19 พฤษภาคม 2562

"วิชาเดินทางหลังเลิกเรียน"

อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกมีความสุข สุภาพสตรีท่านนี้ได้ก้าวผ่านความกลัว ชนะใจตัวเอง ผมเคยได้ยินมาว่าในประเทศทางตะวันตกเมื่อเรียนจบ เขาจะนิยมไปเที่ยวแบบนี้เพื่อหาประสบการณ์ ก่อนจะมาทำงาน อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเข้าใจน้องพลอยเลย กับหนังสือ "วิชาเดินทางหลังเลิกเรียน" ของ พลอยไพลิน ตั้งประภาพร สำนักพิมพ์ bunbook กับการเดินทางลุยเดี่ยวบนรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียและยุโรปอีกห้าประเทศ ราคา 380 บาท คุ้มมาก
ผมอยากจะมาเล่าเช่นกัน อ้อ..ใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านใหม่ ๆ วันอาทิตย์ผมจะไม่มีเรื่องราวทางการแพทย์นะครับ เหนื่อยกันมาทั้งสัปดาห์แล้ว พักบ้างเนอะ
ผมไม่เคยเดินทางไปกับทัวร์ อันนี้ไม่ใช่ว่าขี้งกหรือเป็นพวกอินโทรเวิร์ทแต่อย่างใด เพราะผมไม่ชอบยึดติดกับโปรแกรมครับ เวลาไปเที่ยวจะกำหนดสถานที่หลักแค่หนึ่งหรือสองที่ ที่เหลือคือกำไร และชอบเที่ยวแบบเอ้อระเหย เสพความวุ่นวายที่เงียบเหงา เพราะมีแต่ตัวเราท่ามกลางคนที่ไม่รู้จักเราเลย เราคือ nobody (อยู่เมืองไทยเมิงก็ nobody) อยากอยู่ที่นี่ก็อยู่ อยากกินกาแฟที่นี่ก็นั่งแช่ จึงไม่เหมาะกับทัวร์
อีกอย่างสิ่งที่ผมชอบ ทัวร์มักไม่ค่อยไป เนื่องจากผมชอบเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ไปในสถานที่ที่มีเรื่องราว มีอดีตที่ไม่ว่าจะน่าจดจำหรือขมขื่น หรือมีความยิ่งใหญ่ในสถานที่นั้น ๆ อย่างที่ไปไต้หวัน บอกเลยว่าเป้าหมายมีแค่สองที่คือ ห้องสมุดสาธารณะเป่ยโถว และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง
ไม่ค่อยมีโปรแกรมทัวร์ตามใจผมสักเท่าไร ไม่เป็นไร จัดเองก็ได้
ทำการบ้านเยอะไหม...คือเตรียมตัวนะครับ ไม่ใช่การบ้านแบบนั้น...เยอะมากครับ เรื่องการเดินทางและการใช้ชีวิต ผมใช้ lonely planet เป็นหลักครับจะไปที่ไหน เดินทางอย่างไร ที่พัก ปลั๊กไฟ ข้อควรรู้ มีครอบจักรวาลจริง ๆ ที่สำคัญมีแผนที่ด้วย เอามาเทียบกับ google maps ตอนเดินจริง กูเกิ้ลแม็บนี่ พาหลงบ่อยนะครับ
หลังจากนั้นเราอยากไปไหน เราหาข้อมูลสถานที่นั้น ๆ เชิงลึกครับ จากอินเตอร์เน็ต จากเว็บไซต์ทางการของเขาน่าเชื่อถือสุด อย่าง District 6 museum ที่แอฟริกาใต้ อ่านจากเว็บไซต์ถึงตั๋วเข้าชม มีไกด์ไหม หรือมีสื่อเสียงนำเที่ยว ราคาเท่าไร มีโปรไหม ก็ได้ไปร่วมกรุ๊ปที่เขามาและใช้ภาษาอังกฤษ ถ้าอ่าน lonely planet อย่างเดียวไม่มีบอกละเอียดแบบนี้
หารายละเอียดแล้วย่อยครับ ค่ายเอ๊าชวิตช์นี่ ผมอ่านหกเล่มและทำโน้ตย่อด้วยนะ (มองดูบ้า ๆ แต่ก็บ้านั่นแหละ) ตอนนั่งรถไปก็ยังจินตนาการว่าเข้าไปจะดูอะไร พอไปถึงแล้วแทบไม่ต้องเปิดโน้ตเลย หลับตาที่สถานที่นั้นสิ่งต่าง ๆ ที่เราอ่านมามันผุดมาเอง เดินดูด้วยความเข้าใจ เติมด้วยข้อมูลสถานที่นั้นหรือไกด์ท้องถิ่น ที่บอกเรื่องราวเสริมเข้ามา มันอิ่มเอมมาก (เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อบอกว่าอ่านหกเล่มขนาดนั้น ไม่ต้องไปก็ได้)
ส่วนอันนี้ทริกส่วนตัว...ซื้อไกด์บุ๊กในร้านท้องถิ่น และคนประเทศนั้นเขียนสักเล่ม รับรองสะใจ ข้อมูลที่แบบว่า เฮ้ย...มันมีแบบนี้ด้วยรึ ทางนี้มันเจ๋ง ร้านนี้โคตรฟิน จะผุดออกมาเต็มเลย
เดินทางไปไหนมาไหน...ระบบขนส่งสาธารณะเท่านั้นครับ เพราะเราไม่รู้ระบบแท็กซี่ที่นั่นและที่สำคัญคือไม่อยากเสียตังมาก รถไฟ รถบัส เรือ อย่าไปคิดว่ามันยาก เขามาเยือนกันทั้งโลกยังมาได้ ก่อนจะเข้าประเทศไหนก็ทบทวนนิดนึง จะออกจากสนามบินเข้าเมืองอย่างไร ในเมืองนอกเมืองเขาเดินทางอย่างไร ตามแผนที่เราจะไป มีบัตรโดยสารแบบสารพัดการเดินทางไหม ซื้อเลย หลายท่านคงได้ใช้ EZ card กับการขนส่งที่สิงคโปร์ เติมเงินแล้วแตะ ไม่ต้องทอน ไม่ต้องเตรียม ผมใช้แบบนี้ตลอด
ยากที่สุดตอนขึ้นรถจีปนีย์ที่มะนิลา ฟิลิปปินส์ กว่าจะไปถึง Intramuros เล่นเอาใจสั่น เพราะสิ่งที่เขียนคือสถานที่ต่าง ๆ ที่รถผ่านข้างรถ มันไม่ตรงกับทางที่จะไปนัก ตอนนั้นเลือกถามนักเรียนของเขาครับ นักเรียนดูกระตือรือร้นและภาษาอังกฤษเขาดี แม้ภาษาอังกฤษของผมจะห่วยก็ตาม
การขึ้นรถสาธารณะมันจะได้อารมณ์วิถีชีวิตการเดินทางของคนเมืองนั้นมาก ๆ ครับ เห็นคนที่เดินทางว่าเขาทำอะไร จากที่เห็นทุกคน "ก้มหน้า" เกือบทั้งโลก
กินอะไร..ข้อนี้ของผมเป็นกรณียกเว้นนะครับ ผมเหมือนหมอทุกคนคือกินง่ายโคตร ที่ไหนมีร้านสะดวกซื้อ ผมไม่อดตาย ที่ฮ่องกงนั้นมีอยู่สองวันที่ผมกินแซนด์วิช น้ำส้ม ซีเรียลแท่ง และน้ำเปล่า แค่นี้วนไปวนไป คือผมมีความคิดว่าเรามาเที่ยว มาดู มาดม มาฟัง อาหารอร่อย ๆ เดี๋ยวเราไปจัดที่เมืองไทย อร่อยกว่าถูกกว่า ..555 ตอนนี้เอาแค่ไม่ตายพอ แต่จะมีหนึ่งถึงสองมื้อที่จะกินอาหารเหมือนชาวเมืองเขาครับ แนะยำให้ทำนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่น หรือสตรีทฟู้ดที่คนท้องถิ่นนิยมกัน ได้อารมณ์คนท้องถิ่นนะ
สมัยหนุ่ม ๆ ที่ยังดื่มแอลกอฮอล์บ้าง ก็ไปจิบเครื่องดื่มมาหลายที่ ขอบอกว่า แมร่งโคตรเปลืองครับ (งบน้อยครับ ต้องเข้าใจ) จำรสชาติไม่ได้ แถมมึนและท้องเสีย ก็เลยงดเหล้าข้ามประเทศครับ
ที่พัก..อันนี้ผมจะเน้นครับ ด้วยความที่เดินทางคนเดียว ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมากและเราชอบใช้บริการรถสาธารณะ ที่พักต้องปลอดภัยและเดินทางสะดวก ใช่แล้ว..ราคาก็พอสมควร ที่ผ่านมาไม่เคยพักโฮสเทลเลยครับ อยากลองเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ชอบส่วนตัว ทั้งหมดที่พักที่จองจึงเป็นโรงแรมทั้งสิ้น พอมาทำงบก็ตกใจว่าเราใช้งบตรงนี้มากทีเดียว ครั้งต่อไปคงต้องลองโฮสเทล (เอาละเว้ย...โอกาสได้แฟนฝรั่งเศสมาแล้ว)
แต่ไม่ได้ห้าดาวนะครับ ที่พักมาก็ประมาณสองสามดาวเท่านั้น จองล่วงหน้าแบบไปจ่ายที่หน้างานเอา เอ่อ..อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ แต่ถ้ามี ibis ผมมักจะพักไอบิสครับ มันเหมือนกันทั้งโลกดี ไม่ต้องคิดอะไรมาก ถูกด้วย
ถ้าเลือกได้จะดูนิดนึงว่ามีเครื่องซักผ้าไหม หรือมีจุดซักผ้าใกล้ ๆ ไหม จะได้ไม่ต้องขนไปมาก สนุกดีนะไปซักผ้าต่างแดน (สาว ๆ เยอะนะครับ)
ของติดตัว...อันนี้ยึดสไตล์มินิมอล คือพกของที่อเนกประสงค์และน้อยชิ้นที่สุด เสื้อผ้าไม่มากไปซักเอาได้ อาหารไม่ต้องเตรียมไป..เพราะฉันง่าย ได้ทุกอย่าง หยูกยานั้นพกไปแต่พาราเซตามอลกับยาแก้แพ้เท่านั้นครับ มีปลั๊กไฟแบบใช้ได้ทั่วโลกหนึ่งอัน โทรศัพท์ที่จะใช้กับซิมเขาได้ เพราะต้องใช้อีเมลและหาข้อมูล พกกล้องคอมแพคเพราะขี้เกียจแบกครับ ที่ผมใช้ตัวเล็กมากนะใส่กระเป๋าเแจ็คเก็ตได้ และคินเดิลไว้อ่านหนังสือ (ไกด์บุ๊กก็อยู่ในคินเดิล) หูฟังไว้ฟังพ็อดแคสต์เวลาเบื่อ สมุดจดและปากกา
กระเป๋าไซส์เล็กแบบ carry on แค่หนึ่งใบ แจ็คเก็ตที่มีช่องใส่ของมาก ๆ และกระเป๋าเงินแบบคาดเอวใส่เงินและพาสปอร์ต มีแค่นี้ครับ บัตรต่าง ๆ ผมซื้อกระเป๋า RFID ใบเล็ก ๆ ใส่แจ็คเก็ตด้านในพอแล้ว
ที่สำคัญคือ อย่าไปเที่ยวเพื่อถ่ายภาพ หรือเปลี่ยนที่กินข้าว เปลี่ยนที่ช็อปปิ้ง เราตั้งใจไปทำอะไรทำตามนั้น ไปซึมซับบรรยากาศ เก็บภาพความทรงจำด้วยสองตา เข้าใจและปล่อยอารมณ์ไปกับประสบการณ์ล้ำค่าให้มากที่สุด
ว่าแล้ว ก็วางแผนเดินทางครั้งต่อไปดีกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น