24 กรกฎาคม 2564

กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ผลข้างเคียงของจริงของ mRNA COVID vaccine

 กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ผลข้างเคียงของจริงของ mRNA COVID vaccine

ผลการศึกษาศักยภาพของวัคซีนเทคโนโลยีใหม่ mRNA ในการป้องกันโรคโควิดนั้น ผลออกมาดีมากจนเรียกว่าแทบจะกลายเป็น Gold Standard ของวัคซีนโควิดไปแล้ว มีรายงานเรื่องผลข้างเคียงออกมาบ้าง แต่ก็ไม่หนักแน่นพอที่จะเลิกใช้วัคซีน ข่าวว่า mRNA จะเข้าไปเกิดกลายพันธุ์นั้น ไม่เป็นความจริง แต่กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ คือ ของจริง !!

ก่อนหน้านี้เราได้รู้จัก VITT ภาวะเกล็ดเลือดต่ำและลิ่มเลือดอุดตัน อันเกิดจากวัคซีนไวรัลเวกเตอร์มาแล้ว พอทราบกลไกและวิธีการรักษา แต่ว่า VITT ยังมีอุบัติการณ์การเกิดต่ำกว่าประชากรทั่วไป คือ ไม่รู้ว่า มันเกิดจากวัคซีนจริงแท้หรือจะเกิดเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงลิ่มเลือดดำอุดตันอยู่แล้ว

รายงานจากวารสาร Circulation (preprint) วารสารลงการศึกษาสรุปผลของนักวิจัยจาก Baylor College of Medicine เท็กซัส สหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอันเกิดจากวัคซีน mRNA กลไกที่อาจเป็นไปได้ การดำเนินโรคและการรักษา สิ่งที่พบคือ

อุบัติการณ์การเกิดกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ก่อนมีวัคซีนคือ 1 ต่อ 100,000 ประชากรต่อปี (อิสราเอล) และประมาณ 10 ต่อ 100,000 ประชากรต่อปีที่อเมริกา แต่หลังจากมีการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรกลุ่มเดียวกัน ในอิสราเอลพบอุบัติการณ์ถึง 1 ต่อ 20,000 ราย มากกว่าปรกติ 5 เท่า (นี่ไม่ใช่เฉพาะคนรับวัคซีนนะ แต่ในประชากรโดยรวม)

CDC รายงานในกลุ่มประชากรอายุ 12-39 ปี ที่รับวัคซีน mRNA มีรายงานการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมากกว่า ประชากรกลุ่มเดียวกันที่ยังไม่ได้วัคซีนหรือรับวัคซีนยี่ห้ออื่น ถึง 10 เท่า

รายงานในหน่วยงานทหารของอเมริกา 23 คนจากการฉีด 2.8 ล้านเข็ม

แสดงว่าวัคซีน ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจริง พบมากกว่าความชุกของโรคในประชากรปกติก่อนรับวัคซีน กลไกการเกิดเชื่อว่าอาจจะไปกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อตัวเอง และเกิดอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ

แต่ว่าโอกาสการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ "จากการป่วยด้วยโรคโควิด" อยู่ที่ประมาณ 20-30% ทีเดียว ส่วนจากการฉีดวัคซีนแค่ 0.005% ต่างกันกี่เท่าก็ลองคำนวณดูนะครับ ด้วยตัวเลขนี้ เป็นที่ยืนยันว่าแม้ผลแทรกซ้อนกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะเป็นของจริง แต่โอกาสเกิดต่ำ ต่ำกว่าหัวใจอักเสบจากโควิด และประโยชน์มากกว่าโทษแบบไม่เห็นฝุ่น

แล้วใครที่จะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จากตัวเลขที่รวบรวมคือ ส่วนมากเป็นผู้ชาย อายุไม่มาก ไม่เกิน 30-40 ปี โดยไม่จำเป็นต้องมีโรคหัวใจเลย และมักเกิดกับเข็มสองมากกว่าเข็มแรก

อาการที่พบ มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกถึง 86% ก็จะคล้ายกับแน่นหน้าอกจากหลอดเลือดหัวใจตีบครับ สองโรคนี้ต้องวินิจฉัยแยกโรคกันอยู่แล้ว มีคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติ เอนไซม์ที่บ่งชี้การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจสูงขึ้น (สูงสุดที่ประมาณวันที่สามหลังฉีด) ตรวจคลื่นเสียงหัวใจพบผิดปกติได้ถึง 40% ตรวจเอ็มอาร์ไอพบผิดปกติได้ ทั้งหมดที่ผมเขียนมาก็คือสิ่งที่พบในการวินิจฉัย กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบนั่นเอง

นั่นคือ ถ้าไปฉีดวัคซีน mRNA มาและมีอาการแน่นหน้าอกเหมือนโรคหัวใจ นอกจากโรคที่เราต้องแยกตามปรกติ ยังต้องคิดถึงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนด้วย และแน่นอนแยกจากการติดเชื้อโควิดและสารพัดไวรัสที่เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอีกด้วย

เอาล่ะ แล้วถ้ายืนยันว่าไม่มีเหตุอื่น หัวใจอักเสบนี้เกิดจากวัคซีน mRNA แน่นอน จะอันตรายไหม คำตอบคือ ไม่เลย แม้จะพบมากการเกิดโรคมากขึ้น มากกว่าก่อนการมาของวัคซีน แต่ผู้ที่เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีน เกือบทั้งหมดหายเป็นปรกติ ภายในเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ มีส่วนน้อยมาก น้อยมาก ๆ ที่จะต้องรักษาต่อเนื่องยาวกว่าทั่วไปและให้ยาแบบโรคหัวใจล้มเหลว

การรักษาก็ให้ยาต้านการอักเสบ ประคับประคองอาการ ติดตามการทำงานของหัวใจ ในรายที่การบีบตัวหัวใจไม่ดีอาจต้องให้ยาช่วยเรื่องหัวใจล้มเหลว มีรายงานไม่กี่คนที่ต้องใช้ immunoglobulins เพื่อรักษา แต่ผลลัพธ์ก็ดี ทั้งหมดนี้ยังไม่มีแนวทางการรักษาอันเป็นที่ยอมรับแบบทั่วไป เพราะปริมาณที่เกิดและปริมาณผู้ป่วยน้อย เป็นโรคใหม่ที่ยังไม่มีการวิจัยมากนัก ยังต้องรอการศึกษาต่อไป

แต่วันนี้ก็บอกได้ว่า mRNA มีโอกาสเกิดกล้ามเนี้อหัวใจอักเสบจริง เกิดไม่บ่อยและไม่รุนแรง หายเองได้หรือให้การรักษาประคับประคอง ประโยชน์ของวัคซีนยังมากกว่าโทษจากวัคซีน และมากกว่าการไม่ฉีดวัคซีน

ขอบคุณอาจารย์วัยซิ่งปริศนาท่านหนึ่ง ที่เอื้อเฟื้อวารสารต้นฉบับครับ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น