30 เมษายน 2564

hope and faith

ลูกบอลเกงกิ

......... 
ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนเรื่องดรากอนบอล คงจะรู้จักลูกบอลเกงกิดี ลูกบอลนี้คือก้อนพลังงานที่ได้จากการรวบรวมพลังของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย คนละเล็ดน้อย แต่เมื่อหลายคนรวมกัน ก็สามารถสร้างเป็นลูกพลังขนาดใหญ่ ทำลายศัตรูได้อย่างราบคาบ

ซุนโกคู และซุนโกฮัง สองพ่อลูกตัวเอกของเรื่องใช้ท่าไม้ตายลูกบอลเกงกิ กับศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยพบพาน คือ ฟรีเซอร์และเซล สองผู้ร้ายนี้ร้ายกาจมากและมีเป้าหมายเพื่อทำลายทุกคน  ในนาทีที่ซุนโกคู ซุนโกฮัง แทบจะหมดเรี่ยวแรง เขาเชื่อมั่นและศรัทธาในพลังของมนุษย์ 

แม้ในนาทีที่ทุกคนแทบสิ้นหวังจากการรุกรานและพลังที่ร้ายกาจ ทุกคนส่งมอบพลังเท่าที่ตัวเองมี ตัวเองทำได้ ส่งให้สองพ่อลูกไปกำจัดศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งมวลมนุษย์
.......... 
ข่าวการจากไปของคุณอาคม ปรีดากุล น้าค่อมที่เรารู้จักกันดี ด้วยโรคโควิด-19 สร้างความเศร้า ทำให้เกิดความท้อแท้สิ้นหวัง แม้ว่าเราจะอยู่กับโรคนี้มาปีกว่า ที่ผ่านมาเราก็ยังพอควบคุมได้ 

ภาพผู้ป่วย ภาพผู้เสียชีวิต ภาพระบบสาธารณสุขที่ล่มสลายในยุโรป ในอเมริกา และล่าสุดในประเทศที่เป็นคลังยาของโลกอย่างอินเดีย เป็นภาพที่เราสลดใจ และไม่อยากให้เกิดขึ้นในประเทศของเรา

เรามีการระบาดระลอกสาม ที่รุนแรง ลุกลาม ภาพความล่มสลายต่าง ๆ เริ่มใกล้ตัวและเห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ จนเมื่อน้าค่อมป่วยเป็นโรคโควิดและจากไป บุคคลผู้สร้างเสียงหัวเราะ รอยยิ้มและความสุข ได้จากไปด้วยภัยร้ายที่กัดกินความหวังของเรามานาน ทำให้ความกลัว ความท้อแท้ ความสิ้นหวัง จนเรียกได้ว่า ล่มสลาย

ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเชิงระบบที่ไม่ดี ความย่อหย่อนในเรื่องการป้องกันการระบาดและป้องกันตัวเอง สภาพสังคมและเศรษฐกิจที่แย่ลงในเวลาเดียวกัน ทำให้ทุกวันนี้เราเหมือนถูกโจมตีจากฟรีเซอร์หรือเซล จนเราสิ้นหวังและล่มสลาย
......... 

ผมคิดถึงเรื่องราวที่เล่าขาน ผ่านหนังสือบันทึกประสบการณ์ของนักโทษในค่ายกักกันชาวยิว ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ตอนนั้นถูกโรคร้ายที่สุดเข้าทำลาย คือ ถูกทำให้หมดค่าแห่งความเป็นมนุษย์ สิ้นหวัง ท้อแท้ ไร้ศรัทธา แต่ก็มีคนรอดมาได้หลายคน เพราะใช้สติปัญญาและไม่หมดความหวังที่จะอยู่รอด

มีเรื่องราวมากมายทั้งเรื่องจริงและนิยาย เขียนถึงความหสังและศรัทธาในช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุด ว่าจะทำให้อยู่รอดและก้าวต่อไป หากเราอยู่ในช่วงเวลาที่มืดมิด ความหวังจะดูเหมือนสิ่งเพ้อฝัน โลกสวยงามเกินจริง แต่หากเรามองย้อนกลับไปในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วและจบไปแล้ว เราจะเห็นว่า ความหวังและศรัทธา มันเป็นจุดเปลี่ยนแห่งช่วงเวลาจริง ๆ
......... 

ในยุคสมัยนี้กับภัยร้ายโรคร้าย เรามีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรามีความรู้มากมาย ที่จะช่วยให้เรารอดพ้นฝันร้ายนี้ไปได้  เรามีการสื่อสารที่ดีที่จะ ส่งสารให้ทุกคนทำในสิ่งที่มีเหตุผล มีหลักฐาน มีข้อมูล

แม้จะมีอุปสรรค มีการจัดการบริหารที่ไม่ทันเหตุการณ์ มีงบประมาณจำกัด มีการสื่อสารผิดพลาด เราอาจไม่มีซุนโกคู เราอาจยังไม่เจอซุนโกฮัง ถ้าวันนี้เรามีคุริรีน เรามีพิคโกโล หรือแม้ว่า เราจะมีพี่หยำฉา เป็นคนที่จะต่อสู้กับเซล หรือฟรีเซอร์ การต่อสู้อาจจะทุกทักทุเล

แต่สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนจะช่วยได้ คือ ความหวังและศรัทธา ที่จะสร้างลูกบอลเกงกิที่มีพลังมากพอ รวมกันกำจัดศัตรูร้าย 
.......... 

ในนาทีที่เราต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน คนละเล็กละน้อย ทุกคนมีข้อพลาด ทุกคนต้องยอมรับสิ่งพลาด ทุกคนต้องแก้ไขปรับปรุง แล้วมารวมพลัง ความหวัง ศรัทธา เพื่อชนะโรคนี้และวิกฤตนี้

เรามีวิทยาศาสตร์และเทคโลโลยีเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี
เรา 'คงจะ'มีผู้นำที่เก่งกาจคอยคอยพาเราผ่านความเลวร้ายนี้

แต่ทุกสิ่งจะไม่เกิดถ้าไม่มีความหวังและศรัทธาจากพวกเรามาจุดประกายยานวิเศษให้เดินหน้า
......... 

คุณพร้อมจะส่งพลังสร้างลูกบอลเกงกิหรือยัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น