18 มีนาคม 2562

แนะนำสร้างนิสัยอ่านหนีงสือ ตอนที่ 2

ตอนที่สอง สำหรับนักอ่านที่ผ่านประตูแรกมาได้
ประตูแรกหรือกำแพงอันแรกถือว่าเป็นกำแพงที่หนักหนาสาหัสที่สุด เพราะคือการปรับใจปรับชีวิต จากชีวิตติดเม้า ติดตามโซเชียล ก้มหน้าเล่นเกม เสียบหูดูหนัง มาเป็นหยิบหนังสือพกหนังสือ ในตอนนี้คุณจะเริ่มอ่านหนังสือเล่มเล็ก ไม่หนา จบในตอนหรือแบ่งเป็นบทไม่กี่บท มีหนังสือพกติดตัวสักเล่มตลอด
คราวนี้เราจะมาถึงขั้นต่อไป
เริ่มหนังสือชุด หนังสือพวกนี้จะมีแนวเขียนที่ทิ้งความสนใจให้เราต้องอ่านต่อหรือเปลี่ยนเนื้อหาแต่สิ่งแวดล้อมที่ดำเนินเรื่องคงเดิม ผมยกตัวอย่างเช่น ชุดล่องไพร ชุดพลนิกรกิมหงวน ชุดเชอร์ล็อกโฮล์มส์ ชุดนิยายของแดนบราวน์ หรือหากเป็นกลุ่ม non-fiction เช่น ชุดลงทุนแมน เมื่อเราอ่านหนังสือชุดที่มีการยั่วเย้าให้อ่านต่อ เราจะอ่านได้ทน อึด ถึก มากขึ้น บางคนอ่านจนดึกดื่นก็มี และที่สำคัญ ในชีวิตจริงไม่มีทางอ่านได้รวดเดียวจบ เราจะได้พัฒนาทักษะการสร้างจินตภาพจากหนังสือ ทำให้เราสามารถมาต่อเรื่องราวได้แม้จะต้องหยุดอ่านไปสักหน่อยก็ตาม
เริ่มนิยายเรื่องยาว เรื่องยาก เนื่องจากนิยายประเภทวรรณกรรมจะมีความสลับซับซ้อนของภาษา มีการพรรณาให้เห็นภาพ มีการใส่เรื่องราวอิงของจริง ตัวละครมากมาย บางเรื่องต้องมีสมุดจดชื่อและความสัมพันธ์ตัวละครหรือสถานที่ ตัวอย่างที่ดีคือ สามก๊ก ผมต้องอ่านสามรอบพร้อมสมุดบันทึกของตัวเอง ผู้ชนะสิบทิศอันนี้ก็ซับซ้อนไม่แพ้กัน หรือใครนิยมของต่างประเทศเช่น ไซอิ๋ว, อีเลียด ก็สามารถหาอ่านได้ และถ้าคุณไม่เข้าใจในเรื่องหรือปมต่าง ๆ คุณเข้าไปถามในพันทิปได้เลย จะมีคนอ่านแบบคุณแต่สารพัดมุมมองมาแสดงความเห็น
เอาล่ะ ตอนนี้คุณเริ่มเข้าสู่นักอ่านขั้นกลางแล้ว ตอนนี้คุณสามารถอ่านหนังสือได้แตกฉาน จับประเด็นเรื่อง ใคร ทำอะไร อย่างไร ได้ดีแล้ว คุณสามารถอ่านได้หมดตั้งแต่คู่มือการเงิน การพัฒนาตัวเอง ประสบการณ์ท่องเที่ยว ชีวประวัติบุคคล ประวัติศาสตร์ แต่ก่อนที่จะพัฒนาไปขั้นต่อไป ผมแนะนำให้คุณเก็บเลเวล พัฒนาความแกร่งไปสักพักก่อน
การเก็บเลเวล หรือการพัฒนาทักษะการอ่าน แน่นอนเมื่อมันคือการฝึกปรีอ คุณจะต้องเล่นของหนักขึ้น ให้คุณหาทางจับทางของตัวเอง ที่ตัวเองชอบแล้วฝึกแนวนี้เป็นหลักสัก 70% ยกตัวอย่างตัวเองแล้วกัน ผมชอบประวัติศาสตร์ ผมเริ่มด้วยหนังสือเรียนมัธยม ต่อด้วยตำรามหาวิทยาลัย คราวนี้อัพเลเวลด้วยประวัติศาสตร์นอกตำราของผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ที่เขียนอ้างอิงหลักฐานปฐมภูมิ เช่น อาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม, อาจารย์สุเนตร ชุตินทรานนท์ และอัพไปถึง จิตร ภูมิศักดิ์, อาจารย์คึกฤทธิ์ ปราโมช
ส่วนอีก 30% ควรเติมเต็มและเพิ่มทักษะการอ่านให้หลากหลาย สะสมไป เช่น นิยายของมูราคามิ, งานเขียนของประภัสสร เสวิกุล, ชุดพ่อรวยสอนลูก หรือแม้แต่ชุดของจ่าพิชิต ขจัดพาลชน
เวลาที่ใช้ช่วงแรกอย่านานนัก ต้องกระตุ้นบ่อย สู้ต่อเนื่อง ใช้เวลา 3-4 เดือน แต่เมื่อคุณจะมาเก็บเลเวลในระดับกลาง คุณต้องใช้เวลานานกว่านั้น อย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี อย่าอัดแน่นในช่วงนี้ มันจะหมดไฟ มันจะเบื่อ เราจะอ่านตามอารมณ์และตัณหา ...เฮ้ย...ถ้าไม่มีอารมณ์ล่ะ
เมื่อคุณผ่านขั้นแรกมาได้ คุณจะเริ่มพิศวาทหนังสือ เห็นหนังสือแล้วจะเริ่มมีอารมณ์ แล้วยิ่งถ้าคุณตัดโฟกัสมือถือได้ มันจะเกิดอารมณ์เร็วขึ้น รุนแรงและยากจะหักห้ามใจ
แล้วเราจะมาว่ากันต่อไป ถึงระดับนักอ่านขั้นโปร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น