เห็นคลื่นไฟฟ้าหัวใจแผ่นนี้ นึกถึงเรื่องราวในอดีตเรื่องหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อน
หมอหนุ่มคนหนึ่งกำลังจิบกาแฟที่ซุ้มกาแฟในโรงพยาบาล แม้เป็นช่วงเวลาเพียงชั่วครู่ แต่ก็เป็นช่วงเวลาพักที่โหยหาจริง ๆ งานรับปรึกษาต่างแผนกเป็นงานที่เหนื่อยทั้งวัน และในขณะที่กำลังจิบกาแฟร้อนหอม ๆ นั้น
นศพ.ปี 6 : พี่ครับ ผม....เคยอยู่กับพี่สมัยผ่านเมด (คือเวียนมาปฏิบัติงานและเรียนในสาขาอายุรศาสตร์) ที่จำได้ไหมครับ คือตอนนี้ผมอยู่ศัลยกรรมและมีเรื่องปรึกษาครับ
หมอหนุ่ม : จำได้สิครับ ตอนนี้ว่าง มีอะไรล่ะ (นศพ.คนนี้เขาทราบอยู่แล้วนะครับ ว่าผมเป็นเวรรับปรึกษาต่างแผนก)
นศพ.ปี 6 : คือมีคนไข้จะผ่าตัดลำไส้อุดตันเย็นนี้ ประวัติคือ..... ตรวจร่างกาย ... วินิจฉัย.... น้องปีสี่ทำคลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้วมันผิดปกติมากครับ มี bundle branch block .... (น้องอธิบายประวัติและการตรวจร่างกายทางศัลยกรรมได้ดี อ่านคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ดีพอใช้)
หมอหนุ่ม : น้องได้ซักประวัติอดีต และตรวจร่างกายทุกระบบหรือยังครับ
นศพ. ปี 6 : เอ่อ ยังไม่ครบเลยครับ คนไข้เยอะมาก ผมเห็นคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติมาก เลยแอบมาปรึกษาพี่ก่อนครับ
หมอหนุ่ม..ที่ดื่มกาแฟหมดพอดี : งั้นเดี๋ยวเราไปดูพร้อมกัน อีอาร์อยู่ตรงนี้เอง
เอาล่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ป่วยมีอาการลำไส้อุดตันรุนแรง ที่น้องเขาซักประวัติและตรวจร่างกาย นำเสนอผู้ป่วยได้ดี แต่ว่าคนไข้น่าจะเยอะ หน้างานจึงไม่ได้โฟกัสเรื่องประวัติอื่น ๆ ซึ่งต่างจากหมอหนุ่มที่เวลาเหลือมากกว่า สรุปว่า
ผู้ป่วยรายนี้ป่วยเป็นโรคการนำไฟฟ้าของหัวใจบกพร่องแบบสมบูรณ์ (complete AV block) เคยเป็นลม คุณหมอจึงใส่อุปกรณ์กระตุ้นหัวใจให้เมื่อหลายปีก่อน (permanent pacemaker) หากตรวจร่างกายที่ทรวงอกจะพบอุปกรณ์ฝังอยู่ใต้ผิวหนังที่อกซ้าย ได้รับการตรวจสอบอุปกรณ์ล่าสุดก็ใช้งานได้ดี คลื่นไฟฟ้าหัวใจตรงตำแหน่งที่ผมวงสีแดงให้ คือ เวกเตอร์ไฟฟ้าของเครื่องกระตุ้นที่ยิงกระแสไฟฟ้าออกมา เพื่อให้หัวใจเต้นตามจังหวะ ลักษณะจะเป็นเส้นขีดตรง สม่ำเสมอ นำมาก่อนการเต้นของหัวใจ และเมื่อใส่ไว้ในหัวใจห้องหนึ่ง มันก็เลยกระตุ้นหัวใจห้องนั้นก่อนอีกห้อง คลื่นไฟฟ้าหัวใจจึงออกมาเหมือนนำไฟฟ้าไม่เท่ากัน (bundle branch block)
ไม่เป็นไร ผมไม่ได้มาสอนอ่านคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ต้องให้ อ.1412 มาสอน ผมอยากจะบอกเพียงแค่ว่า บางครั้งการซักประวัติที่ครบถ้วนและการตรวจร่างกายทุกระบบ ก็บอกทุกสิ่งทุกอย่าง และผู้ป่วยรายนี้ก็บอกรายละเอียดได้ดีทีเดียว การโฟกัสสิ่งที่รีบด่วนจำเป็นคือสิ่งที่ดี แต่การมองรอบด้านทางคลินิก และความครบถ้วนละเอียดลออ ก็สำคัญเช่นกัน
ตอนนี้น้องคนนั้น เป็นสตาฟสูตินรีเวชโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งแล้ว ส่วนหมอหนุ่มที่สอนเขาวันนั้น ยังเดินวนเวียนดื่มกาแฟตามซุ้มกาแฟ แอบมองบาริสต้าไปเรื่อย จนกระทั่งเห็นคลื่นไฟฟ้าหัวใจแผ่นนี้ที่ได้รับปรึกษามาอีกครั้ง การรื้อฟื้นความหลังจึงบังเกิด
สิ่งที่ไม่เปลี่ยน..คือความหนุ่มใส ในหัวใจและใบหน้าของชายคนนั้น ..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น