ข่าวเรื่องการใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวี เพื่อการป้องกันก่อนเกิดโรค (Pre-Exposure Prophylaxis)
ปัจจุบันก็ได้มีคำแนะนำออกมาชัดเจนสำหรับการใช้ยาเพื่อป้องกันโรค ไม่ว่าชายหรือหญิงที่ไม่เป็นโรคและต้องมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี นอกจากการสวมถุงยางอนามัยแล้ว การใช้ยาต้านไวรัสเม็ดรวม tenofovir/emticitrabine วันละหนึ่งเม็ด (มีรูปแบบการกินหลายสูตร) จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีได้ดี โดยที่ผลข้างเคียงของยาไม่มากมาย เทียบกับประโยชน์ที่ได้แล้วมากกว่า
แต่อุปสรรคสำคัญคือ การกินยาตามกำหนด ความสม่ำเสมอการกินยา วินัยการกินยา ที่ทำให้การป้องกันแบบ PrEP ไม่ได้ผลดังเช่นในการศึกษา (ขนาดในการศึกษายังมีปัญหาเรื่องนี้มากมาย) จึงมีการพัฒนายาที่จะอุดช่องโหว่ตรงนี้ นั่นคือยาฉีดทุก 8 สัปดาห์ cabotegravir
มีการศึกษาในโปรแกรม HIV Prevention Trials Network (HPTN) ที่ได้รับทุนจากรัฐบาลคือ national institute of health ศึกษาเรื่องการป้องกันการติดเชื้อ HIV ที่เราเคยรู้จักการศึกษา HPTN 052 อันโด่งดัง ว่าการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อเร็วเท่าไร ยิ่งลดการกระจายเชื้อเร็วเท่านั้น และเป็นต้นกำเนิดแนวคิด treatment as prevention
ครั้งนี้ HTPN ทำการศึกษา HTPN 083 และ HTPN 084 เป็นการศึกษาแบบ randomised controlled trials เพื่อเทียบประสิทธิภาพของยาใหม่คือ ยาฉีด cabotegravir ทุกแปดสัปดาห์กับการกินยา Truvada (TDF 300/FTC 200) วันละหนึ่งเม็ด ว่าจะลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ ในคนที่ไม่ติดเชื้อและต้องมีเพศสัมพันธ์กับคนเสี่ยงติดเชื้อหรือผู้ติดเชื้อ ทั้งในกลุ่ม cisgender (คือเพศสภาพตรงตามเพศกำเนิด) และกลุ่ม transgender (เพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด)
HTPN 083 ศึกษาใน cisgender men หรือ transgender women ที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย มุ่งเน้นศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาฉีดเทียบกับยากิน
HPTN 084 ศึกษาใน cisgender women ที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย มุ่งเน้นว่ายาฉีดเหนือกว่ายากิน
ผลการศึกษาออกมาว่า
สำหรับ HPTN 084 หญิง 3,223 คน ที่รับการป้องกัน มีติดเชื้อ 38 ราย เกิดในกลุ่มยากิน 34 รายและกลุ่มยาฉีด 4 ราย โดยทั้งกลุ่มยากินและยาฉีดใช้ยาสม่ำเสมอพอ ๆ กัน แปลความทางสถิติว่ายาฉีดมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเอชไอวี เหนือกว่ายากิน 89% (การศึกษายังไม่เสร็จสิ้น แต่คณะกรรมการตรวจสอบมีคำแนะนำให้หยุดการศึกษาเพราะประโยชน์มันชัดเจนมาก)
สำหรับ HPTN 083 มีคนใช้ยา 4,566 คน มีผู้ติดเชื้อ 52 ราย มาจากกลุ่มใช้ยากิน 39 รายและมาจากกลุ่มยาฉีด 13 ราย ความสม่ำเสมอการใช้ยาสูงเหมือนกันทั้งคู่ แปลความว่า โอกาสติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มยาฉีดต่ำกว่ายากิน 66% (แปลผลไม่ได้ว่าเหนือกว่า เพราะการศึกษาไม่ได้ออกแบบมาตอบคำถามนั้น ไม่เหมือน HPTN 084)
สรุปว่า การป้องกันการติดเชื้อก่อนสัมผัสโรคด้วยการฉีดยาทุก 8 สัปดาห์ (cabotegravir) ดูจะมีประสิทธิภาพสูงกว่ายากิน และช่วยตัดปัญหาลืมกินยา กินยาไม่สม่ำเสมอได้อีกด้วย ในอนาคตแนวทางการป้องกันโรค PrEP อาจจะเปลี่ยนโฉมหน้าไปก็ได้ครับ
รอติตามด้วยใจระทึก ..ตึ๊ก ๆ ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น