ฤา จะหมดยุคของยาเบาหวาน SULFONYLUREA
ยาเม็ดรักษาน้ำตาลในเลือดสูงกลุ่ม SULFONYLUREA เป็นยาที่ใช้กันมานานมาก ราคาถูกมาก ประสิทธิภาพการลดน้ำตาลดี แต่มีผลข้างเคียงที่สำคัญมากคือ ทำให้น้ำตาลต่ำได้ เพราะตัวยาไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน โดยไม่ขึ้นกับว่าระดับน้ำตาลในตัวจะสูงหรือต่ำ มันจะลดน้ำตาลเสมอ หลายครั้งทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำมากจนเกิดอันตราย
อีกทั้งผลการปกป้องหัวใจ ไต และหลอดเลือดก็ไม่ชัดเจน ไม่เหมือนยากลุ่มใหม่ที่ออกมา แต่ที่ยังใช้มากเพราะราคาไม่แพงและหากเฝ้าระวังดี ๆ ผลของน้ำตาลต่ำก็ไม่ได้มากจนน่าตกใจ ยากลุ่มนี้เช่น gliplizide, gliclazide, glimepiride ผมไม่แน่ใจว่า glibenclamide ยังมีใครใช้อยู่อีกหรือไม่
การศึกษาที่ออกมาใหม่ล่าสุด (ก็สักพักแล้ว) คือการศึกษา CAROLINA ที่เทียบการรักษาด้วยยา glimepiride กับยากลุ่ม DPP4i คือ linagliptin (ยาจะไม่ทำให้เกิดน้ำตาลต่ำ) ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจสูงที่ได้รับการรักษามาตรฐานมาแล้ว ส่วนมากคือ metformin โดยมีผู้ป่วย 4,000 กว่าคน ติดตามไปหกปี
ปรากฏว่าสิ่งที่สนใจคือการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มไม่ได้ต่างกันนักคือ ประมาณ 12% แต่สิ่งที่ต่างกันคือ การเกิดน้ำตาลในเลือดต่ำที่ระดับปานกลางถึงรุนแรง ยา glimepiride เกดน้ำตาลต่ำมากกว่า linagliptin ถึง 82% หากคิดตัวเลขจริง ๆ ที่ไม่ใช่แค่การเปรียบเทียบก็ต่างกันมากเช่นกัน
ยาเบาหวานปัจจุบันสามารถลดน้ำตาลได้ดี ไม่ทำให้น้ำตาลต่ำ ปกป้องหัวใจ ไต และหลอดเลือดได้มาก ตามวิทยาการที่ดีขึ้น ถ้ามีโอกาสอาจขยับเป็นยากลุ่มใหม่ ๆ ได้ แต่ถ้าไม่มีโอกาสโดยเฉพาะเรื่องราคา ที่ยาใหม่ยังแพงมาก การใช้ยาเดิม sulfonylurea ต้องระวังน้ำตาลต่ำให้มาก ๆ ต้องปรับยาให้เหมาะสม
หากน้ำตาลต่ำ การรักษาจะสะดุดหยุดลง ลงเอยด้วยการควบคุมน้ำตาลที่ไม่ดี ผลข้างเคียงต่อหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาวที่สูงขึ้นได้
ยาถูกหรือแพง ไม่สำคัญ ... สำคัญคือ สติและความระมัดระวังในการใช้ยา
ลุงหมอจะอายุเท่าไร ไม่สำคัญ ... สำคัญคือ แซ่บมากและเร้าใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น