05 สิงหาคม 2561

บ่นเรื่องการดูแลสุขภาพ

ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แป๊บเดียวเอง วันนี้ผมขอบ่นเรื่องการดูแลสุขภาพครับ ขอย้ำบ่นนะครับ
1. การดูแลสุขภาพด้วยแนวทางแพทย์ทางเลือก แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน ผมต้องบอกว่าผมไม่กระจ่าง ไม่สามารถบอกได้ว่ามีประโยชน์มากน้อยเพียงใด บอกได้แต่การดูแลรักษาแบบแผนปัจจุบันเท่านั้น ส่วนแผนอื่น ส่วนมากจะดูแค่มันไม่เป็นอันตรายสุดโต่งก็พอ ผมเชื่อลึกๆว่าไม่ว่าแพทย์แผนใดก็มุ่งหวังการมีสุขภาพที่ดีอย่างจริงใจทั้งสิ้น
2. เรื่องการกิน ตัวผมเองก็เขียนบทความเรื่องอาหารมากมาย หันมาดูข่าวเรื่องอาหาร ข้อมูลอาหารแบบนั้นนี้โน้น เยอะแยะเลย ตกลงจะทำอย่างไร ผมว่าเลือกทางสายกลาง กินแบบชาวบ้านร้านตลาดนี่แหละ กินให้พอดี อะไรที่รู้ว่าเป็นโทษไม่ดี ก็ไม่ต้องกิน หรือบางคนเชื่อสารอาหาร เอ มีประโยชน์มาก ก็โหมกินเข้าไป เช้าสายบ่ายเย็น มันก็เกินพอดี สรุปว่าไม่ดีเช่นกัน
อาหารวันนี้มันต่างจากเมื่อสองร้อยปีที่แล้วมาก และเราเองก็พัฒนาไปมากเช่นกัน
3. การออกกำลังกาย ขอบ่นหน่อยเถอะ บางครั้งเราชอบอ้างไม่มีเวลา เดี๋ยวนี้ความรู้เรื่องการออกกำลังกายมากขึ้น ออกได้ทุกที่ ออกแรงมากขึ้นก็ยังดี แถมออกแบบผ่อนส่งได้ ไม่ต้องเข้ายิมอย่างเดียว เงินทองไม่ต้องเสีย เดินขึ้นลงบันได หรือเดินไกลๆ ก็ได้ประหยัดเงิน ลดโลกร้อน ได้ออกแรงด้วย ไม่ว่าแนวทางการรักษาทุกโรคในโลกยกให้การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ต้องทำและมีหลักฐานสนับสนุนชัดเจน ไม่ว่าคำแนะนำจะปรับปรุงกี่ร้อยพันรอบ ไม่เคยมีการเปลี่ยนตรงนี้เลย ดังนั้น ทำเสียเถิด
4. การพักผ่อน ทุกคนก็รู้ว่าพักผ่อนไม่พอมันไม่ดี ดังนั้นเราต้องพยายามหาเวลาพักให้พอ เหมือนการออกกำลัง เหมือนการกิน เราต้องสรรหา ไม่ใช่อยู่ดีๆเวลาพักผ่อนมันจะร่วงมาจากท้องฟ้าได้ เวลาพักก็ต้องหาครับ จัดสรรให้ดี และไม่ต้องไปเทียบกับคนอื่น เราพักไม่เท่ากัน เอาที่ตัวเองพอดี ไม่เหนื่อยไม่ล้า การพักในที่นี้ของผมคือการนอนนะครับ ยกตัวอย่างผมเองก็ได้ เวลาไปประชุมวิชาการ ผมจะนั่งรถประจำทาง เพื่อนอนไปบนรถ ตัวเองไม่ล้า บางทีเลือกนั่งกลางคืนให้ตรงเวลานอน จะได้ไม่บัสแล็ก ตื่นไปเรียนไปประชุมได้เลย
5. สันทนาการ มันต้องมีนะ สุขภาพใจไม่แพ้สุขภาพกาย เราได้พักกายอย่าลืมพักสมองด้วย หาสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ไม่เดือดร้อนตัวเองและคนอื่น ไม่ว่าจะฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนัง เดินห้าง ปลูกต้นไม้ ไปเที่ยว ลางเนื้อชอบลางยา ของแบบนี้เลียนแบบหรือห้ามกันไม่ได้
6. การป้องกันโรค ตรวจสุขภาพเอาที่จำเป็น ถามหมอก่อนค่อยตรวจก็ได้ ไม่ใช่ตรวจแล้วค่อยมาแปลผล มันจะแปลผลยาก บางทีก็ตรวจพบความผิดปกติโดยที่ไม่เป็นโรคมานั่งกลุ้มใจ หรือโดนตรวจหนักตรวจแพงเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็น วัคซีนก็ฉีดตามกำลังที่มี หรือที่ได้ฟรี
ของทำลายสุขภาพ เหล้า บุหรี่ เซ็กซ์ไม่ป้องกัน พวกนี้ก็ต้องรู้ทัน เลิกได้ก็เลิก คนเราถ้ายังไม่ป่วยจะไม่คิดว่าสิ่งที่ทำมันทำลายสุขภาพ ผมเคยมีคนไข้เอชไอวีจากการไม่ป้องกัน เขายังคิดเสมอว่าเขาติดเชื้อจากการไม่ใช้ช้อนกลาง
7. ข้อมูลทางเน็ตเรื่องการดูแลสุขภาพ ข้อมูลมันมาก ต้องกรองดีๆครับ ถ้าคิดว่าไม่แน่ใจไม่มั่นใจ ขอให้เชื่อข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อได้แน่ๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค สมาคมวิชาชีพทางการแพทย์ มีการแจ้งอย่างโปร่งใส มีหลักฐาน ส่วนที่ส่งต่อๆกันมาว่า อันนี้ดี ใครๆก็ใช้ หมอใช้ทั้งนั้น, ราชการชอบหลอก, ฝรั่งมาให้เราลองยา ให้ตรองให้จงหนักนะออเจ้า
คิดอะไรไม่ออกก็ออกจากอินเตอร์เน็ต ให้ใช้ความรู้พื้นฐานกับวิจารณญาณ
8. ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ มีไว้มันก็ดีเพราะช่วยแบ่งเบาภาระ ลดหย่อนภาษี หลักประกันครอบครัว ดีกว่าเอาเงินไปซื้อหวยอีก (กัดฟันพูดเต็มที่) สิ่งที่ต้องรู้มากกว่าคือสามสิทธิหลักว่าสิทธิของเราอยู่ตรงไหน จะใช้อย่างไร ใช้ที่ไหน คือสิทธิบัตรทอง (หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) หรือประกันสังคม หรือสิทธิเบิกราชการ
ค่ารักษาจากประกัน ค่าชดเชย อย่าถือเป็นประเด็นหลักมากนักครับ รักษาตามที่ควรจะเป็นดีกว่ามากำหนดด้วยเงื่อนไขประกัน
9. อันนี้ขอร้อง...คือ ปัจจุบันนี้เราสามารถเดินทางได้ง่าย การสื่อสารดี บางครั้งเราก็ไปรักษากับหมอ ก. สถานพยาบาล ข. ที่ชื่อเสียงดี อันนี้ไม่ผิดนะครับใครก็อยากได้ของดี แต่อยากให้ทบทวนถึงเรื่องสภาพแห่งความเป็นจริง บางคนก็ลำบากในการมาติดตาม เสียค่ารักษามากมายทั้งๆที่ประโยชน์ก็ไม่ต่างจากใกล้บ้าน หรือลูกหลานที่หวังดีพาผู้ใหญ่ไปรักษาหลายๆที่ บางครั้งอาจทำให้การรักษาล่าช้า หรือไม่ต่อเนื่องได้ ลองบวกลบคูณหารดีๆ
และฝากถึงบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลายด้วยว่า คนไข้ปัจจุบันมีความรู้ความเข้าใจและทางเลือกมากขึ้น บุคลากรวิชาชีพเองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน เราจึงจะเอื้ออาทรในฐานะหมอกับคนไข้ได้ต่อไปอย่างยั่งยืน
10.ซื้อยากินเอง .. อันนี้ไม่ได้ห้าม แต่ให้ทำพอหอมปากหอมคอ บางทีบางโรคก็สามารถทำได้ โดยมีเภสัชร้านยาเขาช่วยดูแลและคัดกรองอยู่แล้ว บางทีก็ต้องไปหาหมอ หรือเภสัชร้านยาเขาก็ต้องแนะนำให้ไปพบแพทย์หากดูแล้วไม่ควรรักษาเอง
อยากบอกว่าการเข้าหาหมอในเมืองไทย ง่ายอันดับต้นๆของโลกเลยนะครับ ผมเคยไปเยี่ยมเพื่อนที่อยู่เมืองนอก เขาบอกกว่าจะเข้าถึงตัวเขาได้ นัดเป็นเดือน (หวัดตรูหายก่อน)
11. เขียน 10 ข้อนี้แล้วรู้สึกเหนื่อยทั้งใจและกาย แต่เราทุกคนช่วยกันทำได้ ผมมั่นใจและรักทุกคน
ด้วยความปรารถนาดีที่ขี้บ่น จาก "ลุงหมอ หลัวสาธารณะ 2018"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น