07 เมษายน 2561

กระดูกสันหลัง Bamboo spine ในโรค Ankylosing Spongyditis

ไม้ไผ่ ลักษณะเป็นปล้องเป็นข้อต่อกัน เป็นคำเรียกพยาธิสภาพการเปลี่ยนแปลงของกระดูกสันหลังในโรคข้อที่ชื่อว่า ankylosing spondylitis

  โรคข้ออักเสบชนิดนี้มีเป็นกลุ่ม แต่ก่อนเราคิดว่ามันคือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์แต่ว่า ผลเลือด rheumatoid factor เป็นลบ เราจึงมีศัพท์เรียกแต่ก่อนว่า seronegative rheumatoid atprthritis  โรครูมาตอย์ที่ผลเลือดเป็นลบ  เมื่อความรู้เราพัฒนาขึ้นเราก็ทราบว่าผลเลือดรูมาตอยด์แฟกเตอร์ ไม่ได้จำเพาะต่อโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และไม่มีความไวในการตรวจจับมากนัก 
  โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ที่ยืนยันแล้วหลายรายก็มีผลเลือดนี้เป็นลบ เราจึงเรียกกลุ่มนี้ใหม่ว่า spondyloarthropathy

  ลักษณะสำคัญคือ มีการอักเสบของข้อทั้งข้อแกนกลางร่างกายเช่น สันหลัง และข้อต่อส่วนมือเท้า มีการทำลายของข้อและมีการสร้างเกิดขึ้นพร้อมๆกัน อันนี้จะต่างจากรูมาตอยด์ที่ทำลายอย่างเดียว   มีอาการแสดงอื่นๆนอกข้อได้อีก เช่นผื่นที่ฝ่าเท้า ผื่นที่อวัยวะเพศ ลำไส้อักเสบ เนื้อเยื่อตาอักเสบ
  และเกือบทั้งหมดจะพบ การอักเสบเรื้อรังต่อเนื้อเยื่อตัวเอง และจะพบพันธุกรรมที่ผิดปกติชนิดหนึ่งที่เป็นความเสี่ยงโรคนี้คือ HLA-B27  สำหรับ Ankylosing Spondylitis มีความสัมพันธ์กับยีนนี้เกือบ 90%

  การเปลี่ยนแปลงของสันหลังในโรค AS ขอเรียกสั้นๆแบบนี้แล้วกัน ก็จะพบการอักเสบบริเวณหลังเรื้อรัง คือมักจะปวดเวลาที่ไม่ได้ขยับ ขยับแล้วดีขึ้น ปวดมาถึงก้นได้เลย อาการจะเริ่มมากขึ้นในวัยเลขสี่ (จริงๆเป็นมานานแต่กว่าจะแสดงอาการก็นานโข)

  ถ้าดูภาพเอ็กซเรย์ เราจะพบเยื่อบางๆที่เชื่อมยึดกระดูกสันหลัง syndesmophyte เกิดหนาตัวขึ้นในทุกๆด้านรอบกระดูกสันหลัง  ตัวหมอนรองกระดูกก็หนาและมีแคลเซียมมาเกาะ มีการอักเสบของรอยต่อกระดูกและเส้นเอ็นของกระดูกสันหลัง (enthesitis) เกิดเห็นเป็นขอบกระดูกชัดขาวขึ้น  (Romanus Sign or Shiny Corner Sign)

  ทำให้เราเห็นเงาเอ็กซเรย์ของกระดูกสันหลังชัดเจน เป็นปล้องๆ ขอบกระดูกชัดเหมือนตัดเส้นด้วยสีขาว ทั้งหมดนี้เหมือนลำไม้ไผ่ เป็นที่มาของชื่อเรียก "bamboo spine"

  ปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่ดีพอจะหยุดยั้งการดำเนินโรคได้ชะงัด การลดปวด การกายภาพ ยังเป็นสิ่งสำคัญ การใข้ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ สารขีวภาพเพื่อต้านสารอักเสบร่างกาย มีที่ใช้ในแต่บะผู้ป่วยที่ต่างกันขึ้นกับความรุนแรงของโรค อาการร่วม ภาพรังสี
  ต้องปรึกษาแพทย์เป็นรายๆไปครับ บางคนต้องใช้ยามากมาย แต่บางคนแค่ลดปวดก็พอ

เรื่องนี้ยาวมาก หยิบยกมาแค่บางส่วนครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น