lymphogranuloma venereum ฝีมะม่วง
เพราะลักษณะของต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบที่โตขึ้นสองด้านของพังผืดเส้นเอ็นที่เป็นขอบสิ้นสุดของผนังข่องท้อง ทำให้มองเห็นเหมือนฝีใหญ่แต่มีรอยบากตรงกลาง คล้ายมะม่วง (น่าจะอกร่องนะ) จึงมีชื่อว่าฝีมะม่วง หรืออีกชื่อคือ "ไข่ดันบวม" ทำให้อีกชื่อคือ lymphogranuloma inguinale คือต่อมน้ำเหลืองบริเวณ inguinal area บวมเป็นฝี
ส่วน venereum คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (venereal disease)
เพราะเชื้อโรค Chamydia trachomatis ติดเชื้อจากรอยถลอกของอวัยวะเพศหรือทวารหนัก แต่รอยโรคนี้มักจะไม่เจ็บปวดเท่าไร และหายไปได้เอง แต่ตัวเชื้อและปฏิกิริยาของการติดเชื้อ จะส่งต่อทางท่อน้ำเหลือง ทำให้เกิดท่อน้ำเหลืองอักเสบ (lymphangitis) และต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (lymphadenitis)
เพราะระบบการลำเลียงน้ำเหลืองจากบริเวณอวัยวะเพศและอุ้งเชิงกราน จะพาน้ำเหลืองไปที่ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ (inguinal lymph nodes) การอักเสบหรือติดเชื้อทั้งหลายบริเวณอวัยวะเพศ อุ้งเชิงกราน ทวารหนัก ก็ทำให้ต่อมน้ำเหลืองบวมโตได้หมด เพียงแต่เจ้า C.trachomatis นี้มักจะชอบเส้นทางนี้เป็นพิเศษจากกลไกการกำจัดเชื้อทางวิทยาภูมิคุ้มกัน และทำให้เกิดหนองที่ต่อมน้ำเหลืองนั่นเอง การแยกโรคจึงต้องเอาหนองไปตรวจหาสารพันธุกรรม
เพราะระบบน้ำเหลืองที่ขาหนีบมีสองระบบคือระบบตื้น (superficial inguinal nodes) อยู่ตรงแนวขอบกางเกงใน จะเห็นการบวมได้ง่าย เป็นหนองได้ง่ายคือ ฝีมะม่วงที่เราเห็นกัน แต่ว่าระบบตื้นจะระบายต่อไปยังระบบลึก (deep inguinal nodes) ที่ต่อมน้ำเหลืองเกาะตัวที่หลอดเลือดแดงใหญ่ iliac artery และส่งเข้าช่องท้อง ดังนั้นบางรายอาจมีการลุกลามไปที่มดลูก ปีกมดลูก หรือต่อมน้ำเหลืองในท้องได้
เพราะอาการปวดในช่องท้องมันระบุตำแหน่งไม่ชัด อาการปวดของต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง อาจจะมีอาการเหมือนไส้ติ่งอักเสบ กระเปาะลำไส้อักเสบได้ เพียงแต่โรคแบบนี้มันพบน้อย และจะมีลักษณะฝีมะม่วงให้เราเห็นช่วยแยกโรค
ที่กล่าวมาทั้งหมด อยากจะบอกว่าด้วยข้อมูลทางกายวิภาค สรีรวิทยา พยาธิวิทยา จุลชีววิทยา เราสามารถอธิบายกลไกการเกิดโรค อาการและอาการแสดงของโรคได้ดี คาดเดาอาการและผลแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้แม่นยำ
ความรู้พื้นฐานทางปรีคลินิก ถือเป็นฐานปิรามิดสำคัญ ที่จะบอกว่าความเข้าใจของคุณหนักแน่นเพียงใด และเป็นตัวกำหนดว่ายอดปิรามิดคือความเข้าใจทางคลินิก จะสูงเพียงใดด้วย หากฐานกว้างใหญ่และแข็งแรง การต่อยอดความรู้จะยิ่งสูงและลึกล้ำมากขึ้น
ดังคำคมโบราณที่กล่าวว่า
"พื้นฐานดี อนาคตสดใส
แต่ถ้าเอวไม่ไว อนาคตหม่นหมอง"
แต่ถ้าเอวไม่ไว อนาคตหม่นหมอง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น