18 มีนาคม 2563

Gigantism กับ Robert Wadlow ชายที่สูงที่สุดในโลก

ทศกัณฐ์ แฮกริด โทรลล์ ต่างก็เป็นยักษ์ บางทีก็ใจร้าย บางทีก็ใจดี วันนี้เรามารู้จัก ย.จ.ด. ยักษ์ใจดีกันครับ อ่านเรื่องราวฟีลกู๊ด ในบรรยากาศตึงเครียดกันบ้าง อย่าลืมกาแฟอุ่น และขนมปังร้อน ๆ ด้วยนะครับ
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โลกตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจนถึงขีดสุด ทั้งจากหลังสงคราม โรคไข้หวัดสเปน การล่มสลายของจักรวรรดิ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายประการ กระทั่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ชนะสงครามและผันตัวมาเป็นมหาอำนาจเพราะบอบช้ำน้อยที่สุดก็ยังไม่พ้นภาวะนี้ เราจะย้อนกลับไปในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1918
ที่เมือง Alton มลรัฐ อิลลินอยส์ ทารกน้อยนาม Robert Wadlow ได้ถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวคนชั้นกลางครอบครัวหนึ่ง หนูน้อยเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัว ตอนที่เกิดนั้นหนูน้อยมีสุขภาพดีมาก น้ำหนักแรกคลอด 3.9 กิโลกรัม เป็นที่ยินดีของพ่อแม่อย่างยิ่ง
แต่ทว่า...
เมื่อผ่านไปสองเดือน หนูน้อยเริ่มโตมากขึ้นอย่างเร็ว มากกว่าเด็กวัยเดียวกัน จนเมื่ออายุ 6 เดือน หนูน้อยน้ำหนักถึง 13 กิโลกรัม ! (ปกติเมื่ออายุ 1 ปี น้ำหนักตัวจะประมาณ 10 กิโลกรัม) และมีส่วนสูงมากกว่าค่ามาตรฐานถึง 2 เท่า
ผ่านไปเมื่อเขาอายุ 5 ปี เขาต้องใส่เสื้อของคนอายุ 17 ปี เมื่ออายุ 10 ปี เขามีน้ำหนัก 95 กิโลกรัมและสูงมาก โดยที่คนในครอบครัวของเขาไม่มีใครสูงแบบนี้เลย เพื่อนร่วมโรงเรียนไม่มีใครเป็นแบบนี้เลย พออายุ 12 ปี เขาจึงได้รับการวินิจฉัยว่าความผิดปกติของต่อมใต้สมอง (pituitary gland) ที่หลั่งฮอร์โมนมากเกินไป จนทำให้การเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนและไม่รู้จบ
ต่อมใต้สมอง (pituitary gland) เป็นต่อมเล็ก ๆ อยู่ในส่วนลึกสุดของสมอง น้ำหนัก 0.5 กรัม ขนาด 10x10x6 มิลลิเมตร เท่านั้น เชื่อมต่อกับสมองส่วนไฮโปทาลามัส สมองส่วนที่ควบคุมการทำงานพื้นฐานของมนุษย์ในแง่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ต่อมที่มีขนาดเล็กสุดติ่งนี้กลับควบคุมการทำงานของฮอร์โมนเกือบทั้งหมดของร่างกาย ความผิดปกติของต่อมนี้จึงส่งผลมากมายมหาศาล หนึ่งในฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเรียกว่า Growth Hormone ที่ควบคุมการเจริญเติบโตของมนุษย์
กลับมาที่แวดโลว์ หนุ่มน้อยแวดโลว์เจริญเติบโตเร็วมาก สูงกว่าคนวัยเดียวกันเกือบสามเท่า จึงมีน้ำหนักตัวมาก อัตราการเผาผลาญมากมายมหาศาล เขาจึงต้องกินอาหารมากกว่าคนปรกติ 5 เท่า ใช้พื้นที่เนื้อผ้ามากกว่าคนปรกติ 3 เท่า ทำไมจึงเป็นเช่นนี้
Growth Hormone มีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโต หากมีฮอร์โมนนี้มากกว่าปรกติ ก่อนวัยรุ่น ก่อนความสูงของร่างกายจะหยุด ก่อนกระดูกจะปิดตัวลง ความสูงจะพุ่งมากไม่หยุดควบคู่ไปกับการเจริญของอวัยวะต่าง ๆ มากกว่าอายุ เราเรียกโรคนี้ว่า Gigantism แต่ถ้ามาเกิดโรคหลังจากการเจริญเติบโตเต็มที่ไปแล้ว กระดูกปิดการโตไปแล้ว การเจริญจะออกทางงอกด้านข้างแทน เราเรียกโรคนี้ว่า acromegaly โรคนี้ไม่ได้พบบ่อยนัก ในอดีตมีแต่การรวบรวมกรณีศึกษาเท่านั้น
ด้วยความที่โรคนี้ไม่ได้พบบ่อยและทำให้ Robert Wadlow เกิดความลำบากในการใช้ชีวิต ..
ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ครอบครัวมีสมาชิกมาก และหนุ่มน้อยแวดโลว์ต้องบริโภคทรัพยากรมากมายเหลือเกิน ยังรวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ เพราะการที่มีร่างกายผิดปรกติ ทำให้โรคมากขึ้น ต้องใส่อุปกรณ์ช่วยเดิน ต้องตัดรองเท้าพิเศษ ค่าใช้จ่ายมากขึ้น แม้ครอบครัวจะพอจัดการได้ แต่หนุ่มน้อยแวดโลว์กลับมีจิตใจที่ห้าวหาญ กล้าจะตัดสินใจ
ในปี 1936 ตอนเขาอายุ 18 ปี เรื่องราวความสูงผิดปกติของตัวเขาได้ไปเข้าหูเจ้าของคณะละครสัตว์ชื่อดังในยุคนั้น Ringling Brothers Circus และได้ชักชวนหนุ่มน้อยแวดโลว์เข้าคณะเพื่อจัดแสดงตัว หารายได้จาก "ความผิดปกติ" ของเขา ซึ่งแวดโลว์ก็ได้เข้าร่วมและสามารถทำเงินได้ดีพอสมควร ทำไมเขาจึงมีรายได้ดีพอสมควรล่ะ ทำไมไม่โดนคณะละครสัตว์กดขี่
เพราะทัศนคติที่สุดยอดของแวดโลว์ ที่แม้ความผิดปกติทางกายของเขาจะรุนแรงและหนักหนา แต่ไม่ได้ปิดกั้นจิตใจของเขาเลย..
จากบันทึกและการสัมภาษณ์ครอบครัวรวมทั้งหลักฐานที่มีในเวลานั้นบอกว่า แวดโลว์ มีความคิดว่าเขากับคณะละครสัตว์ทำธุรกิจร่วมกัน หลังจากนั้นสองปี เขาตกลงงานชิ้นใหญ่คือเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์กับบริษัทรองเท้า International Shoe Company บริษัทใหญ่ที่ส่งรองเท้าป้อนกองทัพสหรัฐ นอกจากแบรนด์แอมบาสเดอร์แล้วยังทำหน้าที่เจ้าหน้าที่การตลาดอีกด้วย ด้วยความคิดที่ว่าอยากพัฒนาตัวเองไปมากกว่าขายความ "ผิดปกติ"ของตัวเอง งานของเขาเป็นไปด้วยดี แต่เรื่องยังไม่หยุดแค่นั้น
การบันทึกความสูงของแวดโลว์พบว่าเขายังสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 18-22 ปี สูงถึง 280 เซนติเมตร หนักมากกว่า 400 ปอนด์ โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสูง พร้อมกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น เพราะ growth hormone ปริมาณมหาศาลนี้เอง ฮอร์โมนนี้เมื่อหลั่งออกมาจากต่อมใต้สมองและสลายไปเร็วมากละมีการหลั่งออกมาเป็นช่วงเวลา การตรวจจับปริมาณฮอร์โมนจึงไม่ง่าย วิธีมาตรฐานตอนนี้คือ การให้น้ำตาลทางหลอดเลือดหรือทางการกินปริมาณสูง แล้วดูว่าระดับฮอร์โมนจะลดลงหรือไม่ หรือการตรวจหาตัวกลางการทำงานที่สำคัญที่ตรวจง่ายกว่าคือตรวจระดับ IGF-1
และหากเราไปถ่ายภาพเอ็กซเรย์จะพบว่าเบ้ากะโหลกส่วนที่รองรับต่อมใต้สมองนี้มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อรวมอาการ การตรวจฮอร์โมน การตรวจภาพรังสี เราสามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้ แต่นี่คือปัจจุบัน ในอดีตตอนที่ Pierre Marie ค้นพบโรคนี้ในปี 1886 นั้นต้องมีการผ่าศพตรวจในคนที่มีอาการแบบนี้ พบว่าต่อมใต้สมองจากเม็ดถั่ว ขยายขนาดเท่าไข่นกกะทา และกว่าจะพบว่าเจ้า growth hormone ที่มากกว่าปรกติคือสาเหตุของโรคนี้ก็ปาเข้าไปอีกหลายปี คือในปี 1909 โดยนายแพทย์ฮาร์วีย์ คุชชิ่ง ผู้ค้นพบโรคคุชชิ่ง โรคที่เกิดจากฮอร์โมนอีกชนิดของต่อมใต้สมอง และศิษย์เอกผู้เขียนประวัติของเซอร์วิลเลี่ยม ออสเลอร์ ปรมาจารย์ของวิชาอายุรศาสตร์ และอีกหลายปีกว่าจะพิสูจน์จนครบกระบวนการคือได้ผ่าตัดต่อมใต้สมองออกแล้วอาการต่าง ๆ จะดีขึ้นนั่นเอง
แวดโลว์มีปัญหากับความสูงและน้ำหนักที่มากขึ้นเรื่อย ๆ จนโครงสร้างของเขาเริ่มรับน้ำหนักเขาเองไม่ได้ เขาต้องใช้ไม้เท้า เขาต้องใช้ที่ดามเหล็กเพื่อช่วยรับน้ำหนักตัวเอง ความไม่สมส่วนกันของอวัยวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระดูก หลอดเลือด เส้นประสาท เพราะอวัยวะต่าง ๆ มีอัตราการเจริญเติบโตและช่วงเวลาที่เจริญเติบโตไม่เท่ากัน ในรายของแวดโลว์แม้กระดูกและกล้ามเนื้อของเขาจะเจริญมาก แต่หลอดเลือดและปลายประสาทกลับเจริญได้ไม่ดีนัก ทำให้เกิดปัญหาสำคัญขึ้นคือ เท้าของเขาไม่ค่อยรับความรู้สึก
หลังจากที่แวดโลว์รับบทบาทแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบริษัทรองเท้าชื่อดัง เขาก็มีเวลามากขึ้น ใช้เวลาว่างด้วยการเล่นกีต้าร์และถ่ายภาพ ภาพส่วนมากคือภาพในครอบครัว
ครอบครัวที่สนับสนุนและเป็นพลังให้แวดโลว์มาตลอด
ครอบครัวที่ลงทุนต่อโต๊ะเรียนแบบพิเศษ เพื่อให้เขาเรียนในห้องเรียนได้เหมือนคนอื่น
ครอบครัวที่ไปหาซื้อและตัดชุดลูกเสือที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้
ครอบครัวที่เข้าใจ แบ่งปันอาหาร กินอาหารร่วมกันโดยไม่แบ่งแยก
ครอบครัวที่ช่วยกันต่อโต๊ะ ต่อเตียงให้เป็นพิเศษ เพราะเขาคือสมาชิกของครอบครัว
ครอบครัวที่ไม่ไหวหวั่นและสู้กับสังคมตลอด เพื่อแวดโลว์ จนแวดโลว์เป็นบุคคลชื่อดัง
และแวดโลว์เองก็ได้ส่วนที่ดีจากครอบครัว เขาเป้นคนสุภาพ ใจดี มีเมตตาและช่วยเหลือทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะเห็นเขาผิดปกติอย่างไรก็ตาม จนได้รับฉายาว่า "Gentle Giant of Alton"
แวดโลว์เสียชีวิตอย่างสงบในปี 1940 จากสาเหตุการติดเชื้อที่เท้า ถ้าจำได้ เขามีการรับรู้ความรู้สึกที่เท้าไม่ดีนัก จนผิวเท้าเสียดสีกับรองเท้าตลอด เป็นแผลและลุกลามจนติดเชื้อมากมาย จากบันทึกความสูงของเขาครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต พบว่าเขาสูงถึง 287 เซนติเมตรและน้ำหนัก 490 ปอนด์ แพทย์ที่ดูแลเขาบอกว่าหากเขายังมีชีวิตอยู่ยังจะสูงต่อไปได้อีก
บันทึกจากกินเนสส์บุ๊กและริปลีย์ ระบุว่าเขาคือ คนที่สูงที่สุดในโลกเท่าที่เคยปรากฎมา มีรูปสำริดสูงเท่าตัวจริงตั้งตะหง่านอยู่ที่เมือง Alton รัฐอิลลินอยส์ บ้านเกิดของแวดโลว์
บ้านของ gentle giant ... ยักษ์ใจดี ตัวจริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น