18 มีนาคม 2561

Kartagener's syndrome

"แก..จงตายเสียเถอะ ปีศาจที่คร่าชีวิตคน" หมอแล็บเงื้อหมุดเงินสีวาววับ แทงเข้าไปที่ร่างไร้สีเลือดในโลงทองคำ บุผ้ากันไรฝุ่นนั้น ฉึกกก ตำแหน่งช่องซี่โครงที่สี่ใต้ราวนมซ้าย หวังผลสังหารผีดูดเลือดตนนั้น
ท่านแดร๊ก สะดุ้งตื่น เห็นหมอแล็บนำอาวุธสังหารในตำนานแทงทะลุอกซ้ายเขา แล้วหัวเราะหึหึ ผู้กล้าอีกรายแล้วสินะ ว่าแล้วก็จ้องกัดคอหมอแล็บ ดูดคอ ..ดูดเลือด หมอแล็บหลับตาพริ้มครวญครางว่า...ทำไมมันไม่ตาย
แล้วเขาก็ถูกดูดเลือดจนตาย ... นั่นคือวีรบุรุษคนสุดท้ายเมื่อหลายร้อยปีก่อน
อีกหลายร้อยปี โลกก็เดือดร้อนจากการล่าเหยื่อของท่านเค้าท์ ท่านเค้าท์ไม่เคยล้างปากแปรงฟัน แถมไม่สวมถุงเขี้ยว เขี้ยวก็ใช้ร่วมกัน ยังผลให้เกิดโรคติดต่อมากมายทั้งไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เอชไอวี ผู้คนล้มตายและหวาดกลัว ความสยองเข้าครอบงำทุกหย่อมหญ้า ฤา..ตำนานการใช้แท่งเงินแทงทะลุหัวใจจะไม่เป็นจริง
เหล่าผู้รู้พยายามหาวิธีต่างๆ แต่ก็หาเจอไม่ มีแต่องค์ความรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแดร๊กเพิ่มขึ้น อาทิเช่นท่านเค้าท์ไม่ชอบกระเทียม พ่อครัวคนก่อนทำหมูทอดกระเทียมให้กิน ก็ถูกสาปให้ไปยืนเฝ้าหน้าร้านไก่ทอดไปชั่วกาลนาน ท่านเค้าท์ชอบดื่มแต่น้ำเกลือไม่ดื่มน้ำเปล่า ท่านเค้าท์รักความสะอาดและไม่ชอบฝุ่น แต่ก็ไม่พบจุดอ่อนหรือวิธีสังหารแต่อย่างใด
เหล่าผู้กล้าทั้งหลายต้องการที่จะกำจัดท่านเค้าท์ เพราะตอนนี้พลังอำนาจเพิ่มมาก อำนาจวาสนาบารมี เหล่าผู้กล้าจึงเชิญยอดนักสืบ ชะล้อ ฮวง เข้ามาช่วยในภารกิจนี้
ค่ำวันนั้นที่ปราสาทท่านเค้าท์ ยอดนักสืบชะล้อ ฮวง, ท่านหมื่นสุนทรเทวา, และ ตัวประกอบตัวสีเหลืองๆ มีพลอยที่ขนตา ได้บุกเข้าไปเพื่อสังหารท่านเค้าท์ ขณะที่กำลังเดินย่างก้าวในปราสาทที่อับชื้น มีเพียงแสงสลัวๆจากตะเกียงส่องทาง รูปอิสตรีเซ็กซี่แสนสะคราญประดับเต็มผนัง ทันใดนั้น...
ปรื๊ดดด...โครม เจ้าตัวประกอบจอมซุ่มซ่ามลื่นล้ม ร้องเบาๆ อูยย...ลื่นมาก เอียะ..อะไรเนี่ย เมือกลื่นๆ เยอะแยะเลย อี๋...เสมหะ ท่านเค้าท์จอมโสโครก ปราสาทเบ้อเร่อ ไม่มีถังขยะหรือไง ทิชชูก็ไม่มี ขากเสมหะเกลื่อน..อี๋
"ท่านหมื่น ข้าขอไปล้างในห้องน้ำก่อนนะ" ตัวประกอบจอมซุ่มซ่ามบอก
"แล้วเอ็งรู้รึ ว่าไปทิศใด" ท่านหมื่นรู้สึกรำคาญใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่คบกับตัวประกอบมา ดูว่าชีวิตจะตกอับลงเรื่อยๆ
"ไม่ยากหรอกท่าน ท่านเค้าท์ ติดป้ายไว้ชัดเจน นี่ผู้หญิง นี่ผู้ชาย นี่คนพิการ นี่เจ้าตัวประกอบเราเป็นคนมีวัฒนธรรม อย่าไปเข้าห้องคนพิการ และอย่าไปแอบเข้าห้องผู้หญิงนะ" ชะล้อ ฮวง ชี้ทางไป
สักพัก เจ้าตัวประกอบตัวเหลือง ตาเดียว มีขนตาติดพลอย ก็ล้างมือเสร็จ เดินมายื่นขวดน้ำให้ท่านหมื่น บอกว่า "คำกล่าวเป็นจริงท่าน เจ้าแดร๊กดื่มแต่น้ำเกลือ ขวดน้ำเกลือเต็มห้องน้ำเลย มิน่ามันถึงทรงพลัง” แต่ว่าชะล้อ ฮวงกลับรู้สึกแปลก .. ใครจะดื่มน้ำเกลือ แถมนี่เป็นน้ำเกลือล้างแผลอีกด้วย อีกอย่าง ใบเสร็จแจ้งราคาน้ำดื่มที่เราพบในถังขยะก็แสดงว่าท่านเค้าท์ก็สั่งน้ำเปล่ามาดื่มเช่นกันนี่นา
จนกระทั่งถึงโลงทองคำ ท่านหมื่นเปิดโลงขึ้น เห็นร่างท่านเค้าท์เปลือยกาย ผิวขาวเนียนไร้ฝ้า กระจ่างใสอมชมพู อกเฟิร์ม ซิกแพ็คแน่น กล้ามเป็นมัด และโอ้ววว..มันช่าง..น่าอิจฉามาก
ท่านหมื่นยกหมุดเงินและค้อนยักษ์ที่ยืมมาจากธอร์ ตะโกนเสียงดังว่า "เพื่อเหล่าผู้กล้าทั้งหลาย วันนี้หากข้าสังหารเจ้ามิได้ ข้าจะมิหวนกลับอโยธยา" อนิจจาแทนที่จะได้สังหารง่ายๆ เสียงตะโกนของท่านหมื่นได้ปลุกท่านเค้าท์จากภวังค์ ท่านเค้าท์กระโดดผึงขึ้นยืนทันที บีบคอท่านหมื่นแน่น
ตัวประกอบส่ายหัว "ท่านหมื๊นนน เมิงจะตะโกนทำไมว้า มันตื่นเลย เอาช่วยก็ช่วย" ตัวประกอบคว้าดาบฟ้าฟื้นที่ขุนแผนให้ยืมมา หมายจะกุดหัวท่านเค้าท์ และทันใดนั้น
โครม !! ตัวประกอบสะดุดล้มหัวทิ่ม หัวน๊อคพื้นเสียชีวิตทันที พร้อมกับวัตถุที่เจ้าตัวประกอบสะดุดล้มประเด็นขึ้นมา ...หลอดฉีดยาขนาด 50 ซีซี
แม้เหตุการณ์ทั้งหมดจะเร็วมากแต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาเทวดาของชะล้อ ฮวง ... สมองอันปราดเปรื่องของเขา คำนวณทุกอย่างเร็วราวกับอินเตอร์เน็ตประเทศสารขันธ์
น้ำเกลือที่ไม่ได้มีไว้กิน ... ที่นอนกันไรฝุ่น ... แพ้สารต่างๆง่าย .. เสมหะมากมาย..หลอดฉีดยาห้าสิบซีซี และแทงไม่ตาย เขาหันไปตะโกนบอกท่านหมื่นทันที ..."ท่านหมื่น แทงที่อกด้านขวา"
ตัดฉากมาที่ท่านหมื่น แม้ท่านเค้าท์สุดแซ่บจะบีบคอและกำลังจะร่ายมนต์ใส่ ..อา..วา..ดา..เค..ดาฟ...ท่านหมื่นได้ยินเสียงสั่งจากชะล้อ ฮวง จึงรวบรวมกำลังแทงหมุดเข้าที่อกด้านขวา ซวบบบบบ (กรุณาทำเสียงให้เร้าใจจะเพิ่มอรรถรสในการอ่าน)
อะเฮื้อๆๆ อ๊ากซซ์ เจ้า เจ้า.... ท่านเค้าท์ล้มลง ดึงหมุดออก เลือดทะลักออกมาจากหัวใจเสียชีวิตทันทีเพราะขาดเลือดและหัวใจห้องล่างซ้ายเต้นผิดจังหวะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหมุดเงิน หมุดทอง หมุดทองแดงทั้งสิ้น
ท่านหมื่นหอบแฮ่กๆ สำรวจคอว่ามีบาดแผลหรือไม่ เมื่อไม่พบก็หันมาที่ชะล้อ ฮวง "นี่มันอะไรกัน ท่าน ทำไมมันตายง่ายเพียงนี้"
ชะล้อ ฮวง เดินเข้ามาช้าๆ ในมือเปิดหนังสือ Harrison Principle of Internal Medicine แล้วอธิบายว่า จริงๆปริศนาทั้งหมดคลี่คลายเพราะเจ้าตัวประกอบนะ ต้องยกความดีงามให้กับเขา คือมันก็อย่างนี้ ที่เจ้าตัวประกอบลื่นเมือกเหนียวๆเต็มปราสาท เพราะนั่นคือเสมหะ แสดงว่าท่านเค้าท์มีเสมหะมากมายเลย เรื้อรังด้วย เป็นอาการที่สำคัญอันหนึ่งของหลอดลมโป่งขยายเรื้อรัง bronchiectasis
และท่านเค้าท์ก็ต้องรักษาความสะอาดปราศจากฝุ่น เพราะภูมิแพ้ แพ้ง่าย เพราะหากมีสิ่งกระตุ้นเขาอาจมีเสมหะมาก ติดเชื้อในไซนัสง่าย หลักฐานอีกอันก็คือหลอดฉีดยาที่เขาทิ้งเกลื่อนกลาดและน้ำเกลือ เขาเอาไว้ล้างจมูกเพราะเสมหะมากและไซนัสอักเสบเรื้อรัง ใช้ร่วมกับน้ำเกลือสะอาดในการล้างจมูก
ชะล้อ ฮวงไขปริศนาต่อไป และที่ท่านหมอแล็บแทงหัวใจเขาแล้วไม่ตายเมื่อร้อยปีก่อน เพราะเขาแทงผิดด้าน !! ด้วยภาวะหลอดลมโป่งพองเรื้อรัง ไซนัสอักเสบเรื้อรัง แสดงถึงการพาสารคัดหลั่งออกจากร่างกายผิดปกติ เมื่อร่วมกับหัวใจที่อยู่ด้านขวา และอวัยวะภายในสลับข้าง เราเรียกภาวะนี้ว่า ..
“Kartagener's syndrome” ท่านหมื่นและชะล้อ ฮวง กล่าวขึ้นพร้อมกัน
"มิน่า เราถึงสังหารมันไม่ตาย เพราะเราเสียบผิดข้างนี่เอง หัวใจมันอยู่ฝั่งขวา โรคนี้ข้าเคยได้ยิน จากคัมภีร์โบราณ จากท่านลุงหมอของข้าเอง " ท่านหมื่นกล่าวขึ้น พร้อมกับเดินไปที่ร่างของตัวประกอบ เหวี่ยงขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้วยคุณงามความดีของเขา เขาจึงไปประดับบนท้องฟ้าเป็นกลุ่มดาวลูกไก่ หรือชื่อเล่นๆว่า เจี๊ยบ
"เราช่วยโลกได้แล้วล่ะท่าน อ้าว ท่าน ท่าน ..." ท่านหมื่นไม่เห็นชะล้อ ฮวง เสียแล้ว
บทส่งท้าย
ชะล้อ ฮวง นั่งร่ำสุราอยู่ที่ผับหรูย่านทองหล่อ ควักรูปท่านลุงหมอ เพื่อนเก่าแก่ของเขาขึ้นมา หยิบจอกสุรากรึ๊บเดียวหมด แล้วบอกว่า "เพื่อนรัก หลานของท่าน หมื่นสุนทรเทวานั้น ใบหน้าละม้ายคล้ายท่านอย่างกับพิมพ์เดียวกัน"
และห้าวหาญเยี่ยงลุงของเขา เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น