11 พฤษภาคม 2563

Chaddock reflex

การตรวจร่างกายทางระบบประสาทที่สำคัญอันหนึ่ง บ่งบอกถึงรอยโรคของความเสียหายทางเดินประสาท corticospinal tract คือการขีดฝ่าเท้าแล้วนิ้วเท้ากางออก นิ้วเท้าเหยียดไปทางหลังเท้า แทนที่จะงุ้มลง เราเรียกว่า Babinski's sign ตามชื่อโจเซฟ บาร์บินสกี้ ในปี1896

แต่หากเราย้อนอดีตต่อจากนั้นเล็กน้อย เราจะพบเรื่องราวที่มาของการตรวจร่างกายอีกอย่างหนึ่งด้วย

สิบปีก่อนที่โจเซฟ บาร์บินสกี้จะประกาศการค้นพบ มีหนังสือเล่มหนึ่งตีพิมพ์ชื่อ Psychopathia Sexualist เราก็จะพอเดาได้ว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องความผิดปกติทางเพศ ในยุคสมัยนั้นเรื่องเพศไม่ได้เปิดเผยแบบนี้นะครับ อะไรที่ผิดจากจารีตประเพณีถือว่าผิดปกติเรียบ หนังสือเล่มนี้แต่งขึ้นโดยจิตแพทย์ชื่อ Richard von Krafft-Ebing เป็นจิตแพทย์ เป็นนิติเวช เป็นนักจิตวิทยา ชาวออสเตรียเยอรมัน 

ตอนนั้นอาณาจักรของยุโรปยังรวมตัวกันครับ ยุคของปรัสเซีย ออสเตรีย-ฮังการี ขอบเขตประเทศไม่ชัดเจน เป็นเหมือนอียูตอนนี้แหละ และมหาวิทยาลัยแพทย์ไฮเดลเบิร์ก ก็ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้า คุณหมอคราฟท์เออบิ่ง ท่านก็จบและสอนที่นี่แหละครับ ท่านได้แต่ตำราจากจิตวิทยา จิตเวชศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะเกี่ยวกับความผิดปกติทางเพศ ซาดิสม์ มาโซคิสม์ รักร่วมเพศ รักสองเพศ 

แต่ว่าตำราตอนนั้นเป็นภาษาเยอรมัน ... การแพทย์ยุคนั้นเรียนด้วยภาษาละติน ฝรั่งเศส เยอรมัน ตำราอังกฤษยังมีน้อยมาก หมอดัง ๆ มาจากภาคพื้นยุโรปทั้งสิ้น 

ในปี 1888 คุณหมอจากอเมริกาคนหนึ่ง ข้ามน้ำข้ามแอตแลนติกมาร่ำเรียนที่ยุโรป คุณหมอคนนี้สนใจด้านประสาทวิทยา ในยุคปลายศตวรรษที่ 19 นี้ใคร ๆ ก็นิยมเรียนประสาทวิทยาครับ เรียกว่าเป็นสาขายอดนิยม คุณหมอได้มาเรียนวิชาจิตวิทยาด้วย (คือใครเรียนประสาทวิทยาต้องเรียนจิตเวชด้วยครับ และวิชาจิตเวชตอนนั้นกำลังฮิตเช่นกัน) คุณหมอก็ได้แปลหนังสือ Psychopathia Sexualis มาเป็นภาษาอังกฤษและกำหนดศัพท์ทางเพศหลายคำเป็นครั้งแรก เช่น homosexual, bisexual เรียกว่าผลงานโด่งดังทีเดียว

เป็นผมคงขายหนังสือ ขายลิขสิทธิ์ เอาเงินไปเที่ยวรอบโลก ... แต่คุณหมอจากอเมริกาผู้นี้ เขามุ่งมั่นกว่าที่คิด 

หลังจากโจเซฟ บาร์บินสกี้ ได้ประกาศ Babinski's sign แล้วดังกระหึ่มวงการ คุณหมอจากอเมริกาท่านนี้ได้ข้ามมหาสมุทรเพื่อไปขอเป็นลูกศิษย์ของบาร์บินสกี้ ไปศึกษาเรื่องประสาทวิทยาให้แตกฉาน และขอสิทธิแปลงานของบาร์บินสกี้มาทำเป็นตำราภาษาอังกฤษด้วย (บาร์บินสกี้แต่งหนังสือเป็นภาษาฝรั่งเศส) หลังจากจบสรรพวิชา คุณหมอจึงเดินทางกลับอเมริกา ในปี 1899 

คราวนี้ Babinski's sign ก็รู้จักกันทั่วโลก ใช้กันทั่วโลก แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะการตรวจรีเฟล็กซ์ฝ่าเท้านี้ ปัญหาสำคัญคือ คนไข้ไม่ชอบ คุณลองเอาลูกกุญแจไปขูดฝ่าเท้าแฟนเล่นสิครับ รับรองโดนท่าไม้ตาย บาทาลูบพักตร์ หรืออาจมี pedo-oral interaction แน่ ๆ 

คุณหมอจากอเมริกาท่านนี้ได้คิดค้นวิธีการตรวจแบบใหม่ ที่หากไม่สามารถใช้การตรวจแบบบาร์บินสกี้ได้ ให้มาใช้การตรวจแบบท่านแทน โดยใช้อุปกรณ์เดียวกัน ขูดด้านนอกของเท้าใต้ตาตุ่ม ลากตลอดความยาวเท้ามาทางนิ้วก้อย ก็สามารถให้ผลเหมือนขูดฝ่าเท้าแบบอาจารย์บาร์บินสกี้ของท่านเช่นกัน 

คุณหมอได้ประกาศการตรวจนี้ในปี 1911 ชื่อว่า external malleolar sign (external คือ ด้านนอก,malleolus คือ ตาตุ่ม,sign คือ อาการแสดง, แชมป์พรีเมียร์ คือ ลิเวอร์พูล) 

แต่คนจะยกย่องและจดจำในชื่อ Chaddock's Sign ตามชื่อ Charles Gilbert Chaddock คุณหมอประสาทวิทยาผู้โด่งดังนี่เอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น