07 กันยายน 2562

ข้อคิดจากงานประชุมวิชาการต่างประเทศ "be a superproductive doctor"

ข้อคิดจากงานประชุมวิชาการต่างประเทศ จบงานประชุม ESC จัดที่ประเทศฝรั่งเศส นอกเหนือจากเนื้อหาวิชาการต่าง ๆ ผมมีข้อคิดมาฝาก (คิดเองเออเองนะครับ) เผื่อใครเอาไปใช้ได้
1. คุณได้เรียนรู้ว่าถ้าคุณ "อยากเรียน อยากรู้ มีโอกาสเรียนรู้" คุณจะหาทางข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ได้ อย่างในงานนี้จัดที่ปารีส ผมไม่มีเวลาและทุนทรัพย์ไปได้ แต่เมื่องานได้มีการถ่ายทอดสด มีการใช้ทวีตเตอร์ มีพ็อดคาสต์ มีวารสารที่เปิดให้อ่านฟรี มีแนวทางให้ดาวน์โหลด โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย มีงานประชุมวิชาการดี ๆ มากมายแต่จะหาที่เผยแพร่แบบนี้ได้ยาก ก็จะหาเวลาว่างเสมอ เล็กน้อยก็เก็บให้หมด เนื่องจากเวลาที่จัดมันคาบเกี่ยวเวลาทำงานจึงซื้อชั่วโมงอินเตอร์เนตเพิ่มเพื่อฟังถ่ายทอดตลอดเท่าที่ทำได้
2.คุณได้ข้ามพ้นศักยภาพที่ตัวเองจำกัดเอาไว้เอง การบรรยายใช้ภาษาอังกฤษล้วนและมาจากหลายสำเนียงในยุโรป คุณต้องเพิ่มสติและสมาธิในการฟัง การคิดตาม เชื่อมโยงความรู้ที่มีอยู่เดิมและคาดเดาถึงสิ่งที่เขาจะพูด เนื้อหาหนักแม้เป็นภาษาไทยยังยาก แต่นี่เป็นภาษาอังกฤษระดับที่เร็วพอควร แต่เมื่อคุณฟังจนจบและฟังแล้วฟังอีก คุณจะพัฒนาทักษะมากขึ้นเรื่อย ๆ
3.คุณได้เรียนแบบ productive เนื่องจากเราต้องฟังเรื่องใหม่ ฟังจากภาษาอังกฤษดังนั้นถ้าคุณไม่ใช่ศาสตราจารย์ด้านนั้นและใช้ภาษาอังกฤษได้ดี รับรองคุณเหนื่อย สิ่งที่เราต้องทำเสมอคือ ดูว่าเรากำลังจะฟังเรื่องอะไรเราต้องอ่านบทคัดย่อ ทบทวนเรื่องนั้น อย่างตอนที่บรรยายเรื่องแนวทางใหม่ทั้ง 5 คุณต้อง "บริ๊ฟ" ให้จบก่อนฟังเสมอ ทำให้เวลาฟังแล้วได้น้ำได้เนื้อจริง ไอเดียและความเข้าใจมาแบบปัง ปัง ปัง เลย
4.เนื้อหาก็ดี แต่แนวคิดและไอเดียสำคัญมาก เวลาที่เราฟังผู้เชี่ยวชาญที่มาจากต่างที่ ต่างทรัพยากร ต่างสิ่งแวดล้อม เราจะได้รับรู้ความคิดของเขาที่บางครั้งเราก็คิดไม่ถึง อ่านเนื้อหาเดียวกันฟังเนื้อหาเดียวกัน..แต่..โหย เขาคิดแบบนี้เลยรึ และเขาคาดหวังสิ่งที่จะเกิดขนาดนี้เลย เพราะเรามีบริบทที่ต่างกัน เราจึงคิดไม่เหมือนกัน นี่คือสิ่งที่น่าเรียนรู้
5.คุณได้ฝึกจัดสรรเวลาแน่นอน ในช่วงเวลา 5 วันที่ตั้งใจว่าเราจะเรียนไปพร้อมกับงานประชุม ไม่มีดินมาพอกหางให้ต้องมาติดตามย้อนหลัง จะทำอย่างไรให้จัดเวลาได้แม่นยำ ทรงประสิทธิภาพ เทคนิคการจัดตารางลงกล่องเวลา (time boxing) เอามาใช้สูงสุด แม้แต่เวลากินอาหารก็ยังสามารถ boxing ได้ บางเรื่องจัดเวลาอ่าน บางเรื่องฟังเวลาวิ่งออกกำลัง เพื่อจัดเวลาให้คุ้มค่าสูงสุด
6.อันนี้ส่วนตัวนะ เนื่องจากผมทำเพจให้ประชาชนทั่วไปอ่าน สิ่งที่ฝึกคือ implication เราจะมองแนวทางหรือข้อมูลทางการแพทย์ แล้วเค้นหาประเด็นหลักที่สำคัญที่สุด ไม่เกินสองสามประเด็น ที่เมื่อสื่อสารออกไปแล้วคือจุดเปลี่ยน ที่จะทำให้คนทุกคนเห็นความสำคัญและทำตามแนวทางเพื่อประโยชน์ของตัวเขาเอง..ย้ำ เน้นให้เห็นความสำคัญที่จะเกิดประโยชน์ต่อตัวของเขาเอง คนอ่านจะเข้าใจและปรับตามเอง เมื่อเกิดพุทธิปัญญา
ถ้าคุณฝึกทำแบบนี้ คุณจะมีศักยภาพสูงขึ้น เมื่อมาเชื่อมต่อกับโลกยุคไร้พรมแดนแบบนี้ การเรียนทางไกลโดยไม่ต้องใช้เงินมาก การพัฒนาตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ใช่ปัญหาต่อไป ข้อสำคัญคือ...ลงมือทำตั้งแต่วันนี้
"be a superproductive doctor"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น