21 มิถุนายน 2563

วันนี้ลุงหมอจะมาบอกเล่าวิธีเรียนออนไลน์ ตามแบบคนเรียนไม่เก่งแต่อยากรู้

วันนี้ลุงหมอจะมาบอกเล่าวิธีเรียนออนไลน์ ตามแบบคนเรียนไม่เก่งแต่อยากรู้
ผมเรียนทางไกลมานานมาก หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะคอร์สในประเทศหรือต่างประเทศ ทำให้ในยุคนี้เวลานี้ไม่ต้องปรับตัวมากนัก ในยุคที่เรามี new normal ในเรื่องเทคโนโลยี การเรียนการประชุมวิชาการออนไลน์แบบนี้ และอนาคตจะมีมากขึ้น เราจะมีวิธีเรียนอย่างไร ลุงหมอขอเล่าประสบการณ์นะครับ
1. เลือกเรื่องที่เราชอบก่อน แล้วจึงจัดเวลา อย่าเอาเวลาเป็นตัวตั้ง ...จำไว้นะครับ เราต้องเป็นคนควบคุมเวลา... ในบรรดาหลากหลายวิชาหรือหัวข้อ ให้หยิบหัวข้อที่เราสนใจ และหัวข้อที่สนใจอาจจะไม่ใช่หัวข้อที่เราเชี่ยวชาญก็ได้ เช่น มีบรรยายเรื่อง การผ่าตัดเปลี่ยนสะโพก ถึงแม้ผมเป็นอายุรแพทย์ แต่หากเราสนใจเรื่องนี้ มันจะทำให้การเรียนมีเป้าหมาย
2. หลังจากเลือกเรื่องที่เราชอบและเราตั้งใจว่าจะฟัง ... ประเด็นนี้สำคัญนะ เรื่องมันมีมากมาย เราไม่สามารถฟังได้ทุกเรื่อง หากเราไม่เลือก มันจะสะเปะสะปะ ไม่มีจุดหมายและสิ้นเปลืองเวลา หลังจากเลือกเรื่องที่ฟังแล้ว ให้ทำมาเขียนเป็นรายการและลงตารางเวลาในตารางงานหรือปฏิทิน เพื่อจะได้จัดสรรเวลา จะแลกเวร จะเลื่อนนัด จะหาคนดูแลลูก จะออกแบบได้ต้องจัดตารางก่อน
ถ้าเวลาเรียนซ้อนทับกัน ให้เลือกเรื่องที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวันก่อน เรื่องที่ชอบเราจะมีแรงบันดาลใจอ่านเองได้
ถ้าจัดตารางเวลาไม่ได้จริง ก็ทำใจครับ ต้องรู้จักตัด รู้จัก cut loss
3. เรื่องเวลาที่อยากจะย้ำคือ หากเป็นการบรรยายจากต่างประเทศ ให้ตรวจสอบเวลาให้ดี ว่าถ่ายทอดจากประเทศใด และเทียบเวลาในบ้านเราเป็นเท่าไร มาตรฐานเวลาที่ใช้กันตามสากลคือ Coordinated Universal Time (UTC) โดยสามารถตรวจสอบได้จาก website หลายอัน ที่ผมใช้ประจำคือ https://time.is/th/UTC
ตามมารยาทที่ดี การบรรยายจะเริ่มและจบตรงเวลา ในฐานะคนฟัง ต้องมาก่อนเวลานะครับ
4. เราควรเตรียมอุปกรณ์ก่อนถึงเวลาอย่างช้า 15 นาที ในการตรวจสอบสัญญาณอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์และแบตเตอรี่ (อย่าลืมแบตสำรอง) หากจะใช้กล้องเพื่อเข้าร่วม ควรมีโคมไฟส่องสว่างใบหน้า เพราะกล้องจากคอมหรือมือถือ จะมีขนาดเล็ก ทำให้ภาพออกมามืด
ระบบเสียง ควรใช้หูฟังแบบที่ติดไมโครโฟนจะชัดเจนที่สุด หรือจะแยกไมโครโฟนก็ได้
ควรเข้าสู่ระบบถ่ายทอด ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์ จะเป็น zoom หรือ teams ก่อนเริ่มบรรยายครับ ทางทีมผู้บรรยายจะได้เชิญหรือรับได้ก่อน และเราก็ได้มั่นใจว่าไม่พลาดตอนสำคัญ
5. จัดการธุระต่าง ๆ ให้เรียบร้อยโดยเฉพาะการรับประทานอาหารหรือขนม แม้ว่าจะนั่งเรียนที่บ้าน ไม่เห็นหน้าไม่เห็นตัว แต่การเรียนไปกินไป ถือเป็นการทำลายสมาธิอย่างร้ายกาจ ต่อให้คุณแยกสติได้ดีเพียงใด การเรียนอย่างเดียวจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าเสมอ
เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย
ถ้าเป็นห่วงเสื้อผ้าหน้าผมก็จัดเสียก่อนเข้าร่วม
สำคัญมาก ... สัตว์เลี้ยงและเด็ก จัดการดูแลให้เรียบร้อยก่อนฟัง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเปิดกล้องให้เห็นภาพด้านผู้ฟัง
6. เตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนไว้ตรงหน้า สมุด ดินสอ ปากกา อย่าลืมว่าเราเรียนหนังสือ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จำเป็น การได้เขียนหรือวาดภาพ จะเป็นการประมวลความคิดรวบยอดของเรา ณ เวลานั้นออกมาเป็นตาราง แผนภูมิ หรือ mindmap ทำให้การบรรยายได้เนื้อได้น้ำเต็มที่ ไม่เสียเวลา อีกอย่างคือ เป็นตัวดึงสมาธิให้ติดอยู่ที่การบรรยาย
ไม่แนะนำใช้แท็บเล็ตจด เพราะมันมีสิ่งอื่น มารบกวนความสนใจได้ง่าย
7. *** ข้อนี้ถือว่าสำคัญที่สุด ไม่ว่าการเรียนออนไลน์ หรือการเรียนในห้อง การเรียนในงานประชุมวิชาการ คือเราต้องอ่านบทสรุปสั้น ๆ ในเรื่องที่จะให้มองภาพรวมชัดเจนก่อน เดี๋ยวนี้งานวิชาการต่าง ๆ บอกหัวข้อมาแล้ว (เราถึงเลือกได้ตามข้อหนึ่งไง) บอกการศึกษาที่อ้างอิง หรือให้เอกสารมาก่อนเลย เนื่องจากเวลาที่เรียนออนไลน์สั้นมาก เราจึงต้องอ่านคร่าว ๆ ก่อนเสมอ เวลาบรรยายจะได้เห็นภาพชัดและได้เป้าหมาย ไม่หลงประเด็น ไม่เสียเวลา ไม่น่าเบื่อ
ไม่ต้องอ่านจนละเอียดทุกมุมก็ได้ เพราะถ้าคุณทำแบบนั้นจนคล่อง สักสองสามรอบ คุณก็ขึ้นโพเดี้ยมแทนผู้บรรยายได้เลย
วิธีง่าย ๆ คือ กดดูในกูเกิ้ล review, short review of .....
แต่ถ้ามีเวลา อ่านให้ครบ แล้วเข้าฟัง คราวนี้เหมือนเสือติดปีก เข้าใจ ลึกซึ้ง จำได้ และนำไปใช้ได้ อ่านทบทวนทีหลังก็ใช้เวลาสั้น ๆ เท่านั้น
8. ถามว่าฟังถ่ายทอดสด หรือฟังย้อนหลังดี ... ฟังย้อนหลังเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาตอนนั้นหรือต้องการทบทวนซ้ำ คิดตามไม่ทัน แต่อยากให้ฟังประชุมสดตามเวลาที่เราเลือกและกำหนดไว้มากกว่า เพราะ
ได้มีโอกาสถามตอบสด ๆ ฟังคำตอบของผู้บรรยาย
เป็นการจัดวินัยที่ดี จัดการเวลาที่ดี
ส่วนมากไม่ค่อยได้มีเวลามาดูซ้ำ ทำให้เราพลาดการเรียนวิชานั้นไป
9. เมื่อทำการเตรียมตัวก่อนเรียน เวลาเรียนให้ฟังเป็นหลัก แล้วบันทึกสิ่งสำคัญเท่านั้น จดบันทึกเป็นหัวข้อ ด้วยปากกาสามสี
สีน้ำเงิน เนื้อหาที่ได้จากการเรียน
สีแดง เนื้อหาที่เน้น จะมาจากการเรียนและการเตรียมตัวล่วงหน้า ใส่ดอกจันหรือวงเอาไว้
สีดำ คือ ข้อคิดของเราหรือคำถามที่เราจะไปค้นต่อ
สามารถเปิดตำราที่เตรียมไว้ได้เลย ข้อดีอันหนึ่งของเรียนออนไลน์คือ เราเรียนท่ามกลางหนังสือ ตำรา ดิคชันนารี เปิดได้ทันที จบคำถามได้ทันที
เปิดหน้าต่างจอคอมพิวเตอร์ กดกูเกิ้ลค้นหาคำตอบได้ทันที
10. งดกิน งดคุย งดโซเชียล ปิดการแจ้งเตือน ทำเหมือนเรียนในห้องจริง ๆ มันจะทำให้เรามีสมาธิสูง การเรียนในชั่วโมงนั้นจะมีประสิทธิภาพและได้ประสิทธิผลสูงมาก เรียกว่าเตรียมตัวมาเก้าข้อ เรียนชั่วโมงเดียว แต่อาจเอาไปใช้และเข้าใจไปตลอดชีวิต
11. เมื่อเรียนเสร็จ ให้เอาบันทึกมาอ่านอีกรอบ ทำความเข้าใจ และเปิดหาสิ่งที่สงสัยที่เราจดด้วยปากกาสีดำเอาไว้ เอาให้จบเดี๋ยวนั้น เพราะมักไม่มีเวลามาเปิดทีหลัง ตอนนี้เปิดจอเปิดเน็ตอยู่แล้ว รายล้อมด้วยตำราและสติพร้อมสุดขีดแล้ว ทำเลย
เราจะอ่านเข้าใจ ทบทวน เน้นข้อความ ตอบปัญหาได้ในเวลาสั้นมาก
และสามารถปิดจ็อบงานเรียนได้หลังจากเรียนแค่ 15 นาที
12. จบงานได้เลย ครบสำหรับหนึ่งเรื่อง เตรียม-เรียน-สรุป-บันทึก-บรรจุในสมอง
ผมทำแบบนี้ทั้งเรียนทางไกลออนไลน์ ทางไกลแบบไปรษณีย์ ประชุมวิชาการ ฟังบรรยาย อยากบอกว่ามันทรงประสิทธิภาพมาก ฝึกบ่อย ๆ เราจะใช้เวลาสั้นลงและเฉียบคมมากขึ้น
ผมไม่ใช่คนหัวดี สติปัญญาเลิศ ต้องขยัน ฝึกและอดทนมากกว่าคนอื่นสองเท่า ต้องคิดหาวิธีที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น เพื่อประหยัดเวลา และวิธีนี้ใช้ได้ดีมากครับ
"ทางเดินสู่เกียรติศักดิ์ จักประดับด้วยดอกไม้ หอมหวนชวนจิตไซร์ ไป่มี"
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น