27 เมษายน 2561

จากงานประชุมราชวิทยาลัยอายุรแพทย์สู่ประชาชน 1

จากงานประชุมราชวิทยาลัยอายุรแพทย์สู่ประชาชน
1. ผลข้างเคียงของยาลดไขมัน Statin ที่พบบ้าง คือ ไม่บ่อยคือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งปวดเมื่อยกล้ามเนื้อนี้แยกยากจากปวดเมื่อยจากสาเหตุอื่นๆ หรือการเล่นกีฬา
2. ปวดเมื่อยที่คิดว่าอาจเกี่ยวกับ statin คือ มักปวดสะโพก ส่วนมากเกิดหลังใช้ยา 4 สัปดาห์ เมื่อเอายาออกแล้วอาการดีขึ้น ลองใส่ยากลับเข้าไปแล้วแย่ลง
3. หรือทำเป็นระบบคะแนนเรียก Statin Myalgia Clinical Index score คะแนนต่ำกว่าเจ็ดนั้น โอกาสเป็นน้อยมาก ที่มาจาก Journal of Clinical Lipidology, Vol 8, No 3S, June 2014
4. โอกาสเกิดกล้ามเนื้อบาดเจ็บรุนแรง rhabdomyolysis มีน้อยมาก มักเกิดในกลุ่มเสี่ยง ที่สำคัญคือ มียาที่เกิดปฏิกิริยากัน
5. ยาที่พบบ่อยๆคือ ยาลดไขมัน gemfibrozil, ยาต้านไวรัส protease inhibitor โดยเฉพาะการรักษา HIV, ยาลดความดัน verapramil, diltiazem, amlodipine ยารักษาเก๊าต์ colchicine
6. ถ้าจะใช้ยาสเตติน ต้องตรวจปฏิกิริยาระหว่างยาด้วย โดยเฉพาะ simvastatin ให้คุณเภสัชช่วยตรวจสอบให้ได้ ถ้าเกิดอันตรายอาจต้องเปลี่ยนชนิดยาหรือลดขนาดยา statin
7. ตับอักเสบเกิดได้ แต่ไม่อันตรายและมักหายได้เอง ควรหาสาเหตุอื่นๆร่วมด้วยเสมอ ในกรณีอักเสบรุนแรงจึงหยุดยา เช่นกันโอกาสเกิดตับอักเสบไม่บ่อยนัก
8. เพิ่มโอกาสเกิดโรคเบาหวานได้ในคนที่ไม่เป็นเบาหวาน แต่ไม่ได้ทำให้คนที่เป็นอยู่แล้วควบคุมเบาหวานได้แย่ลง โอกาสพบประมาณ 10% และไม่ได้เป็นปัญหาน่ากังวลมากนัก
10. ประโยชน์ที่ได้จากยา หากจำเป็นต้องกินนั้น มีมากกว่าผลเสียเพราะเกิดเบาหวานมากมาย
11. ปัญหาที่ statin ล้มเหลวที่สำคัญคือ กินยาไม่ต่อเนื่อง หยุดเอง หรือ คุณหมอสั่งหยุดทั้งๆที่ไม่ได้เกิดผลเสียรุนแรง ซึ่งไม่ควรหยุดถ้าหากจัดกลุ่มแล้วว่าได้ประโยชน์ กินแล้วไม่มีผลข้างเคียง
12. มีผลการศึกษาออกมาแล้วว่าการลด LDL ลงต่ำโดยใช้ยาจากในการศึกษาระดับ LDL ที่ลดลงจนถึง 40-50 mg/dL นั้น ไม่ได้เกิดอันตรายแต่อย่างใด
อันนี้สำคัญ เราใช้ยา statin ไม่ใช่เพื่อลดไขมันอย่างเดียว แต่เพื่อลดความเสี่ยงและอัตราตายจากหลอดเลือดต่างๆด้วย การพิจารณาว่าใครให้ยามีความสำคัญ และเมื่อจำเป็นต้องให้ก็ควรให้ยาจนถึงเป้าและไม่ควรหยุดยา
ขอขอบคุณการบรรยาย ของ อ.รุ่งโรจน์ กฤตยพงษ์, อ.พงศ์อมร บุนนาค, อ.ระพีพล กุญชร ณ อยุธยา มา ณ ที่นี้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น