30 กันยายน 2561

เรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับลุงหมอ

เรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับลุงหมอ ที่คุณรู้แล้วอาจจะนำไปใช้ได้ครับ
1.ลุงหมอไม่ค่อยซื้อหนังสือมือหนึ่ง ชื่นชมของมือสอง เริ่มต้นจากไม่ค่อยมีสตางค์นี่แหละ หลัง ๆ ก็เริ่มรู้ว่า มันก็ใช้ได้เหมือนกันนะ แต่ก่อนตามแผงต่าง ๆ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาเป็นออนไลน์
2.เวลาซื้อหนังสือวิชาการ ลุงหมอจะพรีออเดอร์ ได้ราคาถูกกว่าเมื่อวางแผง ถ้าไม่ทันจะรอลดราคาครับ ได้ของดีราคาไม่แพง
3.สิ่งที่ติดตัวลุงหมอตลอดคือ..ดิคชันนารีครับ ถึงแม้เราจะอ่านแบบเดาความหมายได้ แต่ก็แนะนำให้เปิดตรวจสอบเสมอ ดิค อังกฤษ-อังกฤษ เล่มบาง ๆ ไม่กี่บาทเอง
4.ลุงหมอจะโหลดวารสารที่แจกฟรีช่วงแรกเอาไว้ เพราะหากรอทีหลังจะเสียเงินครับ เราอ่านทีหลังได้ แต่โอกาสฟรีมีไม่มาก ต้องหูไวตาไว
5.ลุงหมอเปิดอีเมลเป็นหลัก ข่าวสารจากทางอีเมล์จะถึงตัว ไม่เลื่อนง่ายเหมือนเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ อยากทราบข่าววิชาการอะไร สมัครอีเมลให้ส่งมาเลย
6.วารสารต่าง ๆ มักจะอ่านทันที ไม่สะสม ทำให้เคยชินจำไว้เลย สะสมหนึ่งครั้งจะเกิดดอกเบี้ยทบต้นทันที ถ้าไม่วิเคราะห์จริงจังก็อ่านผ่านแล้วเซฟ ถ้าจริงจังก็อ่านแล้วจดบันทึก
7.สมุดบันทึก ยังเป็นสิ่งที่เราใช้ฝึกทักษะ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน-สรุป-นำเสนอ จะใช้สมุดกระดาษหรือแทบเล็ตก็ได้ ลุงหมอใช้สมุดกระดาษเพราะต้องการพักจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
8.ลุงหมอใช้ cloud drive เป็นหลักในการเก็บข้อมูล เพราะสะดวกมาก เขียนบทความไม่เสร็จ โยนใส่คลาวด์ไปทำต่อที่บ้านได้ และแบ็คอัพไว้เสมอ มี hybrid flash drive ต่อได้ทั้ง microUSB และ USB สะดวกมาก
9.อุปกรณ์อันหนึ่งที่ใครเคยเจอลุงหมอจะเห็นตลอดคือ หูฟัง ใช้ฟังพอดแคสต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องรออะไรสักอย่าง เราจะระแวงกิจกรรมนั้น สมาธิไม่พออ่าน แต่จะฟังได้ดี และฆ่าเวลาอย่างมีประโยชน์
10.ลุงหมอจะนอนก่อน แล้วตื่นมาอ่านหนังสือ ทำเพจ หรือเขียนงานทีหลัง นอกจากสมาธิดี เงียบ การใช้คอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ตจะเร็วมาก เวลาตื่นมาสิ่งที่แก้ไขความงัวเงียได้ชะงัดมากคือโยเกิร์ตเย็นจัด ๆ หนึ่งถ้วย

หนังสือเรื่องสงครามที่ไม่มีวันชนะ ของ คุณหมอชัชพล เกียรติขจรธาดา

ในบรรดาหนังสืออ่านนอกเวลาทางการแพทย์ ถ้าไม่อ่านเล่มนี้ถือว่าผิด
จริงๆ เคยเขียนแนะนำมาแล้วเมื่อต้นปี เมื่อคืนนี้ผมหยิบมาอ่านอีกครั้ง (จริงๆ รอบที่สามแล้ว) หนังสือเรื่องสงครามที่ไม่มีวันชนะ ของ คุณหมอชัชพล เกียรติขจรธาดา อ่านทีไรก็เร้าใจวางไม่ลงทุกที และคิดว่าต้องบอกต่อ
ถ้าคุณเป็นคนที่กำลังจะก้าวมาเป็นแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ คุณหมอที่กำลังเรียน คุณหมอที่จบแล้ว โดยเฉพาะอายุรศาสตร์และอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ เล่มนี้ต้องอ่าน..ทำไม ???
ไม่ได้เป็นเรื่องราวของเชื้อโรคคืออะไร ดื้อยาอย่างไร แต่เป็นเรื่องราวของการเรียนแพทย์ในอดีต ว่าไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ในอดีตความเชื่อทางศาสนา อิทธิพลทางความคิดประเภท "ต้องเชื่อห้ามเถียง" ทำให้การค้นคว้าทางการแพทย์เป็นไปได้ยาก หนังสือเล่มนี้จะเล่าบอกว่า การกำเนิดความรู้ทางการแพทย์ไม่ง่ายเลย
ผู้ที่อ่านจะได้เข้าใจ พื้นฐานการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยงระหว่าง เหตุผลและหลักฐาน ว่าต้องไปด้วยกัน บางอย่างหลักฐานเกิดขึ้นมาก่อนนับร้อย ๆ ปี เช่นการล้างมือของหมอเซมเมลไวส์ ที่ช่วยลดการติดเชื้อหลังคลอด แต่กว่าจะพบเหตุผลรออีกนานเลย หรือบางอย่างเราพบสาเหตุก่อน เช่นการค้นพบจุลชีพของลีเวนฮุค แต่กว่าจะมาได้หลักฐานก็ต้องรออีกกว่าร้อยปี
ผู้อ่านจะได้เข้าใจถึงเชื้อโรคว่าได้เปลี่ยนความคิดและวิธีการศึกษาแพทย์ จากยุคสมดุลแห่งธรรมชาติ มาเป็นพื้นฐานแห่งร่างกาย ด้วยการศึกษา เหตุและผล จากวิชาโรคติดเชื้อ
ได้เข้าใจการพัฒนายาว่ากว่าจะคิดค้นได้ ค้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งความลำบากทางวิทยาการสมัยนั้น สังคมที่ยุ่งเหยิง การเมืองการทหารที่เข้ามามีส่วนกับการคิดค้นทางการแพทย์ แต่ปัจจุบันเราใข้ยาพร่ำเพรื่อและเชื้อกำลังดื้อยา
ท่านจะเข้าใจว่าทำไมการใช้เพนิซิลลินจึงเปลี่ยนโลกได้ และเหตุใดเราจึงใช้ยากันเพราะ "กลัว" มากกว่า "จำเป็น" ในช่วงห้าสิบกว่าปีที่ยาเพนิซิลินออกสู่ตลาด เรากำจัดจุลชีพก่อโรคเดิมที่มีมากว่า 4,000 ปี ไปเกือบหมด ในทางตรงข้ามเราได้คัดเลือกและให้กำเนิด X-bacteria (ชอบศัพท์นี้มาก) ที่กำลังก่อปัญหาในอีกไม่กี่ปีนี้
ใครยังไม่ซื้อไม่อ่าน ไปซื้อได้เลย ยิ่งน้องๆหมอทั้งหลาย ทุกสาขา ผมถือว่า เป็นวิชาบังคับ
ปล. ไม่ได้มีส่วนได้เสียอย่างใดกับสำนักพิมพ์นะครับ

เกษียณอย่างฉลาดและแกร่ง

เกษียณอย่างฉลาดและแกร่ง

  ในวันพรุ่งนี้หลาย ๆ ท่านจะต้องปรับตัวหลังจากเกษียณอายุทั้งราชการและเอกชน แม้ว่าหลายท่านจะเตรียมตัวมาแล้ว แต่คงอดใจหายไม่ได้ ชีวิตและจิตใจจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ผมมีคำแนะนำดี ๆ เรื่องอายุรศาสตร์มาแนะนำท่านครับ

1.เตรียมใจ เตรียมเงิน กับโรคภัยไข้เจ็บที่จะต้องพบพานอย่างแน่นอน โรคที่มากับวัยเช่น ปวดหลัง ปวดเข่า เบาหวาน ความดัน ติดเชื้อง่าย วันใดวันหนึ่งพบว่าเป็นโรคก็อย่าได้ตกใจ เตรียมรับและอยู่กับโรค หลาย ๆ ท่านบอกว่า เอ๊ เรายังแข็งแรงนะ .. แต่ว่าอายุไม่เคยปราณีใครครับ

2.เตรียมตัวหากวันนั้นมาเร็วกว่าที่คิด เมื่อถึงอายุ 60 แล้วเรื่องสุขภาพจะไม่แน่นอนเลย โรคเบา ๆ เมื่อวัยหนุ่มสาว อาจจะหนักหนาสาหัสเมื่อถึงวัยนี้ เช่นกัน วันนั้นของชีวิตก็จะขยับเข้ามาใกล้ขึ้น อาจจะต้องคิดไว้ว่าถ้าเกิดขึ้น จะจัดการตัวเองและลูกหลานอย่างไร

3.ปรับการกินอยู่ ถึงวัยนี้ท่านจะไม่ได้กินเพื่อสร้างร่างกายอีกแล้ว แต่จะกินเพื่อคงสภาพร่างกาย การเผาผลาญการใช้ที่ลดลง จะกินมากเหมือนเดิมไม่ได้ไม่อย่างนั้นจะพาลอ้วน ลูกหลานหลายคนชอบให้คนเฒ่ากินมาก ๆ แก้มยุ้ย ๆ บางครั้งก็อ้วนเกินครับ ให้ท่านกินตามที่ใช้ ก็พอ

4.ทำฟันให้ดี เจ็บฟัน ฟันผุ ปัญหาทางทันตกรรมเป็นสาเหตุลำดับต้น ๆ ของการขาดอาหาร บางคนเคี้ยวไม่ได้ เคี้ยวแล้วทรมาน ถ้าปล่อยจนอายุ 70-80 บางทีแก้ไขยากแล้ว ดังนั้นดูแลฟันให้ดี หรือทำฟันปลอมก็แล้วแต่ เพื่อการดำรงชีวิตที่ดีและไม่ขาดอาหารครับ

5.ถ้าท่านมีเวลา ลองใช้เวลาละเมียดซื้อของมากิน ทำกินเอง จะได้สินค้าราคาถูกคุณภาพดี สารอาหารครบ ไม่หวานเกินเค็มเกิน อีกทั้งได้มีโอกาสเป็นคุณปู่คุณตาแสนรักของหลาน ๆ ด้วย ช่วยฝึกสมองในการคิดทำเมนูอาหาร และออกกำลังกาย

6.การออกกำลังกายอย่าได้ขาด เพื่อคงสภาพมวลกล้ามเนื้อ ผลดีต่อหัวใจ สมองและหลอดเลือด ลดการข้อติด กระดูกพรุน โดยเลือกการออกกำลังกายให้เหมาะกับตัว ไม่ว่าจะเดิน มวยจีน ตีแบด ตีกอล์ฟ ทำสวน ดูให้ปลอดภัยและไม่ใช้ค่าใช้จ่ายมากนัก

7.การนอนจะผิดปกติไป บางคนหลับยาก บางคนตื่นไว ทำให้หงุดหงิดเสียสุขภาพใจและกาย พาลไปใช้ยานอนหลับโดยไม่จำเป็น  ต้องเข้าใจการนอนที่จะเปลี่ยนรูปไป อย่านอนกลางวัน (คนเกษียณมักจะว่างและชอบนอนกลางวัน) ออกกำลังกายเบา ๆ ช่วงเย็น จะช่วยได้

8.อย่าขาดยา อย่าขาดนัด หากมีโรคประจำตัวหรือเจ็บป่วย เพราะการรักษาในขณะไม่มีภาวะแทรกซ้อนจะง่ายกว่ามาก หรือการรักษาบางอย่างก็ออกแบบมาลดความเสี่ยง ป้องกันโรค มากกว่าจะรักษาให้หายขาดหรือทำให้สดชื่นดังวัยหนุ่ม

9.ใช้อุปกรณ์เสริม อย่าปล่อยให้สมรรถนะกายลดลง ไม่ว่าจะเป็นแว่นสายตายาว เครื่องช่วยฟัง อุปกรณ์ช่วยเดิน อุปกรณ์ยึดจับในห้องน้ำ ติดไฟฟ้าให้สว่าง ปรับส้วมเป็นแบบนั่งราบ ลงมานอนชั้นล่าง สิ่งเหล่านี้จะมาทดแทนสมรรถนะกายที่ถดถอย ทำให้สมรรถนะใจเข้มแข็ง ทำให้ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงก่อนเกษียณ ไม่เครียด ไม่ซึมเศร้า

10.หาเพื่อน หาสังคมที่เรามีความสุข ปลอดภัยและน่าไว้ใจ เพื่อลดความเหงา คลายความเครียด ลดความซึมเศร้า ลับสมองลดอาการสมองเสื่อม  เช่น เต้นรำ ทำบุญ เที่ยว ร้องเพลง เขียนหนังสือ เล่นกับหลาน

11.รู้จักสิทธิการรักษา บัตรทองที่ไหน ประกันสังคมขาดส่งหรือไม่ ใช้ที่ไหน ข้าราชการเกษียณใช้สิทธิ์อย่างไร ตอนนี้มีประกันอะไร จะใช้ได้ในกรณีใด ท่านจะอุ่นใจ ลูกหลานอุ่นใจ เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมชาติ เราต้องอยู่กับธรรมชาติอย่างชาญฉลาด

12.วัคซีนสำหรับผู้สูงวัย แนะนำให้ฉีดถ้าไม่มีข้อห้ามและมีกำลังทรัพย์ คุ้มค่าจริงครับ

ขอให้เกษียณอย่างมีคุณค่า
ขอให้ชราอย่างสุขสดใส
ขอให้มีความสุขแม้สูงวัย
อย่ายึดติดปล่อยอภัยทุกเรื่องราว

28 กันยายน 2561

monkeypox

รายงานข่าวจาก CNN และ BBC บอกว่าพบ monkeypox เป็นรายที่สามที่อังกฤษในรอบสองเดือนนี้ เรามารู้จัก monkeypox สักหน่อย

  poxvirus ที่เราเคยรู้จักเช่น โรคฝีดาษ smallpox, โรคอีสุกอีใส chickenpox, หรือการปลูกฝีที่เริ่มมาจากฝีดาษวัว cowpox แล้ว monkeypox ล่ะ...ยังไม่มีชื่อทางการภาษาไทยครับ เป็นหนึ่งใน poxvirus (Orthopoxviridae) ทำให้เกิดโรคลักษณะเดียวกันคือไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว ต่อมน้ำเหลืองโตทั่ว ๆ ตัว และมีผื่นผิวหนังทั่วตัว ลักษณะผื่นผิวหนังมีได้ตั้งแต่ผื่นตุ่มแดงเล็ก ๆ ไปจนถึงตุ่มน้ำและแตกออกเป็นแผลเล็ก ๆ มีสะเก็ดดำคลุม มีรอยแดงอักเสบรอบแผล คล้ายโรคฝีดาษไข้ทรพิษ  สมัยก่อนเลย
  ไวรัสกลุ่มนี้ติดต่อทางการสัมผัส สัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง สารที่ออกจากฝีหนอง  ไม่มีการรักษาที่จำเพาะ ประคับประคองไว้ส่วนมากหายได้เอง มีแค่ไม่เกิน 10% เท่านั้นที่รุนแรงมีการติดเชื้ออวัยวะอื่นหรือติดเชื้ออื่นซ้ำซ้อนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

  มีรายงานโรคนี้ครั้งแรกปี 1958 ที่ประเทศซาอีร์ ปัจจุบันเป็นสาธารณรัฐคองโกไปแล้วนะครับ มีการติดต่อเริ่มจาก ลิงกินปู(crab-eating macaque monkey) ในท้องถิ่น ไม่แน่ใจว่าจะเป็นสายพันธุ์เดียวกับลิงแสมหรือไม่นะครับ ตอนนั้นมีไม่กี่ตัวและไม่พบว่าว่าเป็นการระบาดจากสัตว์สู่คน
  ปี 1970 มีรายงานการระบาดในสัตว์สู่คน ที่ประเทศคองโกอีกนั่นเอง ทั้ง ๆ ที่กำจัดไข้ทรพิษได้เกือบหมดแล้ว จึงพบว่ามันไม่ใช่ไข้ทรพิษ smallpox แต่เป็น monkeypox

  หลังจากนั้นพบการระบาดอีกสองครั้ง ที่อเมริกาในปี 2003 เพราะมีการจัดแสดงสัตว์แปลกจากแอฟริกา สัตว์ต้องสงสัยตอนนั้นคือ giant pouched rat นำเข้าจากกานา และมีการติดจากคนสู่คนด้วย ตอนนั้นควบคุมโรคได้แยกโรคได้ พบว่าเป็นสายพันธุ์ที่ต่างจากที่แอฟริกากลางเล็กน้อย และการใช้วัคซีนไข้ทรพิษก็ยังลดการระบาดได้  มีรายงานการใช้ยาต้านไวรัส cidofovir (ปัจจุบันใช้รักษา adenovirus) ที่พอได้ผล แต่การพัฒนาการรักษาและวัคซีนเฉพาะ monkeypox ก็หยุดไปเนื่องจากควบคุมการระบาดได้
   องค์การอนามัยโลกได้เคยพยายามศึกษาวัคซีน แต่เนื่องจากการระบาดมีน้อยและเฉพาะกลุ่ม คงใช้การกักกันโรคดีกว่า วัคซีนเป็นอันพับไป 

  รายงานผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตก็ไม่มากนัก การพัฒนาการรักษาลดลง ไปเน้นการควบคุมสัตว์ฟันแทะที่นำมาจากแอฟริกาแทน  มาพบรายงานการระบาดอีกครั้งในปี 2017 จากรายงานขององค์การอนามัยโลกที่ตอนใต้ของไนจีเรีย เป็นการระบาดเฉพาะบริเวณและควบคุมได้

  รายงานการเจ็บป่วยด้วย monkeypox มาพบอีกครั้งเมื่อเดือนก่อนจากผู้ป่วยชาวไนจีเรียที่เดินทางเข้ามาในประเทศอังกฤษ และต่อมาก็พบอีกสองรายที่สัมผัสโรครายที่สองยังไม่แน่ใจประวัติสัมผัสโรค  ส่วนรายที่สามเป็นผู้ที่รักษาผู้ป่วยรายที่สองนั่นเอง
  ขณะนี้ทางการอังกฤษได้กักกันและจัดการสืบสวนโรคอย่างเคร่งครัด เราคงต้องติดตามต่อไปว่าจะเกิดการระบาดในวงกว้างหรือไม่ และตอนนี้ยังไม่มาถึงประเทศไทยครับ

  cowpox, smallpox, chickenpox ว่าน่ากลัว ตอนนี้มาเจอ monkeypox อีก แต่ว่าผมว่าเชื่อที่น่ากลัวกว่า และมีอานุภาพการทำลายรุนแรงเป็นวงกว้างหรือพูดให้ถูกคือทำลายกว้างทั้งวงคือ
..
..เจ้ามือpox

27 กันยายน 2561

Arthritis Mutilans : นิ้วที่ยืดหดได้เหมือนกล้องส่องทางไกลโบราณ

Arthritis Mutilans : นิ้วที่ยืดหดได้เหมือนกล้องส่องทางไกลโบราณ

  เป้าหมายสำคัญของการรักษาโรคข้ออักเสบเรื้อรัง ไม่ใช่แค่หายปวดและทำงานได้ แต่จะต้องลดการอักเสบ ลดการทำลายข้อในระยะยาว ไม่ให้เกิดข้อผิดรูปและพิการ ภาพที่นำมาให้ดูเป็นการผิดรูปแบบหนึ่งของการอักเสบเรื้อรังพบมากในโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินที่เป็นนาน ๆ และไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดี
  ตามลักษณะของข้ออักเสบสะเก็ดเงิน ที่เป็นหนึ่งในโรคกลุ่ม Spondyloarthropaties โรคข้ออักเสบที่มีทั้งข้อส่วนปลายที่มือที่นิ้ว และข้อส่วนกลางลำตัวเช่นข้อสันหลัง ข้อสะโพก การอักเสบของข้อมีทั้งการทำลายและการสร้างใหม่ (แต่สร้างใหม่ไม่เหมือนเดิมนะ) และมีอาการแสดงอื่น ๆ นอกข้อด้วยเช่น เอ็นอักเสบ ผื่นผิวหนัง หรือลำไส้อักเสบ 

  สำหรับข้ออักเสบสะเก็ดเงิน หนึ่งใน Spondyloarthropathies  หากเป็นนาน ๆ และไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ จะเกิดการทำลายข้อจนข้อไม่เสถียรและเคลื่อนออกจากกัน มีการทำลายของกระดูกทำให้กระดูกเล็กและสั้นลง
  ทำให้สามารถโยกกระดูกที่มาต่อกันออกจากแนวเดิมได้มาก และไม่สามารถคงรูปเดิมที่แข็งแรงได้ เรามองข้อนิ้วที่หลุดออกจากกัน โยกได้ โดยที่ผิวหนังยังคงรูปและข้อต่อมีแต่เยื้อหุ้มที่ไม่แข็งแรง โยกได้คล้าย ๆ เชื่อมต่อกันด้วยหมากฝรั่งมากกว่าที่จะเป็นยางแข็ง ๆ เหมือนเดิม
  ทำให้นิ้วยู่มาอยู่รวมกัน และสามารถดึงยืดออกได้ เพราะเกิดที่ข้อนิ้ว ได้ตั้งแต่ข้อระหว่างกระดูกนิ้วและข้อที่ต่อกระดูกนิ้วกับกระดูกข้อมือ

  มีการรายงานแรก ๆ ในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินที่มีลักษณะแบบนี้ เขามองนิ้วเหมือนกับ opera glass (doigt en lorgnette) กล่องส่องทางไกลสมัยก่อนที่ยืดหดได้ เอาไว้ดูการแสดงโรงละครสมัยก่อน
ตั้งชื่อลักษณะนี้ว่า opera glass finger ปัจจุบันเรียก telescopic fingers คัดเลือกรูปกล้องส่องและแก้วยืดหดได้มาให้คุณ ๆ ได้เข้าใจ
  อาการแสดงแบบนี้พบน้อยลงมากเพราะการรักษาเราดีขึ้น สามารถชลอความเสื่อมและลดการอักเสบของข้อต่าง ๆ และอาการร่วมอื่น ๆ ได้ดีมากครับ

  รักษาโรคข้อ ใช่เพียงคลายปวด ให้ยากิน
  รักษาใจแอดมิน ต้องรุกเร้า สะเด่าอารมณ์

1.Abignano, G. , Mennillo, G. A., Lettieri, G. , Padula, A. , McGonagle, D. and D'Angelo, S. (2018), Arthritis Mutilans in Systemic Sclerosis. Arthritis Rheumatol. Accepted Author Manuscript. . doi:10.1002/art.40723
2.Haddad, A. & Chandran, V. Curr Rheumatol Rep (2013) 15: 321
3.primer on rheumatic diseases 11th edition

26 กันยายน 2561

แนวทางตับอักเสบซี 2018

สรุปให้ประชาชนเข้าใจเรื่องการรักษาไวรัสตับอักเสบซี และลิงก์ให้บุคลากรทางการแพทย์ได้อ่านกัน

  ไวรัสตับอักเสบซี เกือบทั้งหมดติดต่อทางการสัมผัสเลือดคล้าย ๆ การติดเชื้อเอชไอวี ส่วนน้อยมาจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อันตรายคือการติดเชื้อไวรัสนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของตับแบบเงัยบ ๆ รู้อีกทีก็เป็นตับแข็งหรือมะเร็งแล้ว ดังนั้นผู้ที่เสี่ยงควรคัดกรอง (ก็กลุ่มเสี่ยงเหมือนเอชไอวีและคนที่มีโอกาสสัมผัสเลือดบ่อย ๆ) และที่สำคัญตอนนี้เรารักษาได้ดีมาก สามารถกดไวรัสได้นานมากเพียงแค่กินยา 12-24 สัปดาห์ อัตราความสำเร็จระดับ 97-99% ต่างจากสมัยก่อนที่ต้องฉีดยา 6-12 เดือนและต้องเจอผลข้างเคียงจากยาฉีดมากมาย

1.ตรวจหาแอนติบอดี Anti-HCV เจอแล้วต้องยืนยันด้วยการตรวจ HCV Ag (อันนี้มาใหม่) หรือตรวจนับปริมาณไวรัสและสายพันธุ์ เพื่อระบุชนิดยาและเวลาที่รักษา

2.แนะนำคนที่ติดเชื้อให้รักษา..."ทุกคน" ถ้าไม่มีข้อห้าม

3.มีการประเมินภาวะตับแข็งและตับเป็นพังผืดที่หลากหลายและง่ายขึ้น ตั้งแต่เจ็บตัวเจาะตับ จนถึงตรวจคลื่นความถี่สูงหาพังผืด หรือเจาะเลือด (FibroTest) เพื่อประเมิน วางแผนรักษาและติดตาม

4.**ใช้ยากินเป็นหลัก**  จากสมัยก่อนใช้ยาฉีดอินเตอร์เฟอรอนเป็นหลัก ทำให้รักษาง่ายขึ้น ผลข้างเคียงแทบไม่มี และลดระยะเวลาการรักษาไปมาก เกือบทั้งหมดจะรักษาเสร็จภายใน 12 สัปดาห์

5.ยากินสองชนิดสูตรต่าง ๆ ได้แก่ Sofosbuvir/Daclatasvir, Sofosbuvir/Ledipasvir, Sofosbuvir/Velpatasvir และบางสายพันธุ์ใช้ elbasvir/Grazoprevir

6.หากเคยรักษามาก่อนหรือตับแข็ง อาจขยายเวลาเป็น 24 สัปดาห์ หรือเพิ่มยา ribavarin อีกตัว ส่วนยาฉีด interferon มีที่ใช้แค่สายพันธุ์ที่สาม เท่านั้น

มีคำแนะนำการรักษาถึง ชนิดยา เวลาที่เหมาะสม หากติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีร่วมด้วย ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีร่วมด้วย ไตเสื่อม ปลูกถ่ายอวัยวะ จะใช้ยาสูตรใด นานแค่ไหน

  ถือเป็นโอกาสอันดีที่คนไทยจะได้เข้ารักษาไวรัสตับอักเสบซีแบบง่าย ๆ และประสิทธิภาพสูง

ปล. sofosbuvir และ ledipasvir เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติเรียบร้อย ยาตัวนี้สามารถใช้ได้กับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีทุกสายพันธุ์ ในเงื่อนไขบัญชียาหลักประเทศไทย ให้ใช้กับสายพันธุ์ 1,24,6 โดยกำหนดยืนราคาเม็ดรวมไม่เกิน 200 บาท ไปอีก 730 วันหลังประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา

แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ ซี เรื้อรัง ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2561
http://www.thasl.org/files/33.THASL%20Chronic%20hepatitis%20C%20guideline%202018_26-04-2018_r1.pdf

25 กันยายน 2561

อัพเดตเพจความรู้ทางการแพทย์สายพันธุ์ไทย

อัพเดตเพจความรู้ทางการแพทย์สายพันธุ์ไทย
จากวันนั้นเมื่อสามปีกว่า ๆ มีแค่ 1412 Cardiology และเพจเลอะ ๆ แบบลุง ๆ เพจนี้ แต่ตอนนี้ เรามีเพจความรู้ทางการแพทย์มากมาย น้อง ๆและเหล่า young staff ไฟแรง ได้สละแรงกายแรงใจมาให้ความรู้ออนไลน์ทางหน้าเพจกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง มีสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งพร้อมโปรสี่จีดี ๆ เรียนรู้ได้ตลอดเวลา
ผมพยายามรวบรวมมาให้มากที่สุด ถ้าขาดก็เติมต่อมาอีกได้นะครับ
...
Chest รามา
PMK cardiology review
GI PMK - แผนกโรคทางเดินอาหารและตับ รพ.พระมงกุฎเกล้า
Vajira Pulmonary Medicine
Rama Dermatology
Medicine รพ.ขอนแก่น
Neurologist P
CUEZ endocrine
PMK PCCM
กระตุกต่อม
Endocrinology by Prof. Chatlert Pongchaiyakul
ต้อง ตรวจ ต่อม
Ramathibodi Poison Center
Mcdicine Clubs
Thai Heart
Chula EP
ปอดและไอซียูง่ายนิดเดียว
ดร.พิทักษ์ตับ
Infectious ง่ายนิดเดียว
Cancer Precision Medicine
แต่ละเพจหลักหมื่นหลักแสนทั้งสิ้น ความรู้เพียบ อัพเดตกันอ่านไม่ทัน
จะได้วางมืออย่างสบายใจ
ไปแอ่วสาวที่บราซิล กินหมูย่างที่สเปน ไปเดินเล่นที่ลอนดอน แอบนอนที่อิสตันบูล ทำบุญที่กัลกัตตา ร่ำสุราที่ปักกิ่ง จ๊อกกิ้งที่เมลเบิร์น สุดท้ายก็มาถือไม้เท้าเดินแถวบางแค

การกดหลอดเลือด carotid sinus massage

นวดเฉพาะจุด สะกดใจ : carotid sinus massage

  ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบ SVT เป็นภาวะที่พบบ่อยมาก คนไข้จะรู้สึกใจสั่น แน่นอก โดยที่ยังรู้ตัวดี เมื่อตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะพบ คลื่น QRS ตัวแคบเร็วมากระดับ 150-180 ครั้งหรือมากกว่า นักเรียนแพทย์และแพทย์ประจำบ้านต้องแยกออก และบอกกลไก AVNRT ได้ แต่สำหรับประชาชนทั่วไป คุณอาจจะเจอ "หมอนวด"

  การรักษาที่เป็นมาตรฐานและทำเป็นลำดับแรกในผู้ป่วยที่ยังมีความดันโลหิตไม่ต่ำ คือหมอจะใช้มือกดจุดที่คอสักพัก ชีพจรจะลดลง
  โดยข้อห้ามคือมีหลอดเลือดแดงที่คอผิดปกติ คุณหมออาจจะใช้หูฟังฟังเสียงหลอดเลือดที่คอ หรือทำอัลตร้าซาวนด์ว่าไม่มีรอยตีบ เลือดโป่งพองที่คอ หรือระมัดระวังหากผู้ป่วยเคยเป็นอัมพาต

  หมอจะให้คุณนอนราบ บอกว่าใจเย็น ๆ เดี๋ยวคุณหมอจะนวดคอเพื่อรักษาอาการให้ นำอุปกรณ์ติดตามตลื่นไฟฟ้าหัวใจมาติด คุณจะได้ยินเสียง ติ๊ดๆๆๆๆๆ รัวมาก หลังจากนั้นคุณหมอจะมาคลำที่คอตรงบริเวณลูกกระเดือก คุณผู้หญิงไม่ต้องกลัวนะครับ คุณหมอเขาหากระเดือกคุณเจอแน่นอน (thyroid cartilage)

   หลังจากนั้นคุณหมอจะลากมือลงมาด้านข้างจนพบชีพจรของคุณที่เต้นเร็วจี๋ ขยับมือขึ้นด้านบนเล็กน้อย แล้วออกแรงกดอย่างสม่ำเสมอลงไปตรง ๆ ทิศทางไปทางมุมกรามล่าง (angle of mandible) และกดลงลึกไปสัมผัส กระดูกสันหลังส่วนคอ วางมือนิ่ง ๆ 10 วินาที คุณก็หายใจตามปกติ สักพักคุณจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นช้าลง ติ้ดๆๆๆ...ติ้ด..ติ้ด..ติ้ด

  ถ้ายังไม่หายคุณหมออาจกดซ้ำในข้างเดียวกันหรืออีกข้าง เพราะหลอดเลือดแต่ละข้างเราไวไม่เท่ากัน
  ในกรณีที่ไม่หายคุณหมอก็จะให้เราออกแรงเบ่ง ถ้าไม่หายอีกก็จะฉีดยาเพื่อรักษา ถ้าไม่หายอีกจะช็อกหัวใจด้วยไฟฟ้า

  การกดบริเวณนั้นคือจุดที่หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอแตกแขนงออกไปเลี้ยงในกระโหลกและนอกกระโหลก ตรงจุดนั้นหลอดเลือดจะโป่งออกเรียกว่า carotid sinus ที่จุดนี้จะมีตัวรับแรงยืดขยายของผนังหลอดเลือดที่ชื่อว่า baroreceptor หากแรงดันเลือดสูง ก็จะทำให้ผนังหลอดเลือดโป่งออกส่งกระแสประสาทไปบอกไขสันหลัง ให้ส่งกระแสประสาทไปลดชีพจรและแรงดันเลือดลง เป็นการควบคุมตัวเองของร่างกาย

   เราจำลองการดึงยืด การขยายของ carotid sinus หลอกให้มันคิดว่าโป่งขยาย โดยการกดนิ่ง ๆ มันก็จะถูกหลอกส่งสัญญาณไปให้ไขสันหลัง ไขสันหลังก็เชื่อตามกัน ส่งสัญญาณที่ชื่อว่า parasympathetic ไปลดความเร็วชีพจรและลดความดันโลหิตลง

  การนวดจึงหลอก carotid sinus ให้ทำงานประการฉะนี้แล

  หลังจากความดันชีพจรปรกติ เราก็จะให้ยาช่วยชะลอการนำกระแสประสาทและทำการตรวจสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจโดยการสวนสายสวนไปตรวจหาแผนที่ไฟฟ้าหัวใจเพื่อตรวจจุดลัดวงจร   แล้วใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงทำลายจุดลัดวงจรเสีย เป็นอันเสร็จ หายขาด โอกาสเป็นซ้ำน้อยมาก ๆ และถือเป็นการรักษาที่สาเหตุตามมาตรฐาน ณ ปัจจุบัน

อย่าเผลอทำปากมุบมิบหรือร่ายคาถาออกมาขณะกดนะครับ เดี๋ยวเขาจะนึกว่าเราเป็นพ่อมด  และการรักษานี้ ไม่ต้อง อาบ อบ ...ให้นวดได้เลย

อ่านเพิ่มได้ที่
2015 ACC/AHA/HRS Guideline for the Management of Adult Patients With Supraventricular Tachycardia