อะวาดา เคดาฟรา 5 เหตุการณ์วิกฤต

"อะวาดา เคดาฟรา" มนต์มืดที่รุนแรงที่สุด วันนี้เรามาเข้าใจกลไกการทำงานของมนต์นี้ว่าทำให้เกิดสาเหตุการตายได้อย่างไร

อย่างที่ท่านเห็น เวลาเบลลาทริกซ์ แลสแตรงก์หรือลอร์ดโวลเดอมอร์ร่ายมนต์นี้ ผู้ที่ถูกเส้นสีเขียวสว่างนั้น เสียชีวิตในทันทีไม่มีอาการทรมานใด ๆ ให้เห็นเลย สมมุติฐานของการทำงานของมนต์นี้จึงมี 5 ประการเรียงตามลำดับความเป็นไปได้ (ความเร็วจากถูกมนต์ถึงเสียชีวิต)

1. การทำลายก้านสมอง ก้านสมองเป็นส่วนหนึ่งของสมองเชื่อมต่อสมองใหญ่และไขสันหลังตำแหน่งตรงจุดศูนย์กลางกระโหลก ลึกที่สุดของจุดที่แกร่งที่สุด เพราะก้านสมองเป็นชุมทางเส้นประสาทจากสมองใหญ่ไปคุมร่างกายทั้งหมด พื้นที่เล็ก ๆ นี้แออัดไปด้วยการจราจรกระแสประสาทที่น่าจะเป็นจุดที่การจราจรแออัดที่สุดในโลก ความเสียหายแม้แต่เล็กน้อยก็ส่งผลมากมาย และที่สำคัญก้านสมองเป็นจุดควบคุม vital organ คือ การทำงานและอวัยวะที่สำคัญในการดำรงชีวิตเช่น การเต้นหัวใจ การหายใจ การควบคุมอุณหภูมิ ฮอร์โมนทั้งหมดในร่างกาย การทำลายก้านสมองเฉียบพลันจึงแทบจะดับการทำงานทั้งหมดของร่างกาย เรียกว่าตายก่อนที่จะรู้ตัวว่าโดนอะไรตาย
คิดว่า อะวาดาเคดาฟรา คงจะมีทั้งคลื่นแสงและไฟฟ้า มุ่งไปทำลายก้านสมองแบบ shock and awe ดับหมดทุกระบบ เวลาที่ระบบสมองมีปัญหาจึงต้องระวังสมองบวมไปกดก้านสมอง อัมพาตหรือเลือดออกที่ก้านสมองจึงรุนแรง และเวลาแขวนคอนักโทษ กระดูกต้นคอจะหักไปกดก้านสมอง ตายก่อนขาดอากาศ

2. ไปเกิดคลื่นไฟฟ้าทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ระบบไฟฟ้าหัวใจคอยทำให้หัวใจทำงานแบบสอดประสาน รับและส่งต่อเลือดกันอย่างรู้มือ ถ้ากระแสไฟดับไป (asystole) หรือมีอะไรไปขวาง (heart block) การทำงานไม่สอดรับกัน บีบตัวคลายตัวมั่วไปหมด เลือดไม่ออกจากหัวใจ ก็ตาย และกระแสไฟฟ้าที่ป่วนมากที่สุดและอันตรายมากคือ ventricular fibillation หัวใจห้องล่างที่ต้องบีบส่งเลือดเป็นจังหวะ มันสั่นพริ้วไปหมด ทำให้แทบไม่บีบเลย ต่างเซลล์ต่างหดตัวคลายตัวไม่สอดรับกัน เสียชีวิตได้ง่าย เวลาพบหมดสติ ไม่มีชีพจร จึงต้องใช้เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า defibrillation ก่อนขั้นตอนอื่นนั่นเอง
อะวาดาเคดาฟรา น่าจะไปทำให้กระแสไฟฟ้าในหัวใจรวนไปหมด เสียชีวิตได้เร็ว ดูจากเวลาร่ายมนต์ มีลักษณะเหมือฟ้าผ่าเหมือนกันนะ น่าจะหลายล้านโวลต์

3. ไปตัดขาดหรือฉีกหลอดเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า หลอดเลือดเอออร์ต้าใหญ่พอ ๆ กับขวดยาคูลท์ถึงกาแฟกระป๋อง ถ้าเกิดฉีกขาด หรือผนังถูกเซาะเลือดไปอยู่ที่ช่องผนังแทนที่จะอยู่ในท่อและอุดตัวเองเฉียบพลัน (acute aortic dissection) เลือดไม่ออกไปส่วนอื่นเลย ไม่ไปสมอง ไม่ไปแขนขาตับไตไส้พุง เกิดการขาดเลือด ตายทันที ในกรณีจากเหตุเซาะผนังจะมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงมาก ร้าวทะลุอก ชีพจรตกมากหรือจับที่แขนขาไม่เท่ากัน ใช้เวลาสักพักกว่าระบบไหลเวียนจะล้มเหลว (สักพักนี่คือไม่กี่นาที)
ดังนั้น จะเกิดตายได้คือมีแรงฉีกรุนแรงกระชากหลอดเลือดเออร์ต้าออกจากกันอย่างสมบูรณ์เช่น ถูกแทง โดนปืน อุบัติเหตุท้องถนน
อะวาดาเคดาฟรา น่าจะไปกระชากหลอดเลือดให้ขาดออกจากกัน แต่อย่างว่านะมันต้องทรมานระดับหนึ่งและเมื่อเลือดออกมามาก ปริมาตรเลือดที่ขังในท้องหรืออกจะคอยดันไม่ให้เลือดออกเพิ่ม (temponade effect) โอกาสจะเป็นสาเหตุนี้ก็ลดลง

4. ไปอุดหลอดเดือดแดงที่ไปปอด (acute massive pulmonary embolism) หลอดเลือดแดงจากหัวใจห้องล่างขวาไปปอดแยกเป็นสองข้าง ร่างกายทำระบบสำรองเอาไว้อย่างดี แต่มีบางกรณีที่ลิ่มเลือดไปอุดท่อใหญ่ทั้งคู่พร้อมกัน หรืออุดตรงทางแยกพอดี เลือดจะไม่ไปปอดเลย จะมีอาการเขียว ความดันตก เฮือก ออกซิเจนขาดทันที หมดสติและตายได้เลย แต่กระบวนการนี้ไม่ทันทีเหมือนสองกรณีแรก จะมีอาการเหนื่อย ปวด หอบ วูบ เฮือก ใช้เวลาสักสามถึงห้านาทีก็หมดสติและตายได้ เวลาเรามีลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดือดดำ เราต้องกินยากันเลือดแข็งก็เพราะแบบนี้
อะวาดาเคดาฟรา น่าจะไปรัดหลอดเลือดแดงทั้งคู่ที่ไปปอดทันที หรือสร้างเจลดินน้ำมันไปอุดทันที แต่อย่างที่บอกมันใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะเสียชีวิต โอกาสเกิดผ่านกลไกนี้ก็ยาก

5. ไปทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน คาถาไปทำให้ตะกรันไขมันในหัวใจแตกเปรี้ยง แล้วอุดตัน จะมีอาการเจ็บอก เหงื่อแตกใจสั่น กล้ามเนื้อค่อย ๆ ตายไป จะใช้เวลาพอสมควรหากพื้นที่ตีบกว้างใหญ่หรือเกิดการหลุดขาดของกล้ามเนื้อหัวใจ ประมาณ 20-60 นาที ส่วนที่เสียชีวิตทันทีมักเกิดจากกระแสไฟ้าผิดจังหวะจากการที่กล้ามเนื้อส่วนที่ขาดเลือดมีเบรกเกอร์จุดคุมไฟฟ้าอยู่ด้วย
อะวาดาเคดาฟรา ไม่น่าจะทำให้เกิดกลไกนี้สักเท่าไร เพราะไม่ตายทันที และถ้าดัมเบิ้ลดอร์กินยาสเตตินอาจจะต้านคาถาอะวาดาเคดาฟราได้อีกด้วย

อะวาดาเคดาฟรา นี่คือกลไกการทำงานของมนต์นี้ที่มือปราบมารที่ห้องฉุกเฉินทุกคนต้องคิดถึง คาถานี้ผู้เสพความตายอาจเสกให้เกิดกับท่านได้ทุกเมื่อ เมื่อไรที่ท่านโดนคาถานี้ให้รีบร่ายมนต์แก้ไขนะครับ ท่องเลยจำเลย วันซิกซิกนายน์ "1669"

ปล. ไม่ได้ด้วยฝีมือก็เอาด้วยเล่ห์กล ไม่ได้ด้วยมนต์ ตรูก็อะวาดาเคดาฟราใส่แมนซิตี้แล้วกัน