01 กุมภาพันธ์ 2562

AF กับการตัดสินกินยาต้านการแข็งตัวเลือด

หัวใจเต้นผิดจังหวะแบบ atrial fibrilation ... คุณน่าจะต้องกินยาต้านการแข็งตัวของเลือด
จากแนวทางการดูแลรักษาโรค atrial fibrillation ที่ทางวิทยาลัยแพทย์โรคหัวใจอเมริกาได้ปรับปรุงเพิ่มเติมจากแนวทางเดิม ตามข้อมูลการศึกษาวิจัยที่ออกมาใหม่ ๆ ผมจะไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดเรื่องเนื้อหานะครับ ใครสนใจไปดาวน์โหลดมาอ่านฟรีได้ สั้น ๆ ง่าย ๆ ชัดเจน แต่ผมจะมาช่วยคุณค่อย ๆ คิดตามที่หมอเขาอธิบายครับ
เหตุที่ต้องกิน ... หัวใจเต้นพลิ้วแบบนี้ ทำให้การบีบตัวมันไม่สม่ำเสมอ เลือดจะไหลไม่สม่ำเสมอ โอกาสเกิดลิ่มจะสูงมาก ถ้าเรากินยากันเลือดแข็ง การเกิดลิ่มเลือดจะลดลง มันจะได้ไม่ลอยไปอุดที่ต่าง ๆ
มันเสี่ยงขนาดไหน ... คุณหมอเขาจะคิดคะแนนความเสี่ยง ด้วยประวัติหลาย ๆ อย่าง เรียกว่า ระบบคะแนน CHA2DS2-VASc ยิ่งคะแนนสูงคือมีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น โอกาสเกิดลิ่มเลือดไปอุดตันที่สมองมากขึ้นตั้งแต่สองเท่าจนเป็นสิบเท่า การกินยาต้านการแข็งตัวของเลือดจะลดความเสี่ยงจากอัมพาตลงได้มากเลยระดับใกล้เคียงคนที่ไม่เป็น AF เลย แต่ว่าไม่เป็นศูนย์นะครับ
กินนานไหม ... กินไปนานมากครับ เพราะต้องประเมินความเสี่ยงเรื่อย ๆ ว่ากันตามจริงโอกาสจะหายขาดจาก AF มีน้อย และยิ่งอายุมากยิ่งเสี่ยงดังนั้นส่วนมากก็กินไปตลอด การคัดเลือกว่าใครต้องกินจึงสำคัญ
แล้วกินนาน ๆ มันไม่มีผลเสียหรือ ... กินนาน ๆ ก็เพิ่มโอกาสเลือดออกได้ มันก็แน่นอนเพราะไปเทียบกับไม่กิน แต่ว่าเลือดออกนั้นมักจะเป็นเลือดออกที่ไม่อันตรายมากนัก จัดการได้ง่าย พวกที่มีเลือดออกจนอันตรายนั้นมีน้อยมาก เรียกว่าประโยชน์คุ้มกว่าโทษหลายเท่านัก
มันกันเลือดแข็ง แล้วเลือดจะออกง่ายไหม ... อันนี้แน่นอน เป็นสิ่งที่ต้องแลกกัน ต้องระวังตัวเอง ระวังยาที่ใข้ หรือเวลาเลือดออกก็ต้องแจ้งหมอ เวลาจะผ่าตัดก็ต้องแจ้งหมอครับ คุณหมอเขาจะประเมินความเสี่ยงการเกิดเลือดออกด้วยระบบคะแนนที่ชื่อว่า HAS-BLED ยิ่งคะแนนสูงโอกาสเลือดออกมากขึ้น เพื่อมาคิดคะคานกับประโยชน์จากการกิน แต่ว่านะ ระบบคะแนนพวกนี้ คนที่เสี่ยงอัมพาตมากก็จะเสี่ยงเลือดออกมากไปด้วย
แล้วจะกินดีไหม ... ความจริงแล้วอันตรายและความพิการจากอัมพาต มันหนักหนามากกว่าเลือดออกมากมาย อีกอย่างเรามีวิธีจัดการเลือดออกที่ดีด้วยนะครับ
เลือดออกจัดการอย่างไร ... นี่คือประเด็น ต้องเลือกคนไข้ให้เหมาะสมด้วย มาติดตามนัดได้เพื่อเจาะเลือดและปรับยา การกินยาสม่ำสมอ คัดกรองปฏิกิริยาระหว่างยาให้ดีทุกครั้งที่กินยาต่าง ๆ หากเลือดออกหรือระดับยามากเกินก็หยุดยาไปก่อนชั่วคราว เลือดออกมากที่มีแนวโน้มจะอันตรายก็มีวิธีให้ยาแก้ไขได้ ยากลุ่มนี้ใช้มานาน ราคาถูกมาก มีทุกที่ในโลก คือยา warfarin
เแล้วมีที่ใช้ง่ายกว่านี้ไหม ... มียากลุ่มที่พัฒนาใหม่เรียกว่า DOACs ที่ประสิทธิภาพการป้องกันเท่ากับ warfarin แต่โอกาสเลือดออกน้อยกว่าปฏิกิริยาระหว่างยาน้อยกว่าและไม่ต้องมาเจาะเลือดปรับยาบ่อย ๆ ปัจจุบันมีการศึกษามากจนได้รับคำแนะนำว่าให้ใช้กลุ่มยานี้ก่อน warfarin ถ้าสามารถให้ได้
แล้วกินยาใหม่เลยดีกว่า ... เดี๋ยวก่อนยาใหม่ ไม่ได้มีทุกที่ แถมราคาแพงกว่าเกือบสามสิบเท่า แถมยาที่ใช้แก้ฤทธิ์แพงกว่าตัวยาต้านการแข็งตัวเป็นพันเท่า มีไม่กี่ที่ในประเทศ สิทธิการรักษาพื้นฐานไม่ครอบคลุม ปัจจุบันถ้าเลือดออกหรือต้องหยุดฤทธิ์ยาเพื่อผ่าตัด เราอาจใช้สารการแข็งตัวของเลือดแทนได้ (แพงคือกัน) หรือรอให้หมดฤทธิ์เพราะวันสองวันก็หมดฤทธิ์หมดแล้ว
สรุป ถ้ามี AF แล้วจัดว่าเสี่ยง กินยาเถอะครับ ดีกว่าเป็นอัมพาตหลายเท่าแม้จะคิดว่าเพิ่มเลือดออกก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น