29 กันยายน 2567

การทดสอบภูมิแพ้

 การทดสอบภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้มีหลากหลายมากมาย ผ่านกลไกหลายรูปแบบ มีการดำเนินโรคกว้างมาก การทดสอบโรคก็เช่นกันมีมากมาย เดิมทีการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ จะต้องเริ่มจากประวัติอาการ ประวัติความเสี่ยงการสัมผัสสารแพ้ การตรวจร่างกายที่เข้าได้ และการดำเนินโรคเมื่อสัมผัสสารแพ้ เมื่อหลีกเลี่ยงสารแพ้
ส่วนการทดสอบมีมากมาย แต่ว่าทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นด้วยความน่าจะเป็นทางคลินิก คือ ประวัติและตรวจร่างกายบ่งชี้โรคใด แล้วใช้การทดสอบมายืนยันสิ่งที่คิดหรือคัดค้านสิ่งที่คิด
ในปัจจุบันมีบางที่บางคน เริ่มต้นด้วยการตรวจภูมิแพ้ แล้วคิดกลับว่าเราแพ้อะไร ต้องทำตัวอย่างไร ซึ่งจริง ๆ ไม่มีคำแนะนำทางการแพทย์แบบนั้น เรามาดูการตรวจที่ 'พิมพ์นิยม' ในปัจจุบันกันครับ
1.การตรวจ skin prick test คือการนำเข็มสะกิดเอาแอนติเจนสารต้องสงสัยมาจิ้มที่แขน เพื่อดูปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น โดยต้องมีตัวอย่างสารที่เกิดปฏิกิริยาแน่นอนคือ ฮิสตามีน และสารที่จะไม่เกิดปฏิกิริยาแน่นอนคือ น้ำเกลือ แล้วดูปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นคือบวมแดงรอบจุดที่สะกิด ที่อาจต้องรอเวลาไม่เท่ากัน ขนาดและความรุนแรงของการบวมแดง พอจะบอกระดับปฏิริยาได้
2.การตรวจเลือดหาระดับของ specific IgE ตรวจเลือดเพื่อหาระดับภูมิคุ้มกันเฉพาะต่อสารนั้น ๆ โดยที่ระดับของภูมิคุ้มกันมากหรือน้อย พอจะบอกความรุนแรงได้ แต่ต้องเข้าใจว่าระดับ IgE อาจไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันชั่วฟ้าดินสลาย ผ่านจากจุดเกิดโรคภูมิแพ้หรือไม่ได้สัมผัสสารนั้นมาสักระยะ อาจมีระดับภูมิคุ้มกันที่ต่ำมาก
การทดสอบนี้เป็นการทดสอบปฏิริยาผ่านภูมิคุ้มกันชนิด specific IgE เช่น ผื่นลมพิษ ใบหน้าบวม หลอดลมและท่อคอบวม หรือภาวะช็อกจากสารแพ้ แนะนำทำเพื่อทดสอบสมมติฐานว่าแพ้สารใด หรือยืนยันว่าไม่แพ้สารใด หรือในกรณีภูมิแพ้รุนแรงวิกฤต แต่ไม่ทราบว่าแพ้อะไร ทำการตรวจเพื่อหาว่าในสารที่พบว่าแพ้บ่อย ๆ นั้น มีตัวใดที่เราแพ้ เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงได้บ้าง
ไม่สามารถทำเพื่อคัดกรองการแพ้ได้ เพราะเป็นการทดสอบที่ความไวไม่สูง แต่จำเพาะสูง และหากไม่มีตัวอย่างสารแพ้ที่นำมาตรวจ ก็จะตรวจไม่พบได้
3.การตรวจ skin patch test คือนำสารที่สงสัยมาเคลือบบนแผ่นตัวอย่างตรวจ รวมทั้งแผ่นควบคุมตัวอย่าง มาแปะที่ผิวหนัง แล้วดูปฏิกิริยา ดูเหมือนว่าไม่รุนแรง แต่การทดสอบนี้ไม่ได้ตรวจหา specific IgE เหมือนสองแบบแรก แต่เป็นการตรวจภูมิแพ้ตามปฏิกิริยาภูมิไวชนิดที่ 4 ที่เรียกว่า delayed type hypersensitivity เช่น การแพ้สัมผัสที่ผิวหนัง ไม่ว่าจะสารเคมี เครื่องสำอาง น้ำหอม
เช่นกัน ไม่สามารถใช้เพื่อคัดกรองสารแพ้ได้ เพราะแปลผลลำบากและไม่แม่นยำสำหรับการคัดกรอง แต่สามารถใช้เพื่อวินิจฉัยโรคได้ดี
และถ้าถามว่าการทดสอบใดที่แม่นยำมากสุดของการวินิจฉัยภูมิแพ้ คือ double-blind, placebo -controlled food challenge test คือสารนำสารที่สงสัย กับสารหลอกที่มีรูปรสกลิ่นเสียงเหมือนกัน มาสัมผัสโดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ คุณหมอก็ไม่รู้ แล้วดูว่าเกิดปฏิกิริยาหรือไม่อย่างใด ที่ไม่ได้ทำง่ายเลย จึงใช้ประวัติตรวจร่างกายและวิธีทดสอบที่ง่ายกว่า นำมาใช้ช่วยวินิจฉัยได้เช่นกันครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น