30 มกราคม 2563

วิธีการจัดการข้อมูลทางการแพทย์ที่มาจากบริษัทเวชภัณฑ์

คำถามจากทางบ้าน คำถามนี้ตอบยากมาก
ปุจฉา : ลุงหมอมีวิธีการจัดการข้อมูลทางการแพทย์ที่มาจากบริษัทเวชภัณฑ์อย่างไรครับ
วิสัชนา : .... มันเป็นวิธีส่วนตัวนะครับ
อย่างแรก ให้วางอุเบกขาก่อน ไม่ใช่ว่าข้อมูลที่มาจากการสนับสนุนมันจะต้องแอบแฝงผลประโยชน์ทุกครั้งไป ไม่ใช่ว่าข้อมูลที่ไม่มีใครสปอนเซอร์มันจะไม่มีความโน้มเอียง โดยส่วนตัวผมจะยังไม่ดูว่าใครสปอนเซอร์ ไม่ดูว่าผู้วิจัยมีผลประโยชน์ใดหรือไม่ เอาที่เนื้องาน เอาที่รายละเอียดก่อน วิเคราะห์กับแบบไม่สนใจว่ามีหรือไม่มีผู้สนับสนุน
อย่างที่สอง ข้อมูลที่มีสปอนเซอร์ต่าง ๆ ก็ไม่รู้ว่าเบื้องหลังที่เขาไม่บอกจะเป็นอย่างไร แต่เบื้องหน้าที่เขาประกาศความโปร่งใสออกมาตามกฎเกณฑ์ ถ้าเขาทำได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์จริยธรรมออกมาแล้ว เราก็ต้องให้เครดิตเขาเช่นกัน อีกอย่างนะครับ ถ้าขั้นตอนตรงนี้มันตรวจสอบไม่ได้ ไม่โปร่งใส มันเสียเครดิตมาก ดังนั้นเกือบทั้งหมดจะไม่พลาดขั้นตอนการแสดงความบริสุทธิ์นี้
อย่างที่สาม พออ่านข้อมูลจบ ได้ข้อสรุปแล้ว หากมีผู้สนับสนุนก็ลองหวนกลับไปดูสิว่า ในรายละเอียดเขาได้ชี้แจงความโน้มเอียงเข้าข้างตัวเองไหมและผลเป็นอย่างไร และลองคิดด้วยว่า วิธีและผลที่ออกมาเอียงไปทางได้ประโยชน์กับผู้สนับสนุนไหม ไปดูการศึกษาอันอื่นที่ใกล้เคียงกันซิ มันเป็นอย่างไร
อย่างที่สี่ ถ้ามีสปอนเซอร์ถือเป็นข้อบังคับว่าต้องอ่านทั้งหมด ห้ามอ่านแต่ไฮไลต์ หรือภาพสวยหรู หรือตัวเลขที่มหัศจรรย์ สิ่งที่เราอยากรู้กับสิ่งที่เขานำเสนอ อาจไม่ใช่สิ่งเดียวกัน หรือไปฟังบรรยายมาก็ตาม กลับมาต้องรีวิวของจริงเสมอ
อย่างที่ห้า หากพบว่ามันโน้มเอียง การศึกษามันถือหางผลิตภัณฑ์ ให้เราเอาข้อดีของข้อมูลมาใช้ด้วย มันไม่ได้เสียหรือไม่น่าเชื่อถือทั้งหมด สิ่งที่ได้มา เชื่อได้ก็เชื่อ เชื่อไม่ได้ก็เอาทิ้งไป ไม่ได้หมายความว่าหมึกดำหยดจุดเดียวจะต้องโยนตำรามีค่าทิ้งทั้งเล่ม คิด..วิเคราะห์...แยกแยะ เสมอ
ในโลกนี้ต้องยอมรับว่า ความรู้ทางวิชาการมันมีความเกี่ยวข้องกับงานธุรกิจ การตลาด หรือแม้แต่การเมือง ความรู้บริสุทธิ์หายากขึ้น เพราะการหาความรู้มันต้องมีต้นทุน เมื่อพูดถึงทุน มันก็ต้องพูดถึง กำไร ขาดทุน กลยุทธ์ นั่นคือเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ... มันแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว
แต่..แต่ ถ้าเรามีวิจารณญาณ สติ ความรู้ เราจะแยกประโยชน์ที่แท้จริงออกจากประโยชน์ทับซ้อนได้ เราสามารถนำความรู้นั้นมาใช้ประโยชน์ได้ ต่อยอดได้
ต้องฝึกบ่อย ๆ ฝึกอ่านฝึกวิเคราะห์ฝึกตั้งคำถาม และตอบคำถามนั้นด้วยใจเป็นกลาง จะเกิดความรู้ที่ติดตัวไปตลอด ทำงานอัตโนมัติทุกครั้งที่ได้ข้อมูล
จุดเริ่มแห่งปัญญา เริ่มที่ จุดโทษที่นำเวสต์แฮม 1- 0 #แชมป์ไร้พ่าย #เป็ดกากแต่แชมป์นะแจ๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น