08 กันยายน 2562

รายงานอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าต่อปอด

ข้อมูลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับโรคปอดอันเกี่ยวเนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้า วารสาร New England Journal of Medicine ลงตีพิมพ์ในช่วงดึกของวันที่ 7 กันยายน 2562 หลังจากมีข่าวการเสียชีวิตจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้่าอย่างต่อเนื่องตลอดหนึ่งเดือนมานี้ เนื้อหาการศึกษาส่วนละเอียดท่านต้องอ่านเอง ผมสรุปมาให้เท่านั้น
การศึกษานี้เป็นการรวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยา เป็นรายงานการเกิดโรคปอดอักเสบเฉียบพลันที่เกิดในรัฐอิลินอยส์และวิสคอนซิน จำนวนทั้งหมด 53 ราย ที่มีประวัติการใช้บุหรี่ไฟฟ้าก่อนเกิดโรคและสงสัยว่าเกิดจากบุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นรายงานชิ้นแรกที่สามารถรวบรวมกลุ่มคนได้มากขนาดนี้ และเป็นการศึกษาที่เป็นผลกระทบในคนที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ค่าผลเลือดหรือผลกระทบต่อเซลล์ใดเซลล์หนึ่ง เรียกว่าใช้ clinical outcome, morbidity, mortality, case fatality ของจริง
ข้อกำหนดที่บอกว่าเป็นโรคปอดอักเสบเฉียบพลันจากบุหรี่ไฟฟ้าคือ
1. มีประวัติใช้บุหรี่ไฟฟ้าชัดเจนในระยะเวลาภายใน 90 วันก่อนเกิดอาการ
2. ภาพถ่ายเอ็กซเรย์ปอดหรือเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์พบลักษณะฝ้าขาว ground glass (แก้วบดละเอียด) มักพบสองข้างและเด่นที่ปอดกลีบล่าง
3. ไม่มีการติดเชื้อ ถ้าระดับยืนยันต้องส่องกล้องหลอดลมลงไปเพื่อนำสิ่งส่งตรวจมาจรวจด้วยการหาสารพันธุกรรมเชื้อโรคทั้งแบคทีเรียและไวรัส รวมทั้งต้องไม่มีการติดเชื้อเอชไอวี ระดับน่าสงสัยคือการตรวจปรกติและเพาะเชื้อ
4. ไม่มีสาเหตุอื่นอันพึงอธิบายได้
สิ่งที่พบคือ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยคือ 19 ปี คำกล่าวที่ว่าใช้กันมากในหมู่วัยรุ่นเป็นความจริง--อาการที่พบบ่อยคือ เหนื่อย หายใจไม่สะดวก ไอ เจ็บหน้าอก และสามารถมีอาการคลื่นไส้อาเจียนถึง 80%--เมื่อมานอนโรงพยาบาลซึ่งเกิน 90% ต้องนอนโรงพยาบาลและนอนไอซียูด้วย พบว่ามีอาการไข้ หนาวสั่น ความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดต่ำลง อัตราการหายใจเร็ว ที่สำคัญคือภาพถ่ายรังสีผิดปกติ 100%
ถามผมนะครับอาการแทบจะแยกไม่ได้เลยกับติดเชื้อที่ปอดรุนแรง แยกไม่ได้เลยกับระบบหายใจล้มเหลว แยกไม่ได้เลยกับ ARDS ตามรายงานเข้าเกณฑ์ ADRS ถึง 15 คน
แน่นอนทั้งหมดคงต้องเข้ากับการรักษาแบบคนไข้วิกฤตและได้รับยาปฏิชีวนะไปก่อนแน่ ๆ ตามรายงานเกือบทั้งหมดได้รับยา levofloxacin หรือ azithromycin แล้วอะไรล่ะที่จะแยกโรคและบอกว่าเกิดจากบุหรี่ไฟฟ้า
***1. ประวัติการใช้บุหรี่ไฟฟ้าใน 90 วัน ซึ่งทุกคน 53 คนมีประวัตินี้ทั้งสิ้น เกือบทั้งหมดคือ 94% เป็นการใช้ทุกวัน ***
2. ผลการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจพบ ความเสียหายกระจายวงกว้างของถุงลมและมีเซลล์มาโครฟาจผิดปกติ diffused alveolar damage, interstitial and peribronchial granular pneumonitis, foamy macrophage, lipid laiden macrophage แต่มีคนที่ได้ตัดชิ้นเนื้อไม่มากนะครับ ซึ่งผลการตัดชิ้นเนื้อแบบนี้พบได้หลายโรค อนาคตถ้าเรามีข้อมูลมากขึ้นเราน่าจะอธิบายความผิดปกติอันเกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าได้ละเอียดขึ้น
มีคนที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจแบบไม่ใส่ท่อ 36% แบบต้องใส่ท่อช่วยหายใจถึง 32% เวลานอนโรงพยาบาลประมาณ 6 วัน ทั้งหมดได้รับการรักษาวิกฤต ได้สเตียรอยด์ มีผู้ป่วยเสียชีวิตสองราย
ที่กล่าวมาคงชัดเจนว่ามีข้อมูลแน่ ๆ ว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ปลอดภัยเสียทั้งหมด มีรายงานทางคลินิกเรียบร้อย คราวนี้อะไรเป็นสาเหตุ
พบว่าผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ป่วยทั้ง 53 คนนี้มีการผสม THC สารที่อยู่ในกัญชานั่นแหละครับถึง 80% ใช้บุหรี่เผาไหม้ร่วมด้วยถึง 7% มีทั้งใช้สาร THC โดยใช้เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวส่ง มีทั้งใช้คู่กับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าร่วมกัน และมีที่ไม่ใช้สาร THC ใช้บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าล้วน ๆ ก็เกิดได้เช่นกัน -- ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า dual user มีจริง, การควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในสองรัฐนี้หรือการใช้สารสกัดจากกัญชาน่าจะมีปัญหา
ผู้วิจัยสรุปว่าน่าจะเกิดจากตัวทำละลาย หรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน มีการดัดแปลงและผสมเอง (THC) มากที่สุด รองมาคืออาจจะเกิดจากอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่า ตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดเรื่อง หรือสารสกัดกัญชาทำให้เกิดเรื่อง หรือเกิดจากไอระเหยของทั้งสองเมื่อผ่านความร้อนของระบบส่งความร้อนของบุหรี่ไฟฟ้าแล้วทำให้เกิดเรื่อง
บอกได้แค่ว่าตอนนี้มีคำเตือนเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าออกมาชัดเจน และหากพบผู้ป่วยมีอาการระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันแบบนี้ สิ่งที่ต้องคิดเพิ่มอีกสองอย่างคือ ใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่ หรือ ใช้สาร THC ด้วยหรือไม่
จบรายงานเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
วารสารโหลดมาอ่านได้ฟรีครับ
https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa1911614

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น