เมื่อ 3 ปีก่อน
เช้าวันที่ 13 ตุลาคม เหมือนเช้าทุกวันที่ต้องไปดูแลผู้ป่วย แต่วันนี้จิตใจไม่แจ่มใสเลย
สายวันที่ 13 ตุลาคม ข่าวสารความห่วงใยของพสกนิกรต่อองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ออกมาต่อเนื่อง ผู้ป่วย ญาติ เพื่อนร่วมงาน หรือคนไทยทุกคนบนโลกนี้ต่างรู้สึกอึมครึม ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
เที่ยงวันที่ 13 ตุลาคม แวะไปเปิดดูโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ไม่มีข่าวสารใด ๆ ออกมาอีก
บ่ายวันที่ 13 ตุลาคม แม้งานจะหนักมากในบ่ายนี้ แต่เสียงทุกคนที่คุยกัน คุยกันเพียงเรื่องเดียว ทุกคนร้อนใจ กระวนกระวายใจ
เย็นวันที่ 13 ตุลาคม รีบไปซื้อกับข้าวและของใช้จำเป็น แล้วรีบกลับบ้าน ตั้งใจจะรอดูข่าวในพระราชสำนัก ตลอดทางเปิดวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ยังไม่มีข่าวสารใด ๆ จากวิทยุ
ค่ำวันที่ 13 ตุลาคม คำประกาศข่าวจากสำนักพระราชวัง ทำให้หัวใจร่วงหล่น วินาทีที่รู้สึกได้ว่าตัวเองก็หยุดหายใจ เหมือนแสงเทียนดับ ได้ยินหัวใจตัวเองเต้นดังมาก พระผู้เป็นมิ่งขวัญอันรักยิ่ง ในหลวงรัชกาลที่เก้าเสด็จสู่สวรรคาลัย
ดึกของวันที่ 13 ตุลาคม โพสต์ข้อความเพื่อบอกสมาชิกเพจทุกคนว่า ขอให้แปรเปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นพลัง สิ่งที่ควรจะทำคือ ตั้งสติให้มั่นและยืนหยัดทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุจริตและเต็มกำลัง เป็นสิ่งเดียวที่ประชาชนอย่างพวกเราจะถวายเป็นพระราชกุศลได้ดีที่สุด อย่าให้สิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่เก้าทรงสร้างมาตลอด ขาดช่วงขาดตอน เราต้องยืนหยัดต่อสู้ เพื่อตัวเอง เพื่อสังคมและเพื่อประเทศชาติต่อไป
ผ่านมา 3 ปี
ชายหนุ่มคนหนึ่งยังยืนยันที่จะทำความดีหนึ่งอย่าง ยึดตามแนวพระราชดำรัสของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศ อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชบิดาของในหลวงรัชกาลที่เก้าว่า
"True success is not in the learning, but in its application to the benefit of mankind"
เขาเดินหน้าให้ความรู้ความเข้าใจทางการแพทย์ที่ถูกต้องกับประชาชนทั่วไปตลอดมา หวังจะเป็นหนึ่งความดีที่ช่วยสรรค์สร้างสังคมและประเทศชาติ อย่างที่เคยตั้งใจไว้ตลอดไป
แล้วคุณล่ะ ตั้งใจทำอะไรเพื่อสังคมและประเทศชาติ หรือทำอะไรมาแล้ว ขอเชิญชวนมาแบ่งปัน ส่งต่อ และเชิญชวนทุกคน ร่วมทำความดีในแบบของเราและต่อยอดความดีนั้นให้งอกงามยั่งยืน ..สืบไป
อายุรศาสตร์ ง่ายนิดเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น