มาต่อกันสำหรับเล่มสองของ ลินด์เซย์ นอริส บรรณารักษ์สาวนักสืบ... นักสืบแรร์ไอเท็ม
นิยายชุดสามตอนในสไตล์ cozy mystery นักสืบแบบสนุก ๆ อ่านเบา ๆ ไม่ซับซ้อนไม่ซ่อนปม ออกแนวสนุกสนานมากกว่า ใครอยากรู้จัก cozy mystery และนักสืบต้นฉบับ (ตอนแรก ผมทำลิงค์มาให้แล้วครับ)
http://medicine4layman.blogspot.com/…/book-can-be-decieving…
สำหรับตอนที่สองนี้ ใครที่ไม่เคยอ่านตอนแรกก็สามารถอ่านเข้าใจได้ไม่ยาก มีการแนะนำตัวละครที่ไม่ละเอียดเท่าตอนแรก และเราอาจจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละครเท่าที่ควร ดังนั้นเพื่อความสนุกและฟิน ผมแนะนำอ่านเล่มหนึ่งก่อนครับ
มาถึงเล่มสอง เป็นเรื่องราวจากลินด์เซย์เหมือนเดิม เริ่มที่การเลือกตั้งประธานชมรมห้องสมุดที่มีผู้เสนอตัวน่าสนใจหน้าใหม่ ที่ทุกคนชื่นชอบมากกว่าหน้าเก่า เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาว่ามผู้สมัครหน้าใหม่ได้ตำแหน่ง ผู้สมัครหน้าเก่าและผู้สนับสนุนได้พยายามใส่ร้ายลินด์เซย์ว่า เป็นผู้บงการและอยู่เบื้องหลังผลการเลือกตั้งนี้
หลังจากนั้นเธอก็ได้รับคำขู่ การขู่ทำร้ายจากผู้สนับสนุนประธานคนเดิม ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้กัปตันแซลลี่ หนุ่มหล่อที่ลินด์เซย์แอบชอบ ได้เข้ามาดูแลและเกิดความรักกุ๊กกิ๊กจิกหมอนมากกว่าภาคแรก รวมทั้งมีหนุ่มหล่อ หลานชายประธานชมรมคนเดิมที่พยายามเข้ามาปรับความเข้าใจกับลินด์เซย์เรื่องลุงของเขา เหตุการณ์ดูไม่น่าจะมีอะไร จนกระทั่งสามีของประธานชมรมคนใหม่ ถูกลอบยิง !!
ใครคือฆาตกร การตายของสามีประธานคนใหม่ทำให้ใครได้ประโยชน์บ้าง เช่นเคยว่า ลินด์เซย์และกัปตันแซลลี่ อยู่กับประธานชมรมคนใหม่ในที่เกิดเหตุ ย่อมเป็นพยานที่ดีให้ท่านประธานชมรม ที่กำลังถูกทางตำรวจสงสัยว่าเป็นฆาตกรสามีตัวเอง ลินด์เซย์ก็ต้องมาเกี่ยวพันกับการไขปริศนาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เรื่องราวจะสนุกสนาน มีการพ่อแง่แม่งอนพอให้แก้มแดง เรื่องราวเปลี่ยนโฟกัสจากเบธ เพื่อนของลินด์เซย์ในภาคแรก มาเป็นเรื่องราวในอพาตเม้นต์ของแนนซี่และลินด์เซย์ที่จะคอยช่วยประธานชมรมคนใหม่ ให้รอดพ้นจากข้อกล่าวหาได้อย่างไร
คุณจะได้อบอุ่นใจกับมิตรภาพของลินด์เซย์ แนนซี่เจ้าของอพาตเม้นต์ บรรดาชมรมคราฟเตอร์นูนของลินด์เซย์ที่มาช่วยเหลืออย่างอุ่นใจ และลุ้นไปกับสองหนุ่มสาวขี้อาย ลินด์เซย์และกัปตัน ว่าจะลงเอยกันหรือไม่
ปมปริศนาซับซ้อนกว่าภาคที่แล้วเล็กน้อย และมีเรื่องราวอุ่นใจ กุ๊กกิ๊กจิกหมอนมากขึ้น โดยรวมยังยิ้มและมีความสุขกับ cozy mystery เรื่องนี้ครับ นักสืบแรร์ไอเท็ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น