เพนนิซิลลิน กับ การติดเชื้อแบคทีเรียในลำคอ
การติดเชื้อ..ย้ำ การติดเชื้อรวมทั้งหมดที่ทางเดินหายใจส่วนบน เกือบทั้งหมดมาจากเชื้อไวรัส ไม่ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ (แม้จะเป็นไข้หวัดใหญ่ ก็มีน้อยมากที่จำเป็นต้องได้ยา) เราจะมาดูส่วนน้อยที่เป็นเชื้อแบคทีเรีย
ในส่วนน้อยนี้ เกือบทั้งหมดเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียกรัมลบ รูปทรงกลม ที่ชื่อว่า สเตร็ปโตคอคคัส และเชื้อที่ติดบ่อยที่สุดคือ สเตร็ปโตคอคคัส กรุ๊ป เอ มีเพียงส่วนน้อยที่เกิดจากแบคทีเรียโรคคอตีบ แบคทีเรียโรคหนองใน หรือแบคทีเรียที่ไม่ต้องใข้ออกซิเจนหายใจ
เจ้าสเตร็ป กรุ๊ป เอ ที่พบบ่อยมากนี้ อาการที่ชัดเจนคือ ไข้สูงสามถึงสี่วัน เจ็บคอมาก โดยเฉพาะเวลากลืนอาหาร มีก้อนต่อมน้ำเหลืองโตแถว ๆ ใต้คางและลำคอ อ้าปากส่องดู จะพบจุดหนองที่ทอนซิล หรือมีจุดเลือดออกเป็นวงคล้ายโดนัทสีแดง
ว่ากันจริง ๆ แล้วโรคนี้ก็หายเองได้นะครับ ถ้าดูแลตัวเอง ประคับประคองอาการดี ๆ แต่ที่เราใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเพราะเราต้องการลดผลแทรกซ้อนของมันต่างหาก การให้ยาทำให้ผลแทรกซ้อนลดลงมาก และมันก็ทำให้โรคหายเร็วขึ้นด้วย
ผลแทรกซ้อนที่ว่าคือ โรคหน่วยกรองของไตอักเสบ จากภูมิคุ้มกันที่มาทำลายเชื้อโรคบางส่วนมันไปทำลายหน่วยการกรองของไต ลดการเกิดไข้รูมาติก ลดโอกาสการเกิดหนองในช่องคอ โรคแทรกพวกนี้อันตรายกว่าโรคติดเชื้อแบคทีเรียกรัมบวก สเตร็ปโตคอคคัส หลายเท่า
ยาที่ใช้ได้ดี และยังดื้อยาน้อยมากคือ เพนนิซิลิน ขนาดรักษาในผู้ใหญ่คือ เพนนิซิลลิน วี ขนาดเม็ดละ 500 มิลลิกรัม (แปดแสนยูนิต) รับประทาน **ก่อน** อาหารสามมื้อ เป็นเวลา 7-10 วัน เอาตัวเลขกลม ๆ 10 วันแล้วกัน ถ้าแพ้เพนนิซิลลินค่อยใช้ยา อิริธโทรมัยซิน หรือ macrolides ตัวอื่น
ยาเม็ดเพนนิซิลลิน ยังใช้ได้ดีมาก สำหรับโรคนี้ ราคาถูกมาก ประสิทธิภาพสูง มีทุกโรงพยาบาล ถ้าจะว่ากันตามตรง สำหรับโรคนี้แล้ว ยาตัวเลือกแรกคือ เพนนิซิลลิน หาใช่ อะม็อกซี่ซิลลิน ไม่
การใช้ยาฆ่าเชื้อที่ดี คือ ให้ยาที่ครอบคลุมเชื้อที่เป็นไปได้ ให้แคบที่สุด และบริหารยาให้ตรงตามเภสัชจลนศาสตร์ของยา ให้เหมาะกับตัวยาและตัวคน ดังนั้น ควรผ่านการพิจารณาโดยแพทย์และเภสัชกรเสมอครับ
เพนนิซิลลิน ... ตำนานที่ยังอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น