24 เมษายน 2562

ภาพ digitalis effect และ salvador dali

ภาพที่ลงตอนที่ถามว่า เห็นภาพแล้วคิดถึงยาใด ภาพนั้นคือ Persistence of Memory วาดโดย Salvador Dali ศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสต์ ที่ถือเป็นภาพผลงานอันลือลั่นของเขา จัดแสดงในปี 1931
ภาพนี้มีคนแปลหลายแบบ แต่ที่พูดถึงมากที่สุดคือ เวลาไม่มีรูปแบบที่แน่นอน เวลาสามารถแปรเปลี่ยนได้ เข้ากับทฤษฏีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์ที่ออกมาเวลานั้น แต่เอาเข้าจริงดาลีเคยบอกว่า มันก็แค่นาฬิกาละลายได้ เหมือนเนย..ก็แค่นั้น
แต่ว่าภาพนี้ก็โด่งดังในฐานะตัวอย่างที่ดีมาก เป็นภาพต้นแบบเวลาพูดถึงงานศิลปะแบบเซอร์เรียลลิตส์ และดาลีเองก็ถือเป็นศิลปินตัวพ่อของเซอร์เรียลลิสต์ ที่ไม่เพียงแต่ผลงานของเขาที่ดูแหวกแนว ขัดกับธรรมชาติและออกแนว "ขบถ" เท่านั้น ชีวิตส่วนตัวของเขาก็ขบถเช่นกัน
ดาลีเกิดในสเปนในปี 1904 เขามีความสนใจในศิลปะมาตั้งแต่เด็ก เข้าเรียนในวิทยาลัยศิลปะที่มาดริด แหมถ้าคิดว่าขบถนี่ก็ขัดแย้งนะ เพราะเขาเกิดในแคว้นคาตาลุญแต่ไปเรียนศิลปะในมาดริด ทั้ง ๆ ที่คาตาลุญก็เป็นเมืองศิลปินเมืองเอกทีเดียว ดาลีเข้าเรียนแต่เขาไม่เคยเข้าสอบ เขาบอกว่าไม่มีมาตรฐานใดจะมาตัดสินงานศิลปะได้หรอก ผลคือ ถูกไล่ออกในปี 1926
หลังจากนั้นดาลีก็เดินทางไปศึกษาศิลปะด้วยตัวเอง โดยเดินทางไปปารีสและได้พบศิลปินชื่อดัง พาโบล พิกัสโซ่ ซึ่งถ่ายทอดแนวคิดและอิทธิพลมาสู่เขามากมาย เขาเดินทางสายศิลปะด้วยแนวคิดเขาเอง ทั้งงานออกแบบ งานเขียนรูป งานบทภาพยนตร์ ร่วมงานกับอัลเฟรด ฮิทชค็อกซ์, วอลท์ ดิสนีย์
อีกหนึ่งสิ่งที่สะดุดตาผู้คนและเป็นที่จดจำคือหนวดของเขา หนวดที่แหลมโค้งงอสวยเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า Dali 's mustache และนี่คือสัญลักษณ์ที่พบในคลื่นไฟฟ้าหัวใจของยาตัวหนึ่งที่ใช้ทางการแพทย์ digitalis
ยา digitalis เป็นยาเก่า สกัดมาจากพืชตะกูลดอกยี่โถ ชื่อที่ใช้ในปัจจุบันคือ digoxin มีผลชะลอการนำไฟฟ้าห้วใจที่ AV node จุดเชื่อมต่อสัญญาณประสาทจากจุดเริ่มการเต้นหัวใจ SA node ผลของยาในการยับยั้ง Na-K ATPase ส่งผลหลายอย่าง แต่สมบัติที่ยังใช้ในปัจจุบันคือ
1. ในผู้ป่วย หัวใจวายชนิดหัวใจห้องล่างซ้ายบีบตัวน้อย (HFrEF) ที่มีอาการเหนื่อย และไม่สามารถใช้ยากลุ่มมาตรฐานโดยเฉพาะยาต้านเบต้า หรือใช้ยามาตรฐานเต็มที่แล้วยังไม่ดี ผลหลักคือการเพิ่ม Ca ในกล้ามเนื้อหัวใจ
2. ในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ atrial fibrillation ใช้ควบคุมอัตราเต้นหัวใจไม่ให้เร็วเกินไป โดยต้องไม่มีภาวะ Pre-Excitation กลไกเป็นผลจากการลดความไวการกระตุ้นไฟฟ้าที่ AV node ผ่านระบบประสาทอัตโนมัติ แต่จะทำให้ ห้องบนเกิดเต้นไวขึ้นได้ เวลามี pre excitation condition จึงจะเกิดอันตรายได้
ข้อสำคัญคือยานี้มีช่วงการรักษาแคบมาก ให้เกินจะเกิดพิษง่าย และหากไตเสื่อมต้องปรับยา มีปฏิกิริยาระหว่างยามากมาย ออกฤทธิ์ช้า และหากในภาวะที่ร่างกายมีการกระตุ้นระบบประสาท sympathetic มาก ๆ การใช้ยานี้มักจะไม่ได้ผล ปัจจุบันจึงใช้ยานี้น้อยลงมาก ขนาดที่ใช้แค่ 0.125-0.25 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น
ในคนที่ใช้ยา digoxin อาจจะพบลักษณะคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่เกิดจากผลของยา ไม่ใช่เป็นพิษนะครับ เป็นผลจากการใช้ยาที่พบได้ปกติดังนี้
1. downslope ST depression ส่วนของ ST ที่เหมือนเครื่องหมายถูกแต่กลับด้าน เรียกว่า reverse checkmark หรือ reverse tick หรือ Hockey stick และอีกหลายคนเรียกว่า Salvador Dali sagging หรือมีลักษณะเหมือนหนวดของคุณดาลีนี่แหละ ที่เล่ามายาวนานเพื่อประโยคนี้ !!
2. flatten T or inverted T or biphasic T wave
3. short QT interval
ส่วนลักษณะที่ digoxin เกินจนเกิดพิษนั้นมีได้หลายลักษณะมาก แต่ที่พบบ่อยคือ PVCs, bradycardia , heart block หรืออาจเกิด SVT with AV block ได้ หากพบลักษณะแบบนั้นคงต้องหยุด digoxin ถ้าจำเป็นก็ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจชั่วคราว หรือใช้ยา digitalis Fab Fragments
วันก่อนเจอเคส digoxin intoxication นี่แหละ ไตเสื่อมระยะสาม ได้รับ digoxin 0.5 มิลลิกรัมต่อวัน มี Salvador Dali sagging ที่ชัดมาก ก็มาเล่าให้ฟัง
เครดิตภาพจาก : litfl.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น