01 มีนาคม 2567

นวัตเภสัชกรรม pharmacy innovation

 นวัตเภสัชกรรม pharmacy innovation

ในบรรดาหนังสือเล่าเรื่องราวและกรรมวิธีงานวิจัยมากมาย ผมว่าเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครและ "เขียนนอกกรอบ" มากที่สุด คือปกติก็จะอ่านว่า หัวข้อวิจัยคืออะไร จะตั้งคำถามแบบไหน จะใช้วิธีใด จะตีพิมพ์อย่างไร คือสอนการทำวิจัยจาก กรรมวิธีมาสู่ผลลัพธ์
แต่อาจารย์ประยุทธพลิกวิธีใหม่ โดยใช้งานวิจัยที่ตัวเองทำเอง แล้วนำมาประกอบเล่าเรื่องว่า ตอนจะคิดหัวข้อ มันมีที่มาอย่างไรดูจากงานวิจัยนี้ ตอนที่จะต้องหาความเห็นต่าง จะไปขอความเห็นใคร แบบไหน ก็อธิบายว่า เอ..จะทำอย่างไรดี ได้บอกเล่าสิ่งที่ตัวเองคิดในการทำวิจัย แล้วที่คิดน่ะ ตอนไปทำ ทำแบบไหน ติดต่อใคร เริ่มยังไง โดยใช้งานวิจัยของตัวเอง มันจึงกระจ่างชัดในคำตอบ คำอธิบาย
ใครยังนึกภาพไม่ออก คุณคิดถึงตำราทำอาหาร ที่เขียนว่าเมนูนี้คืออะไร ใช้อะไร ผสมแบบไหน อบกี่นาที แต่ตำราฉบับประยุทธ จะสอดแทรกเรื่องราวว่า เออ ต้องใช้กระเทียมเจียวนะ เจ้าอื่นเขาเจียวแบบนี้มันเจอปัญหา แล้วเราไม่อยากได้แบบเดิม เราจะเจียวอย่างไร พอเจียวแบบนี้หั่นกระเทียมแบบนี้ มันไม่เวิร์ก มันติดอะไร งั้นไปถามรุ่นพี่แบบนี้ เข้าหาแบบนี้ เขาให้คำแนะนำแบบนี้ เฮ้ยมาปรับใช้แล้วมันเวิร์ก แสดงว่า painpoint ตรงนี้นี่หว่า…. เขียนแบบเล่าเรื่อง storytelling
ทำให้เราอ่านแล้วเข้าใจกรรมวิธีการวิจัย และไม่น่าเบื่อไงครับ เอาจริง ๆ อาจารย์ท่านมีจิกกัดสิ่งต่าง ๆ และระบบอันน่าเบื่อหน่ายพอสมงาม พออ่านไป เราจะรู้ว่า อ๋อ เขาทำกันแบบนี้
ที่สำคัญทุกงานวิจัย จะเป็นงานวิจัยชนิดที่ เห็นปัญหาการทำงานในชีวิตประจำวัน แล้วจะมาแก้ไขโดยการวิจัยแบบใด แปลคำถามบ้าน ๆ เป็นคำถามวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แปลวิธีที่เราคิดเป็นระเบียบวิธีได้อย่างไร ทำให้ทุกคนสามารถทำตามได้ เป็น routine to research ที่แก้ไขปัญหาได้จริง ไม่ใช่ทำเพื่อจบหรือทำเพื่อเลื่อนตำแหน่ง แต่ไม่มีคุณค่าต่อไปเลย
อีกจุดที่อาจารย์ประยุทธเน้นมากคือ แล้วจะเอาผลงานวิจัยไปใช้อย่างไร เอาไปแก้ไขปัญหาที่แท้จริงอย่างไร รวมทั้งถ้าจะต่อยอดไปเป็นธุรกิจ จะติดต่อใคร ตอนที่ทำประสบปัญหาใด เขียนเล่าละเอียดมาก
บอกตรง ๆ เหมือนบันทึกความทรงจำมากกว่าตำรา อ่านแล้วได้ความรู้แบบ "ไม่ตั้งใจ" และเอาไปใช้ได้แบบ "ไม่รู้ตัว"
ที่สำคัญ อาจารย์เป็นคนคิดนอกกรอบที่แท้จริง หลายปัญหามันเป็นเส้นผมบังภูเขา เพราะเราถูกสอนถูกอบรมมาแบบนี้ คิดแบบเดิม มันเลยแก้ปัญหาเดิมไม่ได้ไง ลองอ่านวิธีคิดนอกกรอบในเล่มนี้ดู ซึ่งนอกจากอาจารย์ท่านจะคิดนอกกรอบตามแนวปฏิวัติความคิดแล้ว ท่านยัง "นอกกรอบ" เพราะทีมแมนยูของท่านยิงไม่ค่อยเข้ากรอบอีกด้วย
เหมาะกับนักศึกษาที่เริ่มเข้ามหาวิทยาลัย เหมาะกับคนที่จะต้องเริ่มจับทำงานวิจัย และเหมาะกับคนที่ทำวิจัยแล้วแต่ต้องการหาความเฉียบคมมากขึ้นในการทำวิจัย
แต่ว่าจะไม่มีรายละเอียดในเชิงวิชาการที่เป็นรูปแบบ หรือข้อมูลเชิงลึกแบบไว้เพื่อเรียน หรืออ้างอิง ไม่สามารถใช้เป็นตำราไปตอบสอบได้ แต่ใช้เพื่อเสริมหรือปลุกแนวคิดได้ดีครับ ใครคาดหวังว่าเป็นตำราเป็น textbook ก็ต้องตอบว่าไม่ใช่แบบนั้นนะครับ
หนังสือขนาดเอห้า จำนวน 232 หน้า พิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตา ตัวหนังสือขนาดพอดี ขาวดำทั้งเล่ม (อันนี้ชอบ ประหยัดดี และเนื้อหาไม่จำเป็นต้องมีสี) เย็บกาว ก็ระวังนิดนึงเวลาเปิดกางมาก ๆ หน้าปกแบบมินิมอลมาก ๆ สีเรียบสวย
หนังสือแต่งโดย ผศ.ดร.ประยุทธ ภูวรัตนาวิวิธ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร ราคาปกเล่มละ 260 บาทจำหน่ายที่ศูนย์หนังสือของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หรือสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น