02 มีนาคม 2563

sarcopenic obesity

อ่านก่อนกินข้าว : sarcopenic obesity
คนอ้วนที่ขาดอาหาร เอ๊ะ..ยังไง คืองี้ครับ ในโลกยุคปัจจุบันทุกคนก็คงทราบดีว่าเรามีแนวโน้มน้ำหนักตัวมากขึ้นจากสัดส่วนอาหารที่กินผิดไปจากอดีต และการออกแรงที่น้อยลงกว่าอดีต ไม่ต้องย้อนไปไกลถึงยุคเราเป็นนายพรานล่าสัตว์หรอก มันเริ่มตั้งแต่สมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมมานี่เอง
เราบริโภคแป้งและน้ำตาลมากขึ้น เนื้อสัตว์และโปรตีนลดลง อาหารจานด่วน ทำให้น้ำหนักเราเพิ่มขึ้น (obesity) เส้นรอบเอวเราเพิ่มขึ้น (obesity) ไขมันในช่องท้องเรามากขึ้น (obesity)
เราออกแรงน้อยลง เราออกกำลังกายน้อยลง เราใช้เครื่องทุ่นแรงมากขึ้น ทำให้มวลกล้ามเนื้อเราลดลง (sarcopenia) เรากินโปรตีนลดลงทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงเร็ว (sarcopenia) เราเข้าสู่สังคมสูงวัย ไม่ใช่สูงวัยธรรมดาด้วย แต่เปราะบาง เพราะมวลกล้ามเนื้อเราลดลง (sarcopenia)
สองอย่างมารวมกัน คือ sarcopenic obesity ภาวะนี้ทำให้เกิดผลตามมามากมาย ไม่ว่ากระดูกหักง่าย เบาหวานและโรคอ้วนลงพุง ฮอร์โมนบกพร่อง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งอัตราการเสียชีวิตโดยรวมที่เพิ่มขึ้น จากการทำการรวบรวมการศึกษาเกือบทุกอันบอกมาในทางเดียวกันคือ มันไม่ดี
แต่ว่า...การศึกษาเหล่านี้มีความแปรปรวนสูง เพราะการวัด obesity ที่ต่างกัน (ตอนนี้เรายังใช้น้ำหนักตัวและดัชนีมวลกายเป็นหลัก) การวัดมวลกล้ามเนื้อที่ต่างกัน มาตรฐานวัดมวลรวมกล้ามเนื้อแขนขา (appendicular skeletal muscle mass) แล้วมาเทียบความสูง เข้าสูตรคำนวณทางสถิติ (ตัดที่ต่ำกว่า 2SD) ซึ่งหลายการศึกษาก็วัดค่าไม่เท่ากัน บางอันใช้ DXA ที่ใข้วัดมวลกระดูกนั่นแหละ หลายอันใช้ electrical bio-impedance
ส่งผลให้การศึกษาและผลการศึกษามีความแปรปรวนสูง แต่โดยรวมคือ ไม่ดี
ดังนั้น น้ำหนักมาก อ้วน ก็ขาดสารอาหารได้ ก็ทุพโภชนาการได้ ถ้าเรากินอาหารด้วยสัดส่วนที่ไม่ครบ ขาดการออกแรง ขาดการออกกำลังกายที่ดี วิถีชีวิตเป็นสาเหตุสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าคือ การตระหนักรู้และปฏิบัติของเรานี่แหละครับ
ชาไข่มุกในมือท่าน เบเกอรี่สุดหอมในมือท่าน สามชั้นทอดกรอบในจานท่าน คิดใหม่อีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น