสานความรู้ทางการแพทย์ยุโรปและแคริบเบียนอย่างลงตัว เธอจึงกลับอเมริกากลางในปี 1850 ที่กำลังมีการระบาดของอหิวาตกโรค
ช่วงปี 1850-1854 เธอใช้ความรู้ทุกอย่างจากยุโรปมาต่อสู้กับอหิวาตกโรค ไม่ว่าจะเป็นการจัดสุขาภิบาลที่ดี อนามัยที่ดี และสูตรยามากมาย ความทุ่มเทและชื่อเสียงของเธอเริ่มเป็นที่ยอมรับ ในปี 1853 เธอได้รับเชิญจากทางการจาไมก้า ให้มาช่วยเมืองที่เธอเกิด เมืองคิงส์ตัน เมืองหลวงของจาไมก้า
ที่นั่นเธอปรับปรุงบ้านเก่าของเธอที่ถูกไฟไหม้ ให้เป็นโรงพยาบาล ทำการดูแลรักษาประชาชนและทหารที่ประจำการในจาไมก้า (จาไมก้าอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรบริเตนตั้งแต่ 1707-1962) ที่นั่นกองทัพอังกฤษเห็นศักยภาพของเธอ เธอจึงได้เข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในทีมพยาบาลของสงครามไครเมีย
สมรภูมิเดียวกันกับฟลอเรนซ์ ไนติงเกล
สงครามไครเมียในปี 1853-1856 เป็นสงครามระหว่างอาณาจักรรัสเซีย กับสัมพันธมิตร อังกฤษ ฝรั่งเศส ออตโตมัน และซาร์ดีเนีย โดยรัสเซียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ (บางคนเชื่อว่านี่คือต้นกำเนิดของการล่มสลายของโรมานอหในรัสเซีย)
นับเป็นสงครามใหญ่ครั้งแรกหลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้อาวุธยุทโธปกรณ์เปลี่ยนจากสมัยเดิม จากที่ใช้ดาบ ปืนโบราณ ธนู มาเป็นปืนพร้อมบรรจุ ปืนใหญ่ ถือว่าเป็นสงครามครั้งแรกของอาวุธสงครามยุคใหม่ ความเสียหายและบาดเจ็บจึงรุนแรงมาก ต้องอาศัยการแพทย์และพยาบาลมาช่วยดูแล ทหารเสนารักษ์ไม่สามารถรักษาต่อไปได้ ต้องรักษาทันที
เป็นที่มาของโรงพยาบาลสนาม ที่ให้การรักษาตรงพื้นที่พิพาท รักษาเร็ว หายเร็ว กลับสู่สมรภูมิได้เร็ว เป็นแต้มต่อของสงคราม
ซีโคลมาที่ไครเมียและจัดตั้งโรงพยาบาลสนามพร้อมอาสาสมัครพยาบาลที่เขต balaklava ตอนใต้สุดของแหลมไครเมีย ใกล้กับแนวหน้ามาก โรงพยาบาลที่นั่นมีขนาดไม่ใหญ่แต่เต็มไปด้วยผู้ป่วยหนัก ที่ส่วนมากเสียชีวิต หากรักษาไม่ได้ก็จะส่งไปโรงพบาบาลที่พร้อมกว่าใหญ่กว่า หนึ่งในนั้นคือ Nightingale Hotel แม้จะไกลแนวหน้าแต่รับผู้ป่วยหนักและทุกข์ทรมานมาก
Hotel ก็คือ hospital นี่แหละครับ สำหรับซีโคล เธอก็มี Seacole's Hotel ที่บรรดาทหารอังกฤษยกย่องเธอเป็น Mother Sealcole เธอดูแลพยาบาลทหารผ่านศึกอย่างไม่หยุดหย่อน ผ่านการถูกโจมตีโรงพยาบาลจนต้องเปลี่ยนที่ทำการหลายครั้ง แต่ก็ไม่ย่อท้อ เพียรขอกำลังเสริมและฝึกสอนทหาร ชาวบ้าน ให้ทำการพยาบาล ช่วยเหลือตัวเองและคนที่ตัวเองรักได้
กลับมาจากสงครามเธอได้รับทุนจากอดีตทหารและราชวงศ์ให้พื้นที่เพื่อก่อตั้งโรงพยาบาลในลอนดอนเพื่อรักษาคนไข้โดยเฉพาะเหล่าทหารผ่านศึก สืบทอดวิชาการพยาบาลในลอนดอน ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ส่วนหนึ่งเป็นจากสงครามเชื้อชาติสีผิวที่ยังมีอยู่ในอังกฤษ ส่วนไนติงเกลที่มีพลังภายในสูงกว่าสามารถเดินเรื่องผ่านนักการเมือง นักวิชาการ จนสามารถสถาปนาการพยาบาลยุคใหม่ขึ้นมาได้
เธอเสียชีวิตเงียบ ๆ ในปี 1881 จนเมื่อพยาบาลจากจาไมก้าที่ศึกษาเรื่องราวของเธอ ติดตามเสาะหาว่าสุดท้ายหลุมศพเธออยู่ไหน พยาบาลคนนั้นหาจนพบและได้ประกาศถึงคุณความดี ความอดทน การต่อสู้ของ Mother Seacole พยาบาลผิวสีผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกหลงลืมไป
Mary Seacole

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น