24 ธันวาคม 2562

เล่าเรื่องคนไข้มาหลายคน มาถึงคนไข้คนพิเศษคนนี้บ้าง .. ตัวฉันเอง

เล่าเรื่องคนไข้มาหลายคน มาถึงคนไข้คนพิเศษคนนี้บ้าง .. ตัวฉันเอง
อดีตที่ผ่านมาหลายสิบปีตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ผมได้รับการสั่งสอนจากพ่อแม่เสมอว่า ให้ดูแลตัวเองให้ดีก่อน โดยกินดี อยู่ดี แม้ว่าการใช้ชีวิตของผมจะโลดโผนโจนทะยานมากในช่วงวัยหนุ่ม ลองทุกอย่าง ทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าทำไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยละเว้นเลยคือการดูแลสุขภาพ
ผมออกกำลังกายเกือบทุกวันมาตั้งแต่อายุ 12 แม้แต่ช่วงเรียนหนักก็หาเวลาไปออกกำลังกายอยู่ดี ผมไม่กินอาหารมันจัด ผมไม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า..ยอมรับว่าเคยดื่ม ชีวิตนี้เมาครั้งเดียวคือวันรับน้องข้ามฟาก ที่เหลือดื่มคิดเป็นปริมาณประมาณเบียร์สี่กระป๋องต่อปี และน้อยลงมาเรื่อย ๆ เป็นสิบ ๆ ปี ปัจจุบันไม่ดื่มเหล้าอีกเลย
พออายุมากขึ้น ผมลดแป้งมา 5 ปี ไม่ดื่มเครื่องดื่มหวานใด ๆ เลย มา 5 ปีเช่นกัน ออกกำลังกายเท่าเดิมแต่ด้วยวิธีที่นุ่มนวลขึ้น ไม่เล่นสารพัดกีฬาเหมือนอดีต (ขับมอเตอร์ครอส, ว่ายน้ำตัวเปล่าข้ามแม่น้ำ, เล่นฟุตบอลกลางฝน, เจ็ตสกี และทุกสารพัดกีฬาที่เล่นได้) ควบคุมอาหารทุกมื้อ กินอาหารครบห้าหมู่ทุกวัน ผ่อนคลายจิตใจ พักผ่อนมากขึ้น
แต่สุดท้าย LDL ก็ 194 mg/dL !!!
ครับ..ตามแนวทางการรักษาปัจจุบัน ผมต้องกินยาลดไขมันสเตตินเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด และกินแบบ primary prevention กินโดยยังไม่เกิดโรค โชคดีที่ระดับความดัน เบาหวาน ยังปรกติ
สิ่งที่ผมเคยบอกคนไข้และคนไข้ลังเล สิ่งที่ผมเคยเขียนในเพจแล้วทุกคนมีคำถาม ...ไม่กินยาได้ไหม กินไปนานแค่ไหน อันตรายหรือเปล่า มันประดาประดังเข้ามาอยู่ในหัวเรา แม้จิตสำนึกจะบอกว่า มันต้องกินยา แต่จิตใต้สำนึกก็สวนกลับขึ้นมาทันที จะกินจริงหรือ
แต่ของพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้จิตใต้สำนึกตัดสินใจ จึงตัดสินใจกินยาสเตติน ถามใครไหม ถามเพื่อนที่เป็นอาจารย์โรงเรียนแพทย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้รับคำตอบเหมือนที่ผมเขียนในเพจเป๊ะเลย กินเหอะ ... น้อง ๆ หมอจำไว้นะครับ แม้น้องจะสามารถวินิจฉัยและรักษาตัวเองได้ แต่น้องจะอคติและเข้าข้างตัวเองสุด ๆ น้องจะต้องถาม second opinion เสมอ
กินแล้วเป็นไง ปวดเมื่อยไหม ตับแย่ลงหรือเปล่า นอนไม่หลับ ไม่กลัวเบาหวานหรือ (ระดับน้ำตาลผมเท่ากับ 92) ผมเคยบอกสิ่งที่จะเกิดกับคนไข้เวลาต้องกินยาหลายครั้ง และหลายครั้งคนไข้ก็ปวดเมื่อยและขอหยุดยา ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เกณฑ์การหยุด แล้วผมเจออะไรไหม
ตอบ..ไม่เจอเลย หลาย ๆ คนคิดว่าผมคงอคติ แต่ขอบอกจริง ๆ ว่าไม่ได้คิดถึงผลข้างเคียง ไม่ได้ตรวจ CPK, ALT ทุกวันนี้ก็กินอิ่มนอนหลับ ออกกำลังกายได้ตามปกติ ..อึด ทน... ชีวิตเหมือนเดิมทุกอย่างแค่ต้องกินยาวันละครั้ง ชื่อยาผมขอไม่บอกนะครับ มันจะชี้นำคนอื่นได้ ไม่ว่ายาตัวไหนก็ใช้ได้หากขนาดเหมาะสม
ตรวจติดตาม LDL หลังกินยาไปสักหนึ่งปี (อันนี้คือกลัวเข็ม จึงไม่ได้ตามเหมือนแนวทาง) ก็ลดลงเหลือ 98 mg/dL
ถามว่าหยุดไหม....ไม่หยุด แล้วไม่ออกกำลังกายควบคุมอาหารแทนหรือ...ก็ทำมาทั้งชีวิต ตอนนี้ก็ทำ ไม่กลัวผลเสียหรือ...ไม่กลัวและยังไม่เกิด ถ้าเกิดค่อยว่ากัน
ทำไมถึงมาบอกเล่า เรื่องราวเหล่านี้ไม่สามารถบอกคนไข้ได้ว่า "กินเหอะ หมอก็กิน" แต่เคยมีเสียงหนึ่งในเพจบอกว่า ให้ผมเล่าเรื่องราวนี้ เนื่องจากมีหลายคนที่คิดว่า "หมอมาแนะนำให้กินยา แต่ตัวเองไม่เห็นจะกินเลย"
ก็อยากบอกว่า ผมก็กิน ไม่ใช่กินเพราะตัวเองเขียนเรื่องนี้บ่อย ไม่ใช่กินเพราะแนวทางเขียน แต่กินเพราะชั่งน้ำหนักผลดีผลเสียอย่างรอบคอบ ไม่ใช้อารมณ์ ไม่ใช้ความเชื่อครับ
"ไขมันมากเสี่ยงสูงต้องกินยา ไฟแรงสูงพลังม้า...ต้องกินลุง"
ภาพประกอบคือ ติดใจมาตั้งแต่เด็ก อยากทำแบบนี้มาตลอด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น