27 พฤศจิกายน 2561

สถิติต้องคิด 2

เอาล่ะ เรามาต่อเรื่องหนังขายยา (ใครไม่ทันโปรดเลื่อนจอไปอ่านโพสต์เมื่อเช้า)
ยาโกซิก ใช้ในการรักษาโรคทรัพย์จาง สามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้มากกว่ายาหลอก 66.7% ในการเก็บกลุ่มตัวอย่างกลุ่มละ 1,000 คน อัตราการเสียชีวิตเมื่อไม่ได้ยาคือยาหลอกเท่ากับ 1.5% แต่ถ้าได้ยาโกซิกจะมีอัตราการเสียชีวิตแค่ 0.5% เมื่อเราติดตามสามปี
เราจะมาเล่นกลกัน ในกรณีอัตราการเสียชีวิตต่ำหรืออัตราการเกิดโรคต่ำ
ถ้าโรคทรัพย์จางมันไม่ได้มีอัตราตายสูงขนาด 1.5% สมมติว่าอัตราการเสียชีวิตแค่ 0.3% ลดลงห้าเท่า และถ้าได้ยาโกซิก อัตราการเสียชีวิตลดลงเหมือนกันด้วยตัวเลขห้าเท่าเหมือนกันคือ 0.1% ทำการทดลองเหมือนกัน จะเห็นว่าค่า RRR คืออัตราการเสียชีวิตของยาโกซิกที่ลดลงเมื่อเทียบกับยาหลอกคือ 66.7% เท่ากันเลย [(0.3-0.1)÷0.3]
แต่ถ้ามาคิดปริมาณจริง คือลดลง 0.2% หรือต้องใช้ยาโกซิกรักษาโรคทรัพย์จาง 500 คนจึงได้ประโยชน์หนึ่งคน (จากตัวอย่างเดิมของเรา 100 คน จำได้ไหม)
ยิ่งอัตราการเกิดเหตุการณ์ต่ำ ตัวเลขที่ลดลงจะไม่มากเลย และต้องลงทุนรักษามากมายจึงได้ประโยชน์หนึ่งคน
อีกที ในกรณีอัตราการเสียชีวิตสูงหรืออัตราการเกิดโรคสูง
ถ้าโรคทรัพย์จางมันตายสูงขนาด 7.5% เพิ่มห้าเท่าอีก ส่วนยาโกซิกมีอัตราการตายเพิ่มเป็น 2.5% ทำการทดลองเหมือนกัน อัตราการเสียชีวิต ยังใช้ยาเดียวกันติดตามด้วยเวลาเท่ากัน จะเห็นว่าค่า RRR เท่าเดิมเป๊ะเลย [(7.5-2.5)/7.5] คือ 66.7% เท่ากัน อย่างไรเสียเจ้ายาโกซิก ยังลดอัตราการเสียชีวิตถ้าเทียบกับการรักษาเดิม พูดกี่ครั้งก็ถูก แต่ว่ามันจะนำมาใช้และมีผลได้จริงไหมต่างหาก
และถ้ามาดู ARR คือ 5.0% เชียวนะ นั่นคือใช้ยาโกซิกรักษาโรคทรัพย์จาง 20 คนจะได้ประโยชน์หนึ่งคน (จากตัวอย่างตอนที่แล้ว 100 คน) คราวนี้ดูดีดูหรูหราขึ้นมาทีเดียว
คำอธิบายคือ ผมไม่ได้เล่นกลนะ มันคือหลักการทางสถิติ ทางคณิตศาสตร์เท่านั้นเอง การรักษาเดียวกัน ความแตกต่างจากยาหลอกเหมือนเดิมเลย แต่ในสถานการณ์ที่ไม่เหมือนกัน การนำไปใช้ย่อมต่างกัน ถ้าโอกาสตายโอกาสเกิดโรคต่ำ การไปลดในสิ่งที่มันต่ำอยู่แล้วมันดูไม่มีน้ำหนักเท่า เห็นไหม ... นี่เป็นหนึ่งในการวิเคราะห์วารสารที่เรียกว่า external validity หมายถึงเมื่อการศึกษามันดีล่ะ ตามวิชาวิทยาศาสตร์และสถิติ แล้วมันจะนำไปใช้จริงได้หรือไม่
ถ้าผมจะขายยานะ ผมโชว์ RRR 66.7 % และจูงใจเหมือนหนังขายยา แต่ถ้าผมเป็นคนไข้ คนใช้ยา หรือคนจ่ายสตางค์ ก็คงต้องมองมากกว่านั้น การนำเสนอบทความหรือข้อมูลต่าง ๆ ของยาของอาหารเสริม ของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เขาก็เอาความจริงจากงานวิจัยมาพูดนั่นแหละ แต่ในมุมมองของเขา ส่วนเราคนใช้เราก็ต้องมองมุมมองของเราด้วย
จบเรื่องหนังขายยาแต่เพียงเท่านี้ โอกาสหน้าฟ้าใหม่ ลุงหมอโปรดักชั่นส์จะมารับใช้แฟนหนังแฟนละครต่อไป ขอความสุขจงมีแก่ทุกท่าน สวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น