15 มกราคม 2562

ผื่นแพ้ยารุนแรง

มีเรื่องเล่าเตือนใจ
ผู้ป่วยหญิงรายหนึ่ง อายุประมาณ 30 ปี เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้วมีอาการไข้ไอมีน้ำมูกและเจ็บคอ ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้รับการวินิจฉัยโรคต่อมทอนซิลติดเชื้อ ให้ยาฆ่าเชื้อ amoxicillin/clavulanic acid ขนาดเม็ดละหนึ่งกรัมมารับประทาน พร้อมยาลดน้ำมูกและลดไข้ ผู้ป่วยรับประทานยาได้สองวันมีผื่นแดงขึ้นตามตัว อาการไข้ไอลดลง ไปพบแพทย์ท่านที่สองที่คลินิก เพราะมีผื่นขึ้น ได้รับคำแนะนำให้หยุดยาเพราะอาจเป็นการแพ้ยาได้
เหตุการณ์ครั้งแรกจบลงด้วยดี
ผู้ป่วยหญิงท่านเดิม มีอาการไข้ไอมีน้ำมูกใส ไม่เจ็บคอ มีอาการอยู่หนึ่งวัน ผู้ป่วยหญิงท่านนี้คิดว่าน่าจะเป็นแบบเดิม อาการคล้ายกันกับครั้งแรก จึงใช้ยา amoxicillin/clavulanic acid ของเดิมที่เหลือเมื่อ 2 เดือนก่อน โดยทราบดีว่าผื่นครั้งก่อนอาจจะเกิดจากการแพ้ยา แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนนัก หลังจากกินยาหนึ่งวัน ผู้ป่วยเริ่มมีผื่นแดงขึ้นตามตัว ไม่นูน ขนาดผื่นหลากหลาย ทั้งจุดและปื้นแดง ขอบแดงชัดเจน บางผื่นมีรอยแดง ๆ ตรงกลาง ผู้ป่วยตกใจจึงรีบหยุดยา
แต่ครั้งนี้ไม่จบลงด้วยดี
ผื่นลุกลามมากขึ้นกระจายไปทั่วตัว มีอาการบวมบริเวณปากและใบหน้า เจ็บแสบริมฝีปากและดวงตา ผู้ป่วยรับประทานยาแก้แพ้ chlorpheniramine ขนาด 4 มิลลิกรัมหนึ่งเม็ด ตอนเช้าขึ้นมาผื่นลุกลามขึ้น และเริ่มลุกลามไปที่เยื่อบุตา แสบริมฝีปากมากขึ้น จึงรีบมาตรวจที่โรงพยาบาล
ครับ เราจะจบแค่นี้ สรุปว่าผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยผื่นแพ้ยารุนแรง ทั้ง ๆ ที่โรคไข้ไอเป็นเพียงโรคหวัด และตอนนี้ผู้ป่วยอยู่ในขั้นตอนการรักษาอาการแพ้ยา สิ่งที่อยากบอกคือ
1.โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ส่วนมากเกิดจากเชื้อไวรัส สันนิษฐานไว้ก่อนได้ว่าเป็นไวรัสจนกว่าจะมีหลักฐานเพียงพอว่าเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียจึงพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะสำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
2.โรคที่อาการเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ใช่โรคเดียวกัน การติดตามอาการต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญที่จะแยกโรคได้ การตรวจร่างกายอย่างละเอียดจะแยกโรคได้ดี
3.การใช้ยาปฏิชีวนะมีโอกาสจะแพ้ยาได้เสมอ หากเราไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เราอาจจะต้องเสี่ยงต่อผลข้างเคียงของยา การใช้ยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ
4.เมื่อสงสัยว่าแพ้ยา จะต้องคิดและพิจารณาการใช้ยาครั้งต่อไปอย่างรอบคอบ ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาเภสัชกร หรือสันนิษฐานไว้ก่อนว่าแพ้จริง
5.ปฏิกิริยาแพ้ซ้ำเมื่อใช้ยาตัวเดิม ถือเป็นการยืนยันการวินิจฉัยที่ดี เพียงแต่ว่าความรุนแรงของปฏิกิริยาอาจรุนแรงกว่าเดิมมาก อย่าใช้ยาที่ต้องสงสัยว่าแพ้จะดีที่สุด (บางกรณีหากไม่มีตัวเลือกจริง ๆ จะมีการจัดการเพื่อให้ยาที่แพ้ซ้ำ ภายใต้การควบคุมที่เคร่งครัด)
ภาพที่นำมาให้ดู เป็นแค่ตัวอย่างผื่น ไม่ได้มาจากผู้ป่วยรายนี้นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น