05 กันยายน 2561

tumor lysis syndrome

เมื่ออาณาจักรมะเร็งล่มสลาย !!! tumor lysis syndrome
โรคมะเร็งบางชนิดโดยเฉพาะมะเร็งทางโลหิตวิทยา เมื่อให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด เซลล์มะเร็งที่มีการแบ่งตัวเร็ว ๆ นี้มันตอบสนองต่อการให้ยาดีมากและตายอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณอันดีสำหรับคนไข้ แต่เซลล์มะเร็งที่ตายและสลายพร้อม ๆ กันนั้นกลับเหลืออันตรายให้ต้องดูแลต่อไป tumor lysis syndrome
มะเร็งทางโลหิตวิทยานั้นปริมาณเซลล์มะเร็งจะมากมายโดยเฉพาะกับมะเร็งเฉียบพลัน หรือมะเร็งอวัยวะก้อนแข็งที่มีขนาดใหญ่หากตอบสนองต่อยาดี ๆ ก็จะสูญสลายลงพร้อม ๆ กันเซลล์ที่สูญสลายและแตกสลาย สารเคมีและเกลือแร่ต่าง ๆ ที่อยู่ในเซลล์ก็ทะลักออกมาอยู่นอกเซลล์ นั่นคืออยู่ในสารน้ำนอกเซลล์ของเราเอง และอยู่ในเลือด สารต่าง ๆ เหล่านี้เคยสมดุล หากมากเกินไปก็เสียสมดุล
เกลือแร่โปตัสเซียม หากมีมากเกินหัวใจจะหยุดทำงานได้ เกลือแร่ฟอสเฟต มีผลต่อการทำงานระบบกล้ามเนื้อและตัวมันจะไปจับกับเกลือแร่แคลเซียม ทำให้แคลเซียมในเลือดต่ำ แคลเซียมในเลือดต่ำกล้ามเนื้อก็ทำงานไม่ได้อีก
สารพิวรีน สารประกอบสำคัญของชีวิตจะออกมามากมาย ร่างกายจะเปลี่ยนให้ขับออกจากร่างกายโดยเปลี่ยนเป็นกรดยูริก เมื่อเซลล์แตกสลายพิวรีนมาก ยูริกจึงมากไปด้วย ยูริกมาก ๆ นี้จะไปตกตะกอนที่ท่อไตเกิดการอุดตันและไตวายได้ ภาวะปรกติยูริกก็ไม่ค่อยตกตะกอนหรอกมักจะตกตะกอนที่ภาวะเป็นกรด และเมื่อเซลล์แตกก็จะเกิดสภาพกรดในร่างกาย ยูริกตกตะกอน
มะเร็งมันร้าย ตายแล้วยังไม่จบ เราจึงต้องจัดการไม่ให้สารต่าง ๆ เหล่านี้เกิดปัญหา
ให้สารน้ำในเลือดให้เพียงพอ ต้องให้น้ำเกลือเพื่อเพิ่มการกรองที่ไต โดยมาตรฐานก็สามถึงสี่ลิตรต่อวันครับ ถือว่าปริมาณมากครับ ผู้ป่วยโรคหัวใจอาจเกิดปัญหาได้
ทำให้ร่างกายเป็นด่าง ยูริกจะได้ไม่ตกตะกอน ให้สารละลาย bicarbonate เราใช้ค่าความเป็นกรดด่างในปัสสาวะเป็นตัวติดตาม ให้ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ในปัสสาวะมากกว่า 7.0 (ปกติปัสสาวะจะเป็นกรดอ่อน ๆ ค่าpH จะน้อยกว่า 7) สารละลาย bicarbonate ให้ได้ทั้งทางหลอดเลือดและการกิน ต้องระวังเกลือโซเดียมที่มาคู่กับเกลือไบคาร์บอเนตไม่ให้มากเกินไปด้วย
ให้ยาลดการสร้างกรดยูริก allopurinol ในขนาดสูงเพื่อลดการสร้างยูริก ไม่ให้ไปตกตะกอนมากเกินที่ท่อไต ระดับยูริกในเลือดที่ต้องการคือ ไม่เกิน 8
ในกรณีแพ้ Allopurinol หรือมียีนแพ้ยา HLA B*58:01 จะเลือกยา Fabuxostat เป็นทางเลือกการรักษาได้ จากการศึกษา FLORENZE
ผู้ป่วยต้องวัดปริมาณปัสสาวะ ตรวจปัสสาวะ และเจาะเลือดทุกวัน
ถ้ายังควบคุมไม่ได้ ต้องใช้ยาตัวที่สองคือ uricase เป็นเอนไซม์สังเคราะห์ให้ uric acid เปลี่ยนเป็น allantoin ที่ละลายน้ำดีกว่ายูริกหลายเท่า ซึ่งมนุษย์ไม่มีเอนไซม์นี้ จึงต้องใช้ยา rasburicase เพื่อเพิ่มการขับยูริก
หากยังควบคุมยูริก เกลือแร่ต่างๆ ไม่ได้ หรือเริ่มมีอาการจากเกลือแร่มีปัญหาโดยรักษาด้วยยาไม่ได้ผลก็ต้องเข้าสู่กระบวนการฟอกเลือดครับ ก็จะทำให้การให้เคมีบำบัดล่าช้าลงไป บางกรณีหากเสี่ยงสูงที่จะเกิด tumor lysis ก็จะให้การรักษาเพื่อป้องกันเลยก็มี ส่วนเสี่ยงต่ำยังไม่ต้องให้การดูแลแบบนี้ครับ
แม้แต่เราทลายเซลล์มะเร็งลงได้ ผลแห่งความย่อยยับนั้น ยังส่งผลตามมาอีกมากมาย ผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกคนจึงต้องได้รับการดูแลแบบองค์รวมที่ดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น