16 มิถุนายน 2562

intermittent brain fasting

คำเตือน เรื่องสั้นนี้ไม่เหมาะกับผู้มีคู่ เพราะคุณจะอิจฉาความโสด..เข้าไส้
คนหลายคนมักบอกว่า เราไม่มีเวลา แต่ความเป็นจริงเราเพียงจัดเวลาไม่เป็นต่างหาก ถ้าเราต้องการเวลาเพื่อทำอะไรสักอย่างหนึ่งแล้ว เราจำเป็นต้องจัดสรรเวลาที่จำเป็นและเอาเวลาที่สิ้นเปลืองมาเรียงลำดับใหม่ สลับไปสลับมาเราจะเกิดช่องว่างเวลาที่พร้อมจะให้เราใช้งานมัน
ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ทำ intermittent fasting แต่ไม่ได้ทำกับการกินอาหารนะ ทำกับการอ่านหนังสือต่างหาก
ด้วยอาชีพการงานที่ต้องใช้วิชาการในการแก้ไขปัญหาและติดตามวารสารต่าง ๆ เพราะชื่นชอบส่วนตัว แล้วนำเอาข้อสรุปที่ได้มาเขียนลงเพจให้คุณ ๆ ได้เสพอย่างสนุกสนาน เมื่อทำแบบนี้ไปสักพักสมองและความเฉียบคมจะเริ่มล้าเริ่มชิน ความชินชาเป็นสิ่งน่ากลัว มันจะทำให้เราหมดสนุกและมองไม่เห็นสิ่งที่ซ่อนระหว่างบรรทัดของวิชาการเหล่านั้น เราต้องทำให้สมองไม่ชิน
หลายคนมีวิธีต่างกัน ผมใช้วิธี IF ทางหนังสือ คือหยุดยุ่งเกี่ยวกับโลกวิชาการเป็นพัก ๆ ในช่วงที่เลิกยุ่งเกี่ยวจะตัดขาดจาก ชีววิทยา สรีรวิทยา เภสัชวิทยา พยากรณ์โรค แบบสิ้นเชิง และเปลี่ยนโหมดสมองมาเป็นความเพ้อฝันด้วยการอ่านนิยายแบบเอาเป็นเอาตายต่อเนื่องกัน ไม่แพ้ตอนที่อ่านตำรา
วงรอบ IF ทางอาหารอาจจะเป็น กินแปดพักสิบสอง หรือ กินสองพักยี่สิบ สำหรับวงรอบ IF ของผมคือวิชาการสามสัปดาห์ IF สองวัน และนี่ก็ถึงเวลา IF ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องจัดเวลา จัดการงานต่าง ๆ เอกสารต่าง ๆ นัดหมาย จดหมาย หรือแม้กระทั่งตั้งเวลาโพสต์เฟซบุ๊กล่วงหน้า ทำให้เสร็จเรียบร้อยและเตรียมรับมือเมื่อเรากลับมาหางานในอีกสองวันข้างหน้า จัดนั่นจัดนี่ เราจะสามารถสลับจนเกิดช่องว่างเวลามาได้สองวันทุกทีไป
แม้แต่สถานที่ ผมก็จะหลีกหนีที่เดิมด้วย การอ่านหนังสือในห้องทำงานมีผนังห้องเต็มไปด้วยไดอะแกรมโรค ตำราสูงเท่าหัว วารสารอีกหนึ่งตู้ และคอมพิวเตอร์สองเครื่องนั้น มันจะดูดเราเข้าไปวกกับงานอีก ถ้าเราจะหยุดจะพัก ให้ออกมาเลย ไปจองห้องพักที่ราคาไม่แพง เงียบสงบ ไปมาไม่ลำบาก ไม่ไกลมากนัก เพราะเราไปพัก การเดินทางไกล ๆ จะทำให้เหนื่อยเกินไป
ตอนเช้าวันเสาร์ หลังจากจิบกาแฟและซีเรียลใส่นมที่แสนอร่อย ผมจัดเสื้อผ้าสองชุด ของใช้จิปาถะเล็กน้อย และโทรศัพท์ที่จัดการปิดโหมด 4G เรียบร้อย ชาซองรสโปรดหนึ่งกล่อง และหนังสือที่จะไปอ่าน คราวนี้ผมหยิบ pet sematary ของสตีเฟนคิง, การผจญภัยโดยบังเอิญอีกครั้งของชายร้อยปี+1 ของโจนาส โจนาสสันส์, วรรณกรรมที่แท้จริงน่ะ ต้องใช้คอมพิวเตอร์เขียนเท่านั้นไม่รู้เหรอ ของ ร เรือในมหาสมุท แล้วออกเดินทาง
ผมไม่จำเป็นต้องรีบ ขับรถแวะห้างสรรพสินค้าห้างประจำเพื่อไปเยี่ยมเยือนร้านหนังสือแฟรนไชส์ใหญ่ที่ซื้อบ่อย ๆ เช่นเคยก่อนเข้าก็ต้องไปเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวในที่ส่วนรวมให้เรียบร้อยก่อน เพราะหากเกิดปวดปุบปับ มันจะรบกวนสุนทรียะแห่งการเลือกซื้อมาก เมื่อถึงที่หมาย จะถึงเวลานาฬิกาหมุนช้า ค่อย ๆ เดินดูและพลิกอ่านหนังสือใหม่ หนังสือในหมวดอื่น ๆ ที่เราไม่ค่อยได้เปิด เดินช้า ๆ พลิกช้า ๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ยึดติดกับเวลา ให้โจทย์ตัวเองว่าเล่มเดียวพอ กระตุ้นสมองส่วนสรรหาความสุขได้ทำงานเต็มที่ รู้สึกเหมือนสมองส่วนวิชาการกำลังหลับสนิท
หนึ่งเล่มที่ได้มาหลังจากเดินเลือกหนึ่งชั่วโมงเต็มคือ ภาพสุดท้ายที่คนตายเห็น ของฮิงาชิโนะ เคโงะ ตอนที่ชำระเงินพนักงานขายคนเดิมที่คุ้นเคยถามว่า วันนี้รับเล่มเดียวเองหรือคะ ผมยิ้มรับและตอบว่าครับ พนักงานขายทราบดีว่าสำหรับลูกค้าคนนี้ ไม่ต้องใส่ถุงหิ้ว ไม่ต้องใส่ปก ไม่ต้องใส่ที่คั่นหนังสือ เมื่อทอนเงินแล้วเธอก็ยิ้มให้อีกตามเคย
หลังจากที่จัดการอาหารกลางวันแบบง่าย ๆ และซื้อแซนด์วิชสำเร็จรูปสำหรับมื้อเย็นเรียบร้อย ก็มุ่งสู่โรงแรมที่พัก เมื่อเสร็จสิ้นการลงทะเบียนเข้าพักและอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่น ผมหยิบ วรรณกรรมที่แท้จริงน่ะ ต้องใช้คอมพิวเตอร์เขียนเท่านั้นไม่รู้เหรอ เป็นเล่มแรก แล้วเดินไปที่ล็อบบี้ สั่งกาแฟสดหนึ่งแก้วแล้วไปที่เก้าอี้สนามใต้ร่มไม้ของโรงแรม ใช่แล้วครับที่มาโรงแรมนี้เพราะมีเก้าอี้สนามที่เอนนอนได้ เบาะผ้ากำมะหยี่นุ่มสบายใต้ต้นไม้ใหญ่ พื้นหญ้าญี่ปุ่นและเก้าอี้เล็ก ๆ ไว้วางหนังสือ ชุดกาแฟอีกตัวข้าง ๆ กัน
รู้ตัวอีกทีก็ตอนเย็น จบปิดเล่มไปหนึ่งเล่มพร้อมความรู้สึกสดชื่น สนุกสนานที่นักเขียนส่งมาถึงนักอ่าน ผมยังไม่หิวจึงออกไปเดินเล่นที่สนามหญ้าหน้าโรงแรม ต่อไปยังโรงแรมข้าง ๆ นึกขึ้นได้ว่าด้านข้างนี้มีร้านขายอาหารตามสั่งอยู่ ผมมาพักที่นี่หลายครั้ง ทุกครั้งจะซื้ออาหารง่าย ๆ มาเป็นมื้อเย็น ไม่เคยไปกินข้าวร้านนี้เลย ก็คงเป็นวันนี้ที่จะได้ลองเสียที
มักโรนีผัดไก่ ตับย่าง น้ำส้มคั้นสด มาวางตรงหน้าหลังจากสั่งไปไม่นาน กลิ่มหอมมาก อยากจะบอกว่าตับย่างร้านนี้ชิ้นใหญ่จริง แถมน้ำจิ้มของเขาเป็นแจ่วผสมข้าวคั่ว อร่อยมาก นึกถึงบรรยากาศสมัยหนุ่ม ๆ ที่กินตับย่างแกล้มเบียร์เย็น ๆ มันสุดยอดมาก เข้าใจถึงคอเบียร์เลยว่ามันสุขเพียงใด คำพูดโกวเล้งผุดขึ้นมาในใจทันที "ข้าพเจ้ามิได้นิยมชมชอบในรสชาติของสุรา แต่ข้าพเจ้าชมชอบบรรยากาศการร่ำสุรา" นึกแล้วยิ้มในใจ อย่าเลย เราเลิกมานานแล้ว
เดินกลับถึงโรงแรมก็เป็นช่วงหัวค่ำแล้ว ถึงคราวต้องเข้าไปในห้องพักเพราะไม่อยากรบกับกองทัพยุงอันเกรียงไกรของที่นี่ ในห้องพักมีโซฟาหนึ่งตัวที่เป็นลักษณะ "โซฟาดูดวิญญาณ" มันช่างแสนสบายจนไม่อยากจะลุกขึ้น แน่นอนว่าหนังสือเล่มที่สองเริ่มทำงาน การผจญภัยโดยบังเอิญอีกครั้งของชายร้อยปี+1 คุณ ๆ คงคิดว่าผมจะอ่านสตีเฟนคิง ผมบอกเลยว่าผิดจุด ผมเป็นสมาชิกชมรมกลัวผี ดังนั้นไม่มีทางที่ผมจะอ่านนิยายสยองตอนกลางคืนอย่างแน่นอน
ประมาณสามทุ่มครึ่ง เจ้าโซฟาดูดวิญญาณมันก็เริ่มปล่อยวิญญาณคนนั่งให้เป็นอิสระ ผมพักอีกครั้ง ลุกไปต้มน้ำและชงชา ระหว่างนี้ก็อาบน้ำอาบท่า ผมมีทริกอันหนึ่งได้มาจากหนังสือ The Lions of Lucerne แต่งโดยแบรด ธอร์ ผู้ให้กำเนิด สก๊อต ฮาร์แวธ เจ้าหน้าที่องค์รักษ์ประธานาธิบดีที่เก่งกาจ ในเรื่องนี้ฮาร์แวธมีวิธีทำให้ร่างกายสดชื่น โดยอาบน้ำร้อนให้อุณหภูมิร้อนที่สุดเท่าที่ทนได้แล้วปิดน้ำ หลังจากนั้นให้น้ำเย็นที่สุดอาบตามทันที บอกตามตรงนะ ไม่ได้เด็ดแบบที่ฮาร์แวธทำได้ แต่ก็เจ๋งพอควร
หลังจากที่ชาร้อนได้ที่ ผมมานั่งจิบชาและฟังข่าว ขอบคุณทีวีดิจิตอลที่ทำให้ผมมีช่องข่าวดูได้ทั้งวัน ส่วนตัวจะอ่านหนังสือพิมพ์วันละสองฉบับ แต่วันนี้ขอใช้สื่อโทรทัศน์แทน เมื่อชาหมดกา ได้เวลาไปเสพหนังสือต่อ คราวนี้กว่าจะจบเล่มประมาณห้าทุ่มครึ่ง ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย น่าแปลกที่โซฟาไม่ได้ดูดวิญญาณเอาไว้ หรือว่ามันดูดไปจนเกลี้ยงแล้วก็ไม่ทราบได้ ลุกไปดื่มน้ำ ล้างหน้าล้างตา หยิบโทรศัพท์มาดูสายเข้า เยี่ยมมาก ไม่มีแม้แต่สายเดียว การจัดการตารางเวลาและการจัดการผู้ติดต่อของผมเยี่ยมยอดมาก
ถึงเวลาของเตียงนอนบ้าง เนื่องจากโคมไฟตั้งอยู่ห่างหัวเตียงพอสมควร ทิศทางการนอนของผมจึงออกจะประหลาด หันหัวเฉียงกับเตียงเข้าหาแสงไฟ ไม่ได้เพื่อสังเคราะห์แสง แต่เพื่ออ่านหนังสือเล่มสุดท้ายของวันนี้ เจตนาให้หลับคาหนังสือด้วยเจ้านี่ ภาพสุดท้ายที่คนตายเห็น หนังสือที่ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่นี้ อย่าคิดว่ามันคือหนังสือสยอง นี่คือนิยายสืบสวนแบบเขย่าขวัญของราชานิยายสืบสวนญี่ปุ่น เรียกว่าเขย่าประสาทไปต่อเนื่อง แต่เชื่อผมเถอะ มันเขย่าประสาทคนง่วงไม่ไหวหรอก ผมลุกไปปิดไฟเมื่อความง่วงชนะทุกสิ่งอย่าง สัญชาติญาณการคั่นหนังสือของตัวเองบอกว่าอ่านไปได้แค่ 20%
แสงแดดตอนเจ็ดโมงเช้าปลุกผมแต่เช้า ผมทำแบบเดียวกันกับที่ สก๊อต ฮาร์แวธทำอีกแล้ว คราวนี้ได้ผลดีมาก
ที่ห้องอาหารเช้า ไข่ดาวสุก 2 ฟอง ครัวซองต์อบร้อน ซีเรียลพูนชามพร้อมนมสด ตบท้ายด้วยกาแฟดำและแก้วมังกรอีกสองชิ้น ถูกจัดการอย่างรวดเร็วพร้อมคำถามที่ถามตัวเองทุกวันว่า เมื่อไหร่จะลดคาเฟอีนลงได้เสียที และไม่เคยทำได้แม้แต่วันเดียว ผมพาตัวเองและ pet sematary ไปที่เก้าอี้ใต้ร่มไม้ตัวเดิม ถูกอย่างที่คุณคิด ผมเลือกจะอ่านนิยายสยองตอนกลางวันนั่นเอง ใครเคยอ่านนิยายของสตีเฟนคิงจะรู้ว่า มันดูดวิญญาณคุณมากกว่าโซฟาเสียอีก แต่คราวนี้คนที่มากระชากวิญญาณผมกลับสู่โลกแห่งความจริงคือ เสียงตั้งเวลาเตือนเวลาเช็คเอ๊าต์
หนทางกลับบ้าน ผมเปิดฟัง Thai PBS Radio podcast รายการห้องสมุดหลังไมค์ เป็นอีกหนึ่งพ็อดคาสต์ที่แนะนำและรีวิวหนังสือได้สนุกสนาน นอกเหนือจาก Readery podcast ของจอมป้ายยาทั้งสอง คุณโจ้และคุณเน็ต แห่งร้านหนังสือรีดเดอรี่ เป็นไอเดียการแลกเปลี่ยนหนังสือที่ผมคิดทำ bookclub ขึ้นนั่นเอง
หลังจากถึงบ้าน ผมกระโดดไปที่โซฟาดูดวิญญาณประจำบ้าน เพราะเราจัดการทุกอย่างที่จะต้องทำในวันรุ่งขึ้นเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องมาจัดซ้ำรอบสองให้เสียเวลา การสลับสับเปลี่ยนกล่องเวลาจนเกิดเวลาว่างมันดีมากเช่นนี้เอง คราวนี้เจ้าโซฟามันดูดวิญญาณที่เหลือของผมจนเกลี้ยงพร้อมกับหน้าสุดท้ายของ pet sematary เวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบหกโมงเย็น ตามประสาผู้รักสุขภาพ ผมไปวิ่งออกกำลังกายประมาณหนึ่งชั่วโมง พร้อมฟัง BBC radio 4 bookclub อีกหนึ่งรายการพ็อดแคสต์หนังสือและฝึกฟังอังกฤษไปด้วย รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่มันไม่ใช่ปัญหาเท่าไรนัก
มื้อเย็นวันนี้คือแซนด์วิชเมื่อวานที่ยังไม่ได้กิน การกินแซนด์วิชกับลาบเป็ดเป็นอะไรที่ดูไม่เข้ากันนัก แต่รสชาติมันตัดกันจนอร่อย กาแฟดำร้อนอีกถ้วยในตอนเย็นไม่ได้ทำให้ผมตื่นตัวหรือนอนไม่หลับแต่อย่างใด มันคือกลิ่นบำบัดอย่างดี หลังมื้อเย็นเมื่ออาบน้ำอาบท่าจนสบายดีแล้ว ก็ถึงเวลาจบวันด้วย ภาพสุดท้ายที่คนตายเห็น ต่อจากเมื่อคืน การอ่านหนังสือต่อจากตอนเดิมจะต้องฝึกฝน ยิ่งเว้นนานเป็นวันแบบนี้ยิ่งต้องฝึก หวังว่าผมคงไม่หลับคาเจ้าโซฟาตัวนั้นจนถึงเช้า
หนึ่งช่วงแห่งการจัดการเวลาจนได้ทำ intermittent fasting ทางสมอง ผมคิดว่าวันรุ่งขึ้น ความเฉียบคมคงจะกลับมาเฉียบคม มาว่องไว มีความคิดสร้างสรรค์เต็มเปี่ยมดังเดิม สมองส่วนวิชาการคงจะหิวและกระหายข้อมูลเชิงวิชาการมหาศาลที่กำลังรออยู่ ในวันพรุ่งนี้....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น